กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – รมช.พาณิชย์ เผยข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอเมริกา ต้องผ่านสภาฯ ย้ำอัตราภาษี 19% เป็นจุดเริ่มที่ดี แต่ไทยต้องเสริมศักยภาพการผลิต ใช้วัตถุดิบในประเทศและจัดการเอกสารถิ่นกำเนิดสินค้าให้ได้มาตรฐาน
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจากับสหรัฐอเมริกาภายใต้มาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยอัตรา 19% ว่าขณะนี้ทีมเจรจาของไทยอยู่ระหว่างสรุปเนื้อหาข้อตกลงอัตราภาษีต่างตอบแทน (Agreement on Reciprocal Tariff Text : ART Text) โดยเมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อให้ผู้แทนประชาชนร่วมตัดสินใจว่าข้อตกลงดังกล่าวเหมาะสมกับประเทศหรือไม่
“ข้อตกลงทางการค้าดังกล่าว เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้สภาฯ พิจารณา เพราะจะกำหนดทิศทางการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะยาว” นายฉันทวิชญ์กล่าว
ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 19% ถือเป็น “ข่าวดีในขั้นแรก” ที่ช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดสหรัฐ แต่ไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎการคำนวณมูลค่าการผลิตในประเทศ (Regional Value Content : RVC) และกฎถิ่นกำเนิดสินค้า (Rule of Origin) เพื่อคงสิทธิประโยชน์ทางการค้าและขยายศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดตั้งศูนย์ One-Stop Service เพื่อช่วยผู้ประกอบการทุกระดับปรับโครงสร้างการผลิต ใช้วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น และพัฒนาระบบการจัดการเอกสารถิ่นกำเนิดสินค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ โดยมีการหารือร่วมกับหน่วยงานสหรัฐ และภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนการปรับตัวเชิงลึกของภาคการผลิต
นายฉันทวิชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการเจรจายังมีประเด็นต้องพิจารณา เช่น การเปิดตลาด (Market Access) การลดข้อจำกัดที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers) และตารางอัตราภาษีเฉพาะสินค้า โดยผลลัพธ์ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนขั้นตอนการลงนามอย่างเป็นทางการ. -512-สำนักข่าวไทย