กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – Bitget คาดบิตคอยน์พุ่งถึง 150,000 ดอลลาร์ ภายในไตรมาส 3/68 รับปัจจัยบวกเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย พร้อมแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน
Bitget ให้เป้าหมายใหม่ภายในไตรมาส 3/68 บิตคอยน์มีโอกาสแตะ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ รับแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน-บริษัทในตลาดหุ้นและธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลมีกระแสเงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง จับตาเทรนด์การเติบโตของ Real World Asset มิติใหม่แห่งการนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบดั้งเดิมในโลกความเป็นจริงมาแปลงเป็นโทเค็นช่วยดึงเม็ดเงินรายใหญ่เข้าสู่บล็อกเชน คาดเป็นเทรนด์ใหม่ที่จะสร้างมูลค่าตลาดสูงถึง 18.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ภายในปี 2576 ขณะที่อีเธอเรียมมีโอกาสแตะ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในไตรมาส 3 นี้ จากแรงหนุนของกิจกรรม DeFi และแรงซื้อผ่าน ETF โดยปัจจัยที่ต้องจับตาคือพัฒนาการของกฎระเบียบต่างๆทางด้านคริปโทที่จะช่วยหนุนตลาดได้ต่อเนื่อง
นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก กล่าวว่า ราคาบิตคอยน์สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ มาจากแรงหนุนของนักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะบริษัทในตลาดหุ้นที่มีการเพิ่มบิตคอยน์เข้ามาเป็นสินทรัพย์ในงบดุล บวกกับกระแสเงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่องตลอดจนมีปัจจัยบวกด้านความมั่นใจในกฎระเบียบด้านคริปโทของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าปัจจัยบวกเหล่านี้ ส่งผลอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/2568 ประกอบกับมีแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนและการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ ปัจจัยบวกนี้เราคาดว่าราคาบิตคอยน์จะแตะ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นับว่าการไหลเข้าสินทรัพย์ทางเลือกแบบ On-Chain ของนักลงทุนสถาบันหรือ RWA (Real-World Assets) อย่างเช่นกองทุน BUIDL ของ BlackRock มีการนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาลมาซื้อขายผ่านบล็อกเชนได้รับความนิยมจากกลุ่มนักลงทุนมืออาชีพมากขึ้น ตลอดจน Dubai Financial Services Authority อนุมัติ QCD Money Market Fund ซึ่งเป็นกองทุนตลาดเงินแบบแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็น ( tokenized ) กองแรกใน DIFC ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Qatar National Bank และ DMZ Finance สะท้อนความตั้งใจของดูไบในการเป็นผู้นำด้านการ tokenize สินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาด RWA ทั่วโลกอาจแตะระดับ 18.9 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2576
นายไรอัน ลี (Ryan Lee ) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ Bitget Research กล่าวว่ากระแสเงินลงทุนบิตคอยน์ผ่าน ETF ยังคงเติบโตต่อเนื่องกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ยังช่วยผลักดันราคาบิตคอยน์ต่อไปได้ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่ต้องจับตาคือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยและการเทขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไประดับสูง โดยปัจจัยที่ต้องจับตาคือพัฒนาการของกฎระเบียบต่างๆทางด้านคริปโทที่จะช่วยหนุนตลาดได้ต่อเนื่อง
ขณะที่อีเธอเรียมยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ต่อเนื่องเช่นกันจากแรงซื้อผ่านกองทุน ETF ที่มีอย่างต่อเนื่องและการขยายตัวของกิจกรรมด้าน DeFi คาดว่าอีเธอเรียมจะมีราคาเฉลี่ยราว 3,800 ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3 และมีโอกาสขึ้นไปแตะ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากสามารถฝ่าแนวต้านที่ 3,700 ดอลลาร์สหรัฐ .-515- สำนักข่าวไทย