กรุงเทพฯ 19 ก.ค.-ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่กว่าแสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.28 สะท้อนความต้องการบ้านยังพุ่ง เดินหน้าปล่อยกู้ครึ่งปีหลังกว่า 150,000 ล้านบาท มุ่งเป้าปี 68 ทำให้คนไทยมีบ้าน 241,780 ล้านบาท
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2568 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 107,227 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 95,382 บัญชี เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.28 ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.834 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.91 สินทรัพย์รวม 1.924 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.15 เงินฝากรวม 1,670 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.43 นับว่าคนต้องการบ้านยังมีจำนวนมาก ตามนโยบายกระทรวงการคลัง ต้องการให้ใปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง
รวมทั้งบ้านในระดับราคามากกว่า 7 ล้านบาท โดยธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อกับกลุ่มดังกล่าว 85,000 ล้านบาท ทำให้ ธอส. มีส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 42% ของการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ ธอส. ยังให้ความช่วยเหลือลูกค้า ผ่านมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้ได้รับความช่วยเหลือด้วยดอกเบี้ยพิเศษและลดเงินงวดนาน 1 ปี เพื่อให้ลูกค้ากลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป
ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 7,652 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 9,766.71 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ธอส. ยังเปิดให้ลูกค้าขอขยายเวลาการผ่อนชำระเงินงวดนานถึงอายุ 80-85 ปี เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับลูกค้า โดยมีผู้สนใจยื่นขอขยายเวลาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ส่วนโครงการคุณสู้ เราช่วย ที่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าลดเงินงวดนาน 3 ปี นั้น มีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 90,937 บัญชี คิดเป็นหนี้ค้างจำนวน 105,465.06 ล้านบาท
นายกมลภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ธอส. ยังเดินหน้าปล่อยสินเชื่อใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจะทำให้ทั้งปี ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 241,780 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ธอส. ยังเพิ่มโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง หรือลูกค้าโครงการจัดสรรได้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
ด้วยโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน เพื่อให้ผู้ที่ไม่มีเอกสารหลักฐานทางการเงิน หรืออยู่ระหว่างการผ่อนดาวน์ที่อยู่อาศัยกับผู้ประกอบการโครงการจัดสรร ออมเงินสม่ำเสมอผ่าน Application : GHB ALL GEN เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนนำข้อมูลการออมดังกล่าวใช้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. ได้ ถือเป็นส่วนหนึ่ง ในการทำให้คนไทยทุกกลุ่มมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.-515.-สำนักข่าวไทย