Virtual Bank : ทางเลือกใหม่ในยุคดิจิทัล

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – Virtual Bank : ทางเลือกใหม่ในยุคดิจิทัล กำลังเปลี่ยนเกมการเงิน หลังคลัง-ธปท.ออกใบอนุญาต 3 กลุ่มทุนใหญ่ กระโดดเข้าวงการเงิน ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน-เว็บไซต์


สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เผยแพร่บทความ ธนาคารไร้สาขา Virtual Bank : ทางเลือกใหม่ในยุคดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนเกมการเงิน นับว่า ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน ธุรกรรมการเงิน ธนาคารพาณิชย์กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบบริการ จากเดิมต้องไปทำธุรกรรมที่สาขา กลายเป็นธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) กำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่ ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและรวดเร็วของผู้บริโภค โดยไม่จำเป็นต้องมีสาขาทางกายภาพ แต่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือเว็บไซต์ บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับธนาคารไร้สาขา แนวโน้มการเติบโต บริการที่น่าสนใจ รวมถึงความท้าทายในอนาคต

จุดเริ่มต้นของแนวคิด Virtual Bank มาจากความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และความสามารถในการควบคุมการเงินของตัวเองได้แบบเรียลไทม์ ด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการด้านการเงินจึงเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถให้บริการที่หลากหลาย เช่น การเปิดบัญชี การโอนเงิน การขอสินเชื่อ หรือแม้แต่การลงทุน ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ซึ่งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI), การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และระบบบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวในการให้บริการ


จากข้อมูลปัจจุบันพบว่าการเติบโตของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาในต่างประเทศ สามารถเจาะตลาดลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิม กรณีของสหราชอาณาจักร พบว่ามีผู้ใช้บริการผ่านธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา เช่น Monzo และ Starling Bank เกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมดในประเทศภายหลังจากการเปิดตัวเพียงไม่กี่ปี เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงการเติบโตของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา โดย Monzo มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 11 ล้านคน และ Starling Bank มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 4.2 ล้านคนในปัจจุบัน และทั้งสองธนาคารยังคงมีการขยายตัวที่รวดเร็วในตลาดต่าง ๆ เพื่อรองรับลูกค้าที่มีพฤติกรรมที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่น ตอบสนองพฤติกรรมและรูปแบบการจ่ายเงิน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินและการวางแผนการออมรายย่อย อีกจุดเด่นที่สำคัญ พบว่าแอปพลิเคชันของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา ยังมีบริการ Marketplace ของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือสามารถเชื่อมโยงตรงกับบริการแอปพลิเคชันอื่นๆ เช่น Shopping online หรือ Social Media ที่ได้รับความนิยม เพื่อความสะดวกแก่ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ลูกค้านำคะแนนเครดิตไปใช้ชำระหนึ้ รับเงินคืนอัตโนมัติ หรือตรวจสอบธุรกรรมการซื้อของย้อนหลังผ่านแอปพลิเคชันธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา

นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่ช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาขยายตัวที่รวดเร็ว คือ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นของประชาชน แต่ยังคงมีปัญหาของผู้บริโภค และกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ หรือยังไม่ได้รับบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการขาดแคลนสาขาธนาคารในหลายพื้นที่ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีน ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 1 ของโลก อย่าง WeBank และ MyBank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาของบริษัท Tencent และ Alibaba ตามลำดับ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากมี Ecosystem ที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มของบริษัทแม่ อาทิ แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก WeChat และอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Alibaba ทำให้ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาทั้ง 2 มีฐานข้อมูลเชิงพฤติกรรมขนาดใหญ่ ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีควบคู่กันของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ระบบคลาวด์ (Cloud Computing) และบล็อกเชน (Blockchain) สามารถรองรับลูกค้าจำนวนมากได้ และประเมินความสามารถในการชำระหนี้และให้บริการสินเชื่อได้รวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินกิจการต่ำ และขยายธุรกิจได้เร็ว

Virtual Bank ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความสะดวก แต่ยังมีข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่น่าสนใจอีกด้วย เนื่องจากไม่มีต้นทุนคงที่จากการเปิดสาขาหรือจ้างพนักงานจำนวนมาก ธนาคารเหล่านี้จึงสามารถเสนอค่าธรรมเนียมที่ต่ำ หรือไม่มีเลย พร้อมกับให้อัตราดอกเบี้ยที่จูงใจกว่าธนาคารทั่วไป ตัวอย่างเช่น ดอกเบี้ยเงินฝากของ Virtual Bank บางแห่งในอังกฤษอาจสูงถึง 2-3% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารดั้งเดิมที่อยู่ราว 0.5-1% ต่อปี นอกจากนี้ กระบวนการอนุมัติสินเชื่อก็ทำได้รวดเร็ว โดยใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงแทนการตรวจสอบเอกสารแบบเดิม


อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Virtual Bank ก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นคือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เพราะการให้บริการผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมดหมายความว่า หากมีช่องโหว่หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานในวงกว้างได้ ขณะเดียวกัน การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมการเงินก็ทำให้ Virtual Bank บางแห่งต้องปิดตัวลง เช่น VOLT Bank ในออสเตรเลียที่ยุติการดำเนินงานในปี 2022 เนื่องจากไม่สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้ หรือ Bó จากสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้เพียงพอและต้องปิดตัวภายในไม่ถึงปี

สำหรับพัฒนาการ Virtual Bank ของไทยนั้น เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบการเงินของประเทศให้ทันสมัย เข้าถึงง่าย และเท่าเทียมยิ่งขึ้น โดยมีผู้ผ่านการพิจารณาทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่
1) บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด
2) กลุ่มธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
3) กลุ่มบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp.

โดยทั้ง 3 กลุ่มมีเวลา 1 ปีในการเตรียมการจัดตั้งและเปิดให้บริการแก่ประชาชน โดยการจัดตั้ง Virtual Bank ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงระบบการเงิน เช่น ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs), กลุ่มรายได้น้อย, และผู้ไม่มีรายได้ประจำ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดบริการทางการเงินที่หลากหลาย ทันสมัย และเหมาะสมยิ่งขึ้น ด้วยความหวังใหม่ของภาคการเงินไทยกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในระบบสถาบันการเงิน Virtual Bank จะมีบทบาทสำคัญในการลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ และช่วยยกระดับความเท่าเทียมทางการเงินของประเทศอย่างยั่งยืน

สำหรับประชาชนที่สนใจข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากสามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์ www.dpa.or.th หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook, YouTube, X, Line, LinkedIn เพียงกดค้นหา dpathailand หรือโทรสอบถามได้ที่ศูนย์ข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก (DPA Contact Center) 1158.-515- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.-พล.อ.ณัฐพล ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทย 70 จังหวัดที่ด่าเป็นหมานำราชสีห์ เข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 […]

ปปป.ประชุมสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนหรือไม่

บก.ปปป. 21 ก.ค. – ผู้การ ปปป. เรียกประชุมชุดทำงาน ตรวจสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนเศรษฐินีหรือไม่ ขณะเดียวกันยังแบ่งชุดสืบ ลงพื้นที่วัดนครสวรรค์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เรียกประชุมชุดทำงานคดี “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ อายุ 57 ปี และใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูฉันผัวเมียมานานกว่า 15 ปี รวมไปถึงอยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง โดยสาระสำคัญวันนี้ ทาง ปปป.ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อวางแนวทาง และกรอบการทำงานในกรณีของเส้นเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื้อฉาวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากได้เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย จึงได้มอบหมายให้ ปคม. เป็นเจ้าของคดีหลัก ให้ตรวจสอบถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามีสีกาเกี่ยวข้องกับทิดสฤษดิ์กี่คนและเข้ามามีสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ในฐานะอะไร ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องความผิดทางอาญา จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการร่วมกันทุจริตจริงหรือไม่ จากนั้นทั้ง ปปป. และ ปคม.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน […]

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย