ยกระดับกำกับดูแลซื้อขายหลักทรัพย์ ป้องกันซ้ำร้อยคดีหุ้น MORE

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้ำได้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยคดีหุ้น MORE พร้อมผนึก ปปง., DSI, บช.ก. และ ASCO ดำเนินการกับผู้กระทำผิดและสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) แถลงความคืบหน้าสำคัญในการดำเนินการคดีหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ( MORE) และการยกระดับการทำงานร่วมกันเพื่อตลาดทุนไทย

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า คดีหุ้น MORE ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของการกระทำความผิดในตลาดทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ในวงกว้าง ซึ่งการดำเนินการกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันสะท้อนให้เห็นว่า การบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานภาคตลาดทุนมีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน


สำหรับคดีหุ้น MORE นอกเหนือจากการดำเนินการตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้เป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการกระทำความผิด การรวบรวมพยานหลักฐาน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งช่วยทำหน้าที่สื่อสารความคืบหน้าทางคดีให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนและผู้ลงทุนได้รับทราบ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย

“สำหรับการป้องกันความผิดลักษณะนี้ในอนาคต ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ยกระดับมาตรการกำกับดูแล โดยเฉพาะการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพกฎเกณฑ์ เช่น มาตรการ Auto Pause รายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการหยุดซื้อขายอัตโนมัติ 60 นาที หากพบความไม่สมดุลของคำสั่งซื้อขายเกิน 15% ของปริมาณหุ้นจดทะเบียน เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์และผู้ลงทุนมีเวลาตรวจสอบและจัดการคำสั่งซื้อขายได้ทันสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีมาตรการ Minimum Resting Time การเปิดเผยข้อมูลหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น และการเปิดเผยข้อมูลผู้ลงทุนที่ส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมแก่สมาชิกทุกบริษัท เพื่อใช้ในการบริหารความเสี่ยงและป้องปรามพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที” นายอัสสเดช กล่าว

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า ASCO เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่สำคัญในการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลให้กับบริษัทหลักทรัพย์สมาชิกที่ได้รับความเสียหาย ตั้งแต่ช่วงเริ่มเกิดเหตุการณ์ของการกระทำความผิด จนสามารถรวบรวมหลักฐานในการร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ASCO ได้นำเสนอมาตรการต่าง ๆ ต่อหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อปิดความเสี่ยงไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกในอนาคต และที่สำคัญ คือ การจัดตั้ง Securities Data Exchange Platform (SDEP) เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์รับทราบข้อมูลลูกค้าที่มีความเสี่ยงในระดับอุตสาหกรรม ทั้งข้อมูลวงเงิน คุณภาพหลักประกัน มูลหนี้ และประวัติการชำระราคา ด้วยการจัดตั้ง Platform การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ Decentralized คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 1 ก.พ. 2569


พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กล่าวว่า คดีหุ้น MORE เป็นคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน ผู้กระทำความผิดมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับตลาดหุ้นและใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวช่วยในการกระทำความผิด ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจำนวนมาก บช.ก.ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานในสังกัดและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ ก.ล.ต. ปปง. และ DSI เพื่อเร่งรัดดำเนินการระงับยับยั้ง ความเสียหาย จนสามารถดำเนินคดีและมีความเห็นสั่งฟ้องผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 42 ราย ถือเป็นคดีปั่นหุ้นที่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้จำนวนมากที่สุดและสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้สูงถึง 4,500 ล้านบาท ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทำให้สามารถยับยั้งการกระทำความผิดและดำเนินคดีได้อย่างทันท่วงที

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ความสำเร็จจากการประสานความร่วมมือข้ามหน่วยงาน (inter-agency cooperation model) ในการดำเนินคดีหุ้น MORE อันนำไปสู่การป้องกันความเสียหายและติดตามทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถระงับธุรกรรมต้องสงสัยได้ภายในวันเดียว ลดเวลาดำเนินการจากเดิมที่ใช้เวลา 2-3 วัน ส่งผลให้สามารถตัดวงจรอาชญากรรม ยับยั้งการกระทำผิดทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยด้วยความโปร่งใสในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเป็นระบบ สำหรับคดีหุ้น MORE ศาลมีคำสั่งคืนหรือชดใช้ทรัพย์สินให้บริษัทหลักทรัพย์ผู้เสียหาย 10 ราย รวมมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการข้อมูลและอำนาจหน้าที่ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดทุนไทยมีความน่าเชื่อถือและมั่นคงมากขึ้นในระยะยาว

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า คดีหุ้น MORE เป็นพัฒนาการของอาชญากรรมทางเศรษฐกิจอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้กระทำผิดอาศัยความรู้ ความชำนาญ เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ อยู่ในแวดวงนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ รู้ขั้นตอนวิธีการซื้อขาย ชำนาญจนมองเห็นช่องโอกาสที่จะทุจริตได้ ความสำเร็จของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน ยกระดับมาตรฐานการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ระงับยับยั้งความเสียหายของบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 10 บริษัท รวมความเสียหายประมาณ 4,500 ล้านบาท ที่จะต้องชำระให้กับผู้ขายหลักทรัพย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยใช้มาตรการทางแพ่งของกฎหมายฟอกเงิน ในการร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินและนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย และยังมีการดำเนินคดีอาญากับกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายฟอกเงิน เท่ากับผู้กระทำผิดไม่ได้ทรัพย์สินตามที่ตั้งใจไว้และยังอาจจะต้องรับโทษในทางอาญาในสถานหนักด้วย. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย