กรุงเทพฯ 9 ก.ค.- “DIT ผนึกกำลัง สคบ. CIB” ตรวจผู้ค้าปิดป้าย ราคา-รายละเอียดสินค้าในชุดสังฆภัณฑ์ ป้องกันฉวยโอกาสเทศกาลวันพระใหญ่
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่สี่แยกเสาชิงช้า กรุงเทพมหานครและระบุว่าวันพรุ่งนี้ เป็นวันพระใหญ่คือวันอาสาฬหบูชา และต่อด้วยวันเข้าพรรษาประจำปี 2568 ซึ่งบรรดาพุทธศาสนิกชนคนไทย-พุทธ นิยมซื้อเครื่องชุดสังฆทาน ได้แก่ ชุดสังภัณฑ์ ชุดไทยธรรม และเทียนพรรษา เพื่อถวายแก่วัดและพระภิกษุสงฆ์ และเพื่อ ไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบโดยการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือการนำชุดสังฆทานและสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้องที่ไม่มีคุณภาพมาจำหน่าย
กรมการค้าภายใน จึงบูรณาการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (CIB) ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม ณ บริเวณแยกสี่กั๊กเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้า และเป็นผู้สั่งผลิตสินค้าชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และเทียนพรรษา ที่เป็นร้านค้าชั้นนำในเขตกรุงเทพ
โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการ พบว่า สินค้าชุดสังฆทาน และชุดไทยธรรม มีภาวะการจำหน่ายสินค้าลดลง เนื่องจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงพุทธศาสนิกชนเปลี่ยนพฤติกรรมในการถวายชุดสังฆทาน ซึ่งปัจจุบันนิยมซื้อสินค้ำเพื่อไปจัดชุดสังฆทานเอง อีกทั้งมีบางส่วนจะไปซื้อชุดสังฆทานสำเร็จรูป ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ซึ่งมีราคาถูกกว่าร้านจำหน่ายทั่วไป สำหรับเทียนพรรษา ปัจจุบันพบว่ายอดการจำหน่ายลดลง เนื่องจากพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่นิยมซื้อหลอดไฟ หรือถวายปัจจัยแทนการถวายเทียนพรรษา
โดยทางกรมการค้าภายในได้แจ้งไปยัง ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้า ชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และเทียนพรรษา ต้องมีการ “แสดงราคาจำหน่ายปลีกสินค้า พร้อมทั้งแสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุ และราคาของสินค้าแต่ละรายการ ที่บรรจุในชุดสังฆทาน หรือ ชุดไทยธรรม รวมทั้งค่าภาชนะบรรจุ ชัดเจน” โดยจากการตรวจในวันนี้พบว่าผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในส่วนภาวะราคาจำหน่ายทรงตัว ไม่มีการปรับราคาขึ้น ทั้งที่ต้นทุนสินค้าที่บรรจุในชุดสังฆทานมีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อย
นอกจากวันนี้ กรมยังได้มีการจัดชุดสายตรวจในการออกตรวจสอบร้านค้าสังฆภัณฑ์ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล และ กำชับไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าดังกล่าวอีกด้วย ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าหรือเข้ารับบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่มีการแสดงราคาสินค้าและบริการ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากจำหน่ายสินค้าและบริการในราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 .-511สำนักข่าวไทย