กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – ผู้บริหาร รพ.พระรามเก้า เผยกลุ่มเฮลท์แคร์ยังเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจ ชี้เทรนด์ Gen Y-Gen Z เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น ไม่ได้ป่วยแต่เน้นดูแลสุขภาพป้องกันเจ็บป่วย
นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักงานแผนยุทธศาสตร์ โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่หลายธุรกิจอาจประสบปัญหา แต่ธุรกิจกลุ่มเฮลท์แคร์ ยังสามารถเติบโตได้ อาจจะไม่ได้เติบโตแบบหวือหวา เนื่องจากทุกคนยังใส่ใจในการดูแลสุขภาพแม้มีปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen Z ที่ใส่ใจสุขภาพ ทั้งเข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้น และเข้ามาดูแล สุขภาพป้องกันความเจ็บป่วย อาทิ ตรวจสุขภาพ การกายภาพบำบัด ดูแลการนอน ดูแลโภชนาการ
สำหรับสัดส่วนผู้มารับบริการโรงพยาบาลพระรามเก้า เป็นชาวต่างชาติ เพิ่มขึ้นในระดับ 25% จากเดิม 10% ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ ๆ ที่เริ่มมองหาโรงพยาบาลที่มีคุณภาพราคาสมเหตุสมผล หลักเป็นกลุ่ม CLMV จีน และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่เริ่มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยลดลง ส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากชาวจีนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่อาศัยอยูในประเทศไทยที่ยังเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง
ส่วนมาตรการภาษีสหรัฐ มองว่าหากได้รับผลกระทบน่าจะเป็นผลกระทบทางอ้อม จากกลุ่มทำธุรกิจที่อาจเจอปัญหาทางด้านธุรกิจจนส่งผลต่อการพิจารณาในการเข้ารับการรักษามากขึ้น ซึ่งทางทีมได้เตรียมปรับกลยุทธ์ ได้แก่ ไม่ขึ้นราคาค่ารักษาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาโดยดูตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงให้ส่วนลดกับคนไข้ที่มีประวัติรักษามานาน และในโอกาสครบรอบ 33 ปี โรงพยาบาลพระราม 9 ได้เปิดตัว “9 SMART” ผ่าน LINE Application เชื่อมต่อการดูแลสุขภาพระหว่างแพทย์และผู้ใช้บริการแบบไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ทุกที่ ทุกเวลา โดยผู้ใช้บริการ สามารถเปิดประวัติและนัดหมายออนไลน์ได้ผ่านมือถือ ตรวจสอบคิวแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องนั่งรอ ดูผลตรวจสุขภาพและผลตรวจภาพวินิจฉัย เช่น ผลเลือด X-ray ข้อมูลยา ได้ทันที โดยมีระบบยืนยันตัวตน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อย่างปลอดภัยและถูกต้อง
นางสาวขมาภรณ์ ธัมพิพิธ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2568 สามารถทำรายได้ 1,251.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 200.5 ล้านบาท เติบโต 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 โรงพยาบาลมีแผนขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วย ด้วยการรีโนเวทพื้นที่เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงอีก 20 เตียง รวมถึงปรับปรุงหอผู้ป่วยหนัก (ICU) โดยจัดตั้ง หน่วย Stroke Unit จำนวน 9 เตียง พร้อมทั้งขยายแผนกฟอกไตจาก 17 เตียง เป็น 20 เตียง นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนในเครื่องมือทางการแพทย์ วางเป้าหมายสู่การเป็น AI-Driven Hospital ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในกระบวนการดูแลรักษาอย่างเต็มศักยภาพ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน .-516-สำนักข่าวไทย