SCB EIC คาดครึ่งหลังปี 68 จีดีพีโตไม่ถึง 1% แม้รวม “คนละครึ่ง” แล้ว

กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- SCB EIC ประเมินจีดีพีปี 68 โต 1.8% เฉพาะครึ่งปีหลังโตไม่ถึง 1% แม้รวมมาตรการ “คนละครึ่ง” แล้ว ชี้เงินบาทแข็งค่าใกล้วิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 เอสเอ็มอีเปราะบาง นักศึกษาจบใหม่ว่างงานเพิ่มขึ้น 17-18% เสนอรัฐฟื้นความเชื่อมั่น -กระตุ้นเศรษฐกิจ-ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ หลังไทยถูกลดความน่าเชื่อถือ คาด กนง.ลดดอกเบี้ยปีนี้อีก 1 ครั้ง


ดร.ยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 3 ว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวเพียง 1.8% และชะลอลงเหลือ 1.5% ในปี 2569 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต โดยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อาจโตเฉลี่ยไม่ถึง 1% และยังเสี่ยง Technical recession ปัจจัยหลักมาจากการส่งออกที่อ่อนแรง หลังมีการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนการขึ้นภาษี ขณะที่ตัวเลขล่าสุดเดือนสิงหาคม 2568 การส่งออกเริ่มติดลบ และมีแนวโน้มต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า

อีกปัจจัยที่ซ้ำเติมคือ ค่าเงินบาทแข็งค่ามาก โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงกันยายน แข็งขึ้นเกือบ 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 4 ปี และหากเทียบกับค่าเงินคู่ค้าคู่แข่ง พบว่าค่าเงินบาทแข็งสุดใกล้เคียงปี 2540 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อเทียบกับเงินดองของเวียดนามที่อ่อนค่าลง 3% เท่ากับไทยเสียเปรียบด้านการแข่งขันประมาณ 10–11% กระทบทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว พร้อมมองเงินบาทในกรอบ 31.50-32.00 บาท/ดอลล่าร์ ในช่วงเดือนนี้ และกรอบ 31-32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นปี


ด้านการท่องเที่ยว แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ติดลบเริ่มดีขึ้นจาก -16% ในเดือนกรกฎาคม เหลือ -10% ช่วงครึ่งแรกกันยายน แต่ยังถือว่าหดตัวอยู่ ส่วนเศรษฐกิจในประเทศยังถูกกดดันจากหนี้ครัวเรือนสูง และความเปราะบางของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ซึ่งรายได้และกำไรยังไม่ฟื้นตัวเท่าช่วงก่อนโควิด ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ฟื้นไปไกลแล้ว

ดร.ยรรยง ชี้ว่า ปัญหาตลาดแรงงานก็น่ากังวล โดยอัตราว่างงานในระบบประกันสังคมเกิน 2% และว่างงานในบัณฑิตจบใหม่พุ่งแตะ 17–18% เสี่ยงทำให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่เศรษฐกิจนอกระบบ (informal economy) มากขึ้น

สำหรับนโยบายการเงิน SCB EIC คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้ เหลือ 1.25% และอีก 1 ครั้งในต้นปีหน้าเหลือ 1% เพื่อผ่อนคลายภาวะการเงิน ช่วยลดภาระหนี้และความเสี่ยงเครดิต หากเศรษฐกิจชะลอเกินคาดหรือเงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่องเปิดช่องให้ลดได้อีก ขณะเดียวกันควรเสริมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วย SME ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเฉพาะการลงทุนสีเขียวและเทคโนโลยีดิจิทัล


ขณะที่ด้านการคลัง ประเด็นใหญ่คือความกังวลที่ Moody’s และ Ficth ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือไทยจาก “คงที่” เป็น “เชิงลบ” โดยอ้างถึงการเติบโตต่ำและฐานะการคลังเปราะบาง หนี้สาธารณะเพิ่มต่อเนื่อง ดังนั้นรัฐบาลใหม่ควรเดินหน้า 3 ภารกิจหลักคือ
1.)Stabilize เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้ฟื้นคืนมา หลังเศรษฐกิจไทยเผชิญกับความท้าทายในกลายมิติ โดยต้องเน้นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ทำได้จริง ควบคู่กับการสื่อสารเชิงรุกและประบวนการผลักดันที่มีประสิทธิภาพ
2.)Stimulate เพื่อกระตุ้นอุปสงค์เศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยเน้นมาตรการการคลังที่ตรงจุด รวดเร็วและชั่วคราว ตลอดจนการเร่งรัดการเบิกจ่าย เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับเศรษฐกิจ ควบคู่กับผ่อนคลายภาระการเงินที่ตึงตัว ผ่านการลดดอกเบี้ยนโยบาย การใช้กลไกการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs และการดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนกระทบต่อภาคส่งออก
3.)Structural reform ด้วยการยกระดับนโยบายภาครัฐเพื่อช่วยสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจ ผ่านการแก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ การจัดหาตลาดส่งออกใหม่และการผลักดันการลงทุน Green transformation ตลอดจนการวางรากฐานของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว ผ่านการวางกรอบนโยบาย ส่งเสริมอุตสาหกรรมสำหรับอนาคตของประเทศ การพัฒนาทักษะของแรงงานและการปฏิรูปการคลัง

ดร.ยรรยง กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการ “คนละครึ่ง” ว่าแม้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้บ้าง และออกทันเวลาพอดี แต่ผลต่อจีดีพีมีจำกัด เช่นเดียวกับมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนที่ยังต้องเร่งเดินหน้า โดยเฉพาะสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วย SMEs ปรับตัว นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือการเร่งเบิกจ่ายภาครัฐ เนื่องจากช่วงหลังการเบิกจ่ายและการลงทุนภาครัฐมีทิศทางชะลอตัว ดังนั้น เมื่อเริ่มต้นงบประมาณปีใหม่ในเดือนตุลาคม ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งในการเร่งรัดเบิกจ่าย ไม่ว่าจะเป็นงบประจำ หรืองบ 1.5 แสนล้านบาทที่เพิ่งจัดสรร เพราะหากสามารถเร่งเบิกจ่ายได้ทัน จะช่วยเสริมแรงขับเคลื่อน (momentum) ทางเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนกรณีที่สหรัฐฯประกาศ specific tariff เก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับยาที่มีแบรนด์หรือจดสิทธิบัตรที่เริ่ม 1 ต.ค.นี้ ประเมินว่ากระทบต่อการส่งออกของไทยเพียง 1-2% และอาจไม่รุนแรงมากนัก แต่ยังคงเป็นสัญญาณเตือนว่าความไม่แน่นอนในเวทีการค้าระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องติดตามคู่ค้าและคู่แข่งอย่างใกล้ชิดต่อไป

พร้อมชี้ว่า ความเชื่อมั่นเป็นกุญแจสำคัญ รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายชัดเจน เดินหน้าเชิงรุก มีการสื่อสารต่อเนื่อง เช่น การเปิดเผยแดชบอร์ดเศรษฐกิจรายสัปดาห์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วน แม้เศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าจะเผชิญความท้าทายหนัก แต่หากจัดการปัญหาการส่งออกและท่องเที่ยวได้ มีโอกาสเห็นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2570 เป็นต้นไป-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

“ทวี” พุ่งเป้า “อนุทิน” เอี่ยวคดี “เขากระโดง-ฮั้วสภาสูง”

รัฐสภา 29 ก.ย.- “ทวี” ลุกพุ่งเป้า “อนุทิน” เอี่ยวคดี “เขากระโดง-ฮั้วสภาสูง” ทำมีกระมิดกระเมี้ยนเกรงใจ บอกเรื่องนี้เกี่ยวกับท่านประธาน “มงคล” ด้วย ด้าน สว.-สส.ภท. ประท้วงวุ่น “พิสิษฐ์” ยกหนังสือน้ำเงินโชว์ บอกถ้าไม่มีในหนังสือนี้ ไว้ไปอภิปรายรอบสมัยหน้า ขณะ “นันทนา” ของขึ้น! ยังพูดไม่จบเจอประธานขอให้หยุด ส่วน “อดิศร” เอาบ้าง ระบุเพื่อให้เป็นกลาง ขอให้เปลี่ยนประธานเป็น “วันนอร์” แทน การประชุมรัฐสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปราย ว่า ท่านประกาศว่าเป็นรัฐบาลเพียง 4 เดือน แต่เท่าที่ดูแล้ว เหมือนจะบริหารประเทศไปอีก 4 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ก็จะมีผลบังคับใช้ ในวงเงินนี้จะมีรายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท […]

ฝนตกน้ำกัดเซาะตลิ่ง บ้านพังลอยน้ำแม่ยวม

29 ก.ย. – น้ำกัดเซาะตลิ่งใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน บ้านทั้งหลังพังลงน้ำ ส่วนที่สระแก้ว น้ำป่าทะลักช่วงกลางดึก พื้นที่บ้านคลองบุหรี่เสียหายกว่า 20 หลัง ผู้ใหญ่บ้านนำรถไถช่วยอพยพชาวบ้านหนีน้ำ สถานการณ์น้ำป่าหลากและไหลเชี่ยวในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กัดเซาะตลิ่งเป็นแนวยาว ส่งผลให้บ้านเรือนติดริมน้ำยวม บ้านห้วยสิงห์ หมู่ 4 ตำบลแม่ยวม ทรุดตัวพังลงน้ำ 1 หลัง เจ้าของบ้านหนีออกมาได้ทัน โดยมีผู้นำท้องที่ เทศบาลตำบลแม่ยวม และชาวบ้านช่วยกันเร่งขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านได้ทัน ขณะที่เส้นทางสู่ชายแดนบ้านเสาหิน ต.เสาหิน มีฝนตกหนัก ส่งผลทำให้น้ำในลำห้วยไหลหลากและมวลน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นเป็นระยะ โดยเฉพาะน้ำแม่แงะ บริเวณท่าน้ำแม่เจ การสัญจรเส้นทางต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ชาวบ้านต้องใช้เชือกผูกตัวรถ เพื่อช่วยดึงรถขึ้นฝั่ง เนื่องจากน้ำสูงไหลเชี่ยวมาก เกรงพัดรถลอยหาย เร่งช่วยชาวบ้านสระแก้วถูกน้ำซัดปลอดภัย ช่วงกลางดึก เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านคลองบุหรี่ ม.6 ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว ส่วนพื้นที่ตำบลบ้านแกร้ง เขาสิงโต มีชาวบ้านถูกน้ำป่าซัดหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นหา เร่งดึงร่างขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ บ้านคลองบุหรี่ […]

เตรียมถมดินอุดหลุมยักษ์ได้พรุ่งนี้ คาดเปิดถนนได้ 9 ต.ค.

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาดพรุ่งนี้เริ่มถมดินอุดหลุมยักษ์ได้ ระบุ 6 วันที่ผ่านมามีทิศทางดี คาดก่อนเปิดถนน 9 ต.ค. ใช้รถบรรทุกวิ่งทดสอบ สร้างความมั่นใจก่อนเปิดใช้จริง ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหลุมยุบขนาดใหญ่บริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ เริ่มเคลื่อนย้ายท่อเหล็กขนาดใหญ่ เพื่อวันพรุ่งนี้เตรียมจะถมดินลงไปในหลุม บริเวณสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ซึ่งเป็นจุดที่ต้องให้ระดับพื้นดินเท่ากันและมั่นคง ทีมวิศวกรจะใช้รถแม็คโครขนาดเล็กดำเนินการขุดและตรวจสอบใต้ท้องอาคาร พร้อมอาจมีการเสริมโครงสร้างชั่วคราวในช่องว่างใต้ฐานราก เพื่อรักษาเสถียรภาพของอาคารไว้ สำหรับการเปิดพื้นผิวจราจร คาดว่าจะสามารถเปิดพื้นถนนได้ในวันที่ 8 ตุลาคม และเปิดให้รถสัญจรได้ในวันที่ 9 ตุลาคม โดยก่อนเปิดใช้เส้นทางอย่างเป็นทางการ ทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการทดสอบความแข็งแรงของพื้นผิวถนนก่อนเปิดใช้งาน เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน โดยเตรียมใช้รถบรรทุกวิ่งผ่าน เพื่อประเมินความแข็งแรง หรือให้เจ้าหน้าที่ทดลองขับรถผ่านก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนตุลาคม หากการซ่อมแซมเป็นไปตามแผนก็มีความเป็นไปได้สูงที่ประชาชนจะสามารถกลับเข้าพักอาศัยในอาคารใกล้เคียงได้อีกครั้ง ทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินสภาพโครงสร้างอย่างละเอียดก่อน. -415-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที

รัฐสภา 29 ก.ย.-“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที ยันมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดิน ขับเคลื่อนนโยบาย แก้ปัญหาเฉพาะหน้า-วางรากฐานนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า พร้อมชูโครงการ “คนละครึ่ง” ลดรายจ่าย เร่งดับไฟสงครามไทย-กัมพูชา ประกาศชัดล้มกาสิโนถูก กม .ยึดหลักซื่อสัตย์-ผลประโยชน์ประเทศ การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประะานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำทีมครม.เข้าแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างพร้อมเพรียง ระบุว่า ครม.ขอแถลงหลักการบริหารราชการแผ่นดิน และนโยบายสำคัญของรัฐบาล จะยึดหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.พิทักษ์รักษาไว้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ยึดมั่นหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม บริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานธรรมาภิบาล นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลเข้าบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง […]