ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ 18 ก.ค.- “ทักษิณ” แนะออกมาตรการหนุน บจ.ซื้อหุ้นคืน เร่งฟื้นความเชื่อมั่น ดีลภาษีกับสหรัฐ ต้องเจรจาให้ไทยได้ประโยชน์ร่วม
ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา ”ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย …สู้วิกฤติโลก (Unlocking Thailand’s Future) จัดโดย อสมท ว่า จากการสำรวจความเห็นประชาชนคนไทย นับว่าสัดส่วนร้อยละ 62 ต้องการความหวัง Hope เพราะขณะนี้มีความกังวงเรื่องความมั่นคงด้านอาชีพ ด้านการงาน รายได้ และต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ เมื่อตลาดหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่องจาก 1,600 จุด ลดลงต่อเนื่องมากเหลือ 1,200 จุด รัฐบาลต้องปรับสูตรใหม่ จากการพึ่งพารายได้จากการส่งออก ด้านท่องเที่ยว การผลิตในประเทศ เพื่อสร้างความหวังให้กับคืนมา จะมีเงินใหม่เข้ามาลงทุน
“อยากให้สำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมให้มีกลไกบริษัทจดทะเบียนรับซื้อหุ้นคืน ต้องมีมาตรการส่งเสริมให้มาตรการดังกล่าวทำงานมากขึ้น เมื่อหุ้นใหญ่ มีศักยภาพ มูลค่าสูงราคาลดลง เจ้าบริษัทต้องรับซื้อหุ้นคืน หากตัวเองบอกว่าหุ้นดี ต้องมีความเชื่อมั่นในหุ้นตัวเอง นักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนทั่วไปถึงจะเชื่อมั่น หากบอกว่าตัวเองเป็นหุ้นดี แต่ไม่ยอมซื้อคืนแล้วใครจะไปลงทุน และมองว่าขณะนี้ ฟรีโฟลท์ขายในตลาดของหุ้นแต่ละตัวน้อยเกินไป” ดร.ทักษิณ กล่าว
สำหรับการเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐ แม้จะรู้จักกัน แต่ทั้งหมดขึั้นอยู่กับการเจรจาการดีล เพื่อเกิดประโยชน์ทั้งสองประเทศ ขณะนี้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย และส่งออกไปยังสหรัฐ และยังมีเรื่องสินค้าที่สหรัฐใช้ไทยเป็นฐานการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง จากนั้นส่งกลับไปที่สหรัฐ แต่สิ่งเป็นห่วงคือ สินค้าเกษตร เอสเอ็มอี และอัญมณี สินค้าไทยอาจได้รับผลกระทบ ดังนั้น การเจรจา ต้องมองว่าการนำสินค้าจากต่างประเทศ ให้มาแข่งกันเองในประเทศไทยไม่เป็นไร
เช่น นำเข้าเนื้อจากออสเตรเลีย มาแข่งกับเนื้อสหรัฐ หรือ สหรัฐนำเข้ารถมอเตอร์ไซด์ฮาเล่เดวิสัน เข้ามาแข่งกับบิ๊กไบค์ยี่ห้อต่างๆ ดังนั้น “คำว่าดีลไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจ ดีลกันต่อ เมื่อเป็นเรื่อง Economy ของประเทศ ต้องมีการเจรจากันต่อไป ยอมรับว่าจีดีพีไทย เติบโตต่ำกว่าศักยภาพร้อยละ 22 – 75 หาก ต่ำกว่าศักยภาพร้อยละ 50 จีดีพีไทยมีขนาด 600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ความจริงควรมีมูลค่า 900 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อบริหารประเทศไม่ดีมานาน จึงตกต่ำมาอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
ดร.ทักษิณ ยังแนะรัฐบาล มุ่งส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน ปัจจุบันสนามบินเก็บค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge) หรือ PSC ต่ำกว่าสนามบิน สิงคโปร์อย่างมาก ทำให้สิงคโปร์มีสนามบินสวยงาม และมีการลงทุนต่อเนื่อง หากรัฐบาล จัดเก็บ PSC เพิ่มเป็น 100 บาทต่อคน อาจทำให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีกำไรเพิ่มขึ้นปีละกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อเงินดังกล่าวมาลงทุนขยายสนามบิน คาร์โก หรือโครงการอื่นๆ ได้อีกจำนวนมาก และยังแนะนำให้เทคโอเวอร์สนามบินกระบี่กลับมาอยู่ในการบริหารจัดการของ AOT หรือไปขยายสนามบินอื่นในภูมิภาคเพิ่มเติม
รัฐบาลต้องเร่งพัฒนาให้เมืองท่องเที่ยวเป็นสมาร์ทซิตี้ ติดกล้องวงจรปิดดูแลด้วย AI มากขึ้น เพื่อมาดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมให้ทำประกันให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ดร.ทักษิณ พร้อมเดินทางไปประเทศจีนและสร้างความเชื่อมั่นใจกับนักท่องเที่ยวจีนว่า เมื่อเดินทางเข้ามาไทย จะไม่มีปัญหาถูกปล้น ถูกฆ่า รัฐบาลยังต้องจัดแข่งขันรถสูตร1 (F1) ในประเทศ เพราะขณะนี้ การเจรจาคืบหน้าไปมาก หากจัดการแข่งขันได้จะเก็บค่าชมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แพงขึ้น ขณะที่ชาวไทย เก็บเงินเพียง 100 บาท ควบคู่กันกับการจัดงานใหญ่ อย่างเช่น บางกอกแฟร์ชั่นวีค และมีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ด้วย นายกรัฐมนตรี (แพทองธาร ชินวัตร) ดูแลในเรื่องนี้อยู่ .-515 สำนักข่าวไทย