“หวยเกษียณ” ใกล้เส้นชัย! กอช. ร่างกฎหมายจ่อเข้าสภา ถกวาระ 2-3 23 ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 19 ก.ค.-10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออมกับหวยเกษียณ “หวยเกษียณ” เปลี่ยนพฤติกรรมการออมคนไทย ภายใต้แนวคิด “ซื้อหวยเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม” รัฐใช้งบปีละ 780 ล้านบาท เป็นเงินรางวัล

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดงาน “10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ทัณฑสถานหญิงกลาง, ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.), กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), TrueMoney, AIS และ ShopeePay ที่มาร่วมออกบูธ เพื่อให้คำแนะนำด้านการออมและการวางแผนทางการเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างวินัยการออม และเตรียมพร้อมให้คนไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง


​ดร.เผ่าภูมิ ได้กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยว่า ในยุคที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งการเข้าสู่สังคมสูงวัย ความผันผวนของระบบการเงินของโลกและการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นการสร้างวินัยการออมในระดับครัวเรือนจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว สำหรับการจัดงาน “10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ” จึงนับเป็นก้าวใหม่ที่ กอช. ได้นำเสนอ “หวยเกษียณ” ในฐานะนวัตกรรมทางการเงินภายใต้แนวคิด “ซื้อหวยเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมที่คนไทยมีอยู่แล้ว เพื่อเติมเต็มให้คนไทยได้ออมเงินกันถ้วนหน้าผ่าน “หวยเกษียณ”

​ดร.เผ่าภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายสนับสนุนการออมที่เข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่ง “หวยเกษียณ” จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยผลักดันให้สามารถเพิ่มเงินออมของประชาชนทุกคน โดยจะร่วมกันขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือระหว่าง กอช. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ ปัจจุบันร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้ กอช. มีหน้าที่และอำนาจในการออกและจำหน่าย “หวยเกษียณ” เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนออมเงิน ผ่านการลุ้นรางวัล และสร้างระบบการออมที่ยั่งยืนรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย


​สำหรับ “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” เป็น สลากขูดดิจิทัล ราคาฉบับละ 50 บาท เปิดจำหน่ายให้ผู้มีสัญชาติไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้สูงสุดเดือนละ 3,000 บาท (60 ฉบับ) ผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” โดยออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท (5 รางวัล) รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท (10,000 รางวัล) ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ทันที โดยเงินซื้อสลากทุกบาทจะถูกสะสมไว้เป็นเงินออม และผู้ซื้อสสลากจะได้รับเงินออม พร้อมผลประโยชน์เป็นก้อนในครั้งเดียว 4 กรณีดังนี้ 1.อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ 2.อายุมากกว่า 60 ปี จะได้รับเงินคืนทั้งหมดเมื่อครบ 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อสลาก และสามารถซื้อต่อไปได้คราวละ 5 ปี 3.ทุพพลภาพ, เสียสัญชาติไทย และ4.เสียชีวิต คืนเงินให้แก่บุคคลที่ระบุไว้ หรือทายาท

​นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวถึงบทบาทและผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาว่า กอช. ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกการออมเพื่อสังคมให้แก่แรงงานนอกระบบ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มประชาชนทั่วไป อายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี ที่ไม่มีสวัสดิการบำเหน็จบำนาญจากรัฐ เพื่อสร้างหลักประกันรายได้ยามชราภาพ กอช. เปิดดำเนินงานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 มีสมาชิกเริ่มต้นเพียง 300,000 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กอช. ได้ขยายช่องทางการออมที่สะดวกทันสมัย และสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2565 กอช. ขับเคลื่อน “วาระการออมแห่งชาติ” ผลักดันการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเพดานการออมจากปีละ 13,200 บาท เป็นสูงสุด 30,000 บาท และเพิ่มเงินสมทบจากรัฐจากไม่เกิน 1,200 บาท เป็น 1,800 บาทต่อปี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนออมได้มากขึ้นและได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นทำให้ปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.7 ล้านคน และมีทรัพย์สินกองทุนรวมกว่า 15,152 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568)

​“กอช. ยังขยายโครงการสร้างวินัยการออมให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผ่านความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ตลอดจนขยายเครือข่ายการออมสู่แรงงานนอกระบบ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขังในโครงการ “สร้างชีวิตใหม่” เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงโอกาสการออมอย่างแท้จริง และยังได้ขับเคลื่อนงานผ่านกระทรวงมหาดไทยที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ และยังสร้างตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ


​นอกจากนี้ เรายังได้ขยายช่องทางการรับสมัครและส่งเงินออม ผ่านธนาคารกรุงไทย, ออมสิน, ธอส., ธกส., ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เดินหน้ายกระดับการให้บริการ เพิ่มช่องทางการออมที่สะดวก รวดเร็ว เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกคน โดยสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินออมผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” และพันธมิตรดิจิทัลชั้นนำอย่าง ทรูมันนี่, MyAIS และ ShopeePay ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ที่ทุกการออมทำได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส”นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

สำหรับในวาระครบรอบ 10 ปีนี้ นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า กอช. ยังเปิดตัว “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการออมรูปแบบใหม่ โดยรัฐบาลมุ่งหวังให้ “หวยเกษียณ” เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการขยายโอกาสการออมให้กับคนไทยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม กอช. จะเดินหน้ายกระดับบริการต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบการออมที่ยั่งยืนและครอบคลุมทุกกลุ่มประชาชน สร้างอนาคตที่มั่นคงให้คนไทย ก้าวข้ามความเสี่ยงของสังคมสูงวัยอย่างมั่นใจ

​ขณะที่ ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงการเข้าสู่สังคมสูงวัยและความมั่นคงทางรายได้หลังเกษียณของประเทศไทยว่า จากข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า รายได้หลังเกษียณที่เพียงพอควรอยู่ที่อย่างน้อย 50–60% ของรายได้ก่อนเกษียณ แต่แรงงานในระบบของไทยมีรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยเพียง 41% ขณะที่แรงงานนอกระบบมีรายได้หลังเกษียณต่ำกว่า 5% และมีรายได้ไม่แน่นอน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ภาครัฐต้องหามาตรการเพิ่มแรงจูงใจในการออม เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ในยามเกษียณให้กับประชาชนทุกกลุ่ม

​“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะส่งผลต่อโครงสร้างรายได้ รายจ่ายของภาครัฐ และอาจกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการลดลงของสัดส่วนประชากรวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลง ขณะที่รัฐต้องใช้งบประมาณในการดูแลสวัสดิการด้านบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ทั้งเบี้ยยังชีพ เบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ และเงินสมทบกองทุนการออมเพื่อการเกษียณต่างๆ โดยในปี 2567 ภาครัฐใช้งบประมาณด้านสวัสดิการบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุรวม 500.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปี 2557 ที่ใช้งบประมาณ 253.4 ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของงบประมาณ”ดร.วโรทัย กล่าว

​ดร.วโรทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว ภาครัฐจึงสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออมเงินด้วยตนเองผ่าน “หวยเกษียณ” ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้หลังเกษียณ และลดภาระงบประมาณของรัฐ โดยโครงการหวยเกษียณ ใช้งบประมาณเงินรางวัลปีละ 780 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มเงินออมเพื่อการเกษียณให้กับประเทศปีละ 13,000 ล้านบาท หรือทุก 1 ล้านบาทที่รัฐใช้เป็นเงินรางวัล จะช่วยเพิ่มเงินออมเพื่อการเกษียณได้ถึง 16.6 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้จะไม่เพียงแต่อยู่ในบัญชีเงินออม แต่จะถูกนำไปลงทุนต่อในตลาดทุน ทำให้มีเงินไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทำให้มีเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ ในประเทศ นำไปสู่การจ้างงาน และการกระจายรายได้สู่ประชาชน สุดท้ายแล้วไม่เพียงแต่ประชาชนได้ประโยชน์จากเงินออมของตัวเอง.-515.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย