“เฉลิม อยู่วิทยา” ครองแชมป์เศรษฐีอันดับ 1

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – Forbes จัดอันดับทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 68 “เฉลิม อยู่วิทยา” และครอบครัว ครองแชมป์เศรษฐีอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รวม 50 มหาเศรษฐีไทยเพิ่มขึ้น 11% เป็นเงิน 170,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


เศรษฐกิจของไทยเติบโตช้ากว่าที่คาดไว้ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจะช่วยชดเชยการร่วงลง 14% ของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การเพิ่มขึ้นอย่างมากของความมั่งคั่งของสามอันดับแรก ช่วยผลักดันให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของ 50 มหาเศรษฐีไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 11% เป็น 170,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรวมแล้ว มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่อยู่ในลิสต์เพิ่มขึ้น โดยผู้ที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในแง่ตัวเงินคือครอบครัว Red Bull ที่นำโดย เฉลิม อยู่วิทยา ซึ่งครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่สอง ทรัพย์สินของพวกเขาพุ่งขึ้นแตะสถิติใหม่ที่ 4.45 หมื่นล้านเหรียญ เนื่องจากรายได้ประจำปีของยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 1.12 หมื่นล้านยูโร (1.29 หมื่นล้านเหรียญ) ในปี 2024 จากยอดขายเกือบ 1.3 หมื่นล้านกระป๋องทั่วโลก

พี่น้องเจียรวนนท์ แห่งกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังคงรักษาอันดับเศรษฐีอันดับสองของประเทศไว้ได้ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 23% เป็น 3.57 หมื่นล้านเหรียญ กลุ่มนี้เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับ BlackRock ลงทุน 1 พันล้านเหรียญ เพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ และบริษัทย่อยด้านฟินเทค Ascend Money ก็เพิ่งได้รับอนุมัติให้จัดตั้ง Virtual Bank


สารัชถ์ รัตนาวะดี มหาเศรษฐีด้านพลังงานและโทรคมนาคม ขยับขึ้นสองอันดับ มาครองอันดับสามเป็นครั้งแรกด้วยทรัพย์สิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญ หลังจากควบรวมกิจการระหว่าง Gulf Energy Development กับ Intouch Holdings และนำบริษัทที่ควบรวมแล้วเข้าจดทะเบียนในชื่อ Gulf Development เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ด้าน เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อน้ำเมา มูลค่าทรัพย์สินแทบไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้ตกมาอยู่อันดับ 4 โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาได้โอนหุ้นบางส่วนให้ลูกทั้ง 5 คน แต่ในฐานะผู้ก่อตั้งกลุ่ม ทรัพย์สินยังคงถูกนับรวมในชื่อของเขา

สำหรับตระกูล จิราธิวัฒน์ ซึ่งอยู่ในธุรกิจค้าปลีก มูลค่าทรัพย์สินลดลง 13% เหลือ 8.6 พันล้านเหรียญ ท่ามกลางบรรยากาศการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซา โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กลุ่มได้พันธมิตรใหม่ คือ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (PIF) ที่เข้าซื้อหุ้น 40% ในร้านค้าปลีกหรู Selfridges จาก Signa Holdings ของออสเตรีย (ซึ่งกลุ่ม Central ยังคงถือหุ้น 60%)


ในปีนี้มีมหาเศรษฐีทั้งหมด 19 ราย ที่มูลค่าทรัพย์สินลดลง โดย ประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าพ่อกาแฟ มูลค่าทรัพย์สินลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากบริษัทร่วมทุนระหว่าง PM Group กับเนสท์เล่ สิ้นสุดลง

นอกจากนี้ยังมีเจ้าสัวใหญ่ 2 ท่านที่เสียชีวิตหลังการจัดอันดับครั้งก่อน ได้แก่ วานิช ไชยวรรณ ประธานกิตติมศักดิ์ของไทยประกันชีวิต และ พงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ร่วมก่อตั้งโรงพยาบาล Bangkok Dusit Medical Services ซึ่งต่อมาได้ขยายธุรกิจดูแลสุขภาพภายใต้ Principal Capital โดยทรัพย์สินของทั้งสองตระกูลถูกจัดอันดับภายใต้ชื่อครอบครัว ไชยวรรณ และ วิทยากร

แม้เกณฑ์มูลค่าทรัพย์สินขั้นต่ำเพื่อเข้าลิสต์จะลดลงเหลือ 420 ล้านเหรียญ จาก 550 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว แต่ก็มีเศรษฐี 4 ราย ที่หลุดจากการจัดอันดับ โดยผู้ที่หายไปอย่างน่าจับตาคือ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าพลังงานหมุนเวียน หลังจากบริษัท Energy Absolute เผชิญปัญหาทางการเงิน

สำหรับ 10 อันดับแรก มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2568 มีดังต่อไปนี้

  1. เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว ทรัพย์สิน 4.45 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1.44 ล้านล้านบาท
  2. พี่น้องเจียรวนนท์ ทรัพย์สิน 3.57 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1.16 ล้านล้านบาท
  3. สารัชถ์ รัตนาวะดี ทรัพย์สิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 3.90 แสนล้านบาท
  4. เจริญ สิริวัฒนภักดี และครอบครัว ทรัพย์สิน 1.05 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 3.41 แสนล้านบาท
  5. ครอบครัวจิราธิวัฒน์ ทรัพย์สิน 8.6 พันล้านเหรียญ หรือ 2.79 แสนล้านบาท
  6. ครอบครัวไชยวรรณ ทรัพย์สิน 4.2 พันล้านเหรียญ หรือ 1.36 แสนล้านบาท
  7. อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว ทรัพย์สิน 3.5 พันล้านเหรียญ หรือ 1.14 แสนล้านบาท
  8. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ทรัพย์สิน 3.4 พันล้านเหรียญ หรือ 1.10 แสนล้านบาท
  9. เสถียร เสถียรธรรมะ ทรัพย์สิน 2.6 พันล้านเหรียญ หรือ 8.44 หมื่นล้านบาท
  10. พรเทพ พรประภา และครอบครัว ทรัพย์สิน 2.2 พันล้านเหรียญ หรือ 7.14 หมื่นล้านบาท.-515- สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย