ก.คลัง 14 ส.ค. – คลัง จับมือสาธารณสุข เชื่อมข้อมูลด้านสุขภาพ รองรับจัดสวัสดิการ การรักษา เข้าถึงแหล่งทุน ปิดช่องโกงซื้อยา โกงภาษี
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU กับนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเชื่อมข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนนโยบายระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุข ทำให้กระทรวงคลังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ครอบคลุมประชาชน 60 ล้านคน ทั้งด้านบัตรสวัสดิการ ข้าราชการ ข้อมูลเงินฝาก เครดิตบูโร ค่าน้ำไฟฟ้า ประปา ข้อมูลลูกค้าแบงก์รัฐ ข้อมูลการรักษาพยาบาล ทำให้กระทรวงการคลังรู้จักพฤติกรรมคนไทยมากขึ้นจากฐานข้อมูล ทำให้การจัดทำ เครดิตสกอริ่ง การเข้าแถึงแหล่งทุน การจัดทำ Negative Income Tax (NIT) คือ แนวคิดในการเก็บภาษีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ต้องจัดทำในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่การออกมาตรการ หรือจัดสวัสดิการดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ และออกแบบนโยบายได้เฉพาะเจาะจง ในแต่ละกลุ่มคน และพื้นที่ตามความต้องการของแต่ละภูมิภาคมากขึ้น ทำให้การออกนโยบายมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และคุ้มค่า จัดสรรงบประมาณได้อย่างคุ้มค่า กระทรวงคลัง จึงผลักดันให้งบประมาณปี 69 เป็นปีแรก จัดทำงบรายจ่ายเท่ากับงบปี 68 ด้วยกรอบงบ 3.78 ล้านล้านบาท เพื่อไม่ต้องเบ่งงบประมาณของประเทศไม่ให้เพิ่มขึ้นมากนัก โดยไม่เน้นการกู้เงินเพิ่ม แต่เพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี เมื่อเชื่อมโยงข้อมูล 3 กรมจัดเก็บภาษี จะรับรู้ข้อมูลมากขึ้น หากแจ้งภาษีนำเข้าของศุลกากรต่ำ แต่มียอดรายได้ และกำไรสูง จากยอดสรรพากร ทำให้ติดตามภาษีได้โปร่งใสมากขึ้น
นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า การเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลรับรู้สุขภาพกาย สุขภาพทางการเงิน ผลักดันนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ทำให้เกิดประโยชน์ และปลอดภัย ป้องกันการเวียนเทียนซื้อยาของข้าราชการ และข้าราชการบำนาญ ทำให้รัฐบาลนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ และสุขภาพ การจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการบริหารจัดการข้อมูลมากขึ้น รวมถึงการใช้ข้อมูลรักษาพยาบาลคนต่างด้าว เข้ามาทำงานในประเทศ จะใช้ระบบไบโอเมทิกซ์ เพราะคนต่างด้าวไม่ใช้บัตรประชาชน 13 หลัก ทำให้บริหารจัดการสาธารณสุขมีประสิทธิภาพมากขึ้น .- 515- สำนักข่าวไทย