กรุงเทพฯ 29 มิ.ย.- 2 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ เข้าประมูลคลื่นมือถือ กสทช. หนุนเอกชนใช้คลื่นใหม่ ยกระดับคลื่น 5G รองรับ AI กำชับให้บริการเครือข่ายทุกตำบลภายใน 5 ปี รองรับประชาชนใช้เน็ตในยุคดิจิทัล
ผู้สืื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสำนักงาน กสทช.เริ่มเปิดประมูล คลื่นความถี่โทรคมนาคม ความถี่ย่าน 850 MHz, 1500 MHz โดยเฉพาะคลื่นความถี่ 2,100 MHz,และคลื่น 2,300 MHz เป็นคลื่นความถี่สูงที่ใช้งานบริการมือถือในปัจจุบัน หลังเปิดประมูล 09.30 น. การยื่นเสนอราคา นับว่า ค่ายมือถือทั้งสองราย ไม่สนในยื่นเสนอราคา ในคลื่น 850 MHz และคลื่น 1,500 MHz เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่ต่ำ
โดยเอกชนทั้งสองราย สนใจเสนอราคาคลื่นความถี่ การประมูลล่าสุด คลื่นความถี่กลุุ่มที่ 2 เป็นคลื่นความถี่ 2,100 MHz จำนวน 2 ชุด ชุดละ 5 MHz ได้มีการเสนอราคาช่วงแรก 4,950 ล้านบาท ต้องการ 3 Slot จากราคาเปิดประมูลขั้นต่ำ 4,500 ล้านบาท ส่วนช่วงความถี่ 2,300 MHz จำนวน 2 ชุด ชุดละ 5 MHz ได้เสนอราคา 3,100 ล้านบาท จากราคาเปิดประมูลขั้นต่ำ 2,596 ล้านบาท โดยระหว่างการประมูล ได้มีกลุ่มผู้ชุมชนประท้วง และปิดประตู สำนักงาน กสทช. เพื่อเรียกร้องให้จัดประมูลอย่างเป็นธรรม และให้บริการประชาชนราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา อดีตกรรมการ กสทช. กล่าวว่า ยอมรับว่าบรรยากาศการยื่นประมูลของทั้งสองค่ายมือถือครั้งนี้ อีกค่ายหนึ่ง มีเสาสัญญาณในเมืองแล้ว ได้ยื่นเสนอราคา เพราะต้องการรักษาฐานตลาด จากคลื่นที่หมดใบอนุญาต จากคลื่นย 2,100 MHz ขณะที่อีกฝ่าย เดินหน้าเสนอราคา หวังลุกตลาดทั้งในเมืองและชนบท แม้ว่าไม่มีเสาสัญญาณในคลื่น 2,300 MHz เมื่อ กสทช.ต้องการให้ผู้ชนะการประมูล ลงทุนก่อสร้างเสาสัญญาณให้ครอบคลุมทุกตำบล สัดส่วนถึงร้อยละ 90 ของพื้นที่ จึงต้องติดตามดูการเสนอราคาว่า ทั้งสองค่ายจะบุกตลาดเพิ่มเติมอย่างไร
ค่ายมือถือทั้งสองรายที่ร่วมประมูลครั้งนี้ หากมีคลื่นความถี่ให้บริการน้อย จะพัฒนาลำบาก เช่น คลื่นความถี่ 2,300 MHz ของรายเดิม หากจำนวนคลื่นลดลง เหมือนทางด่วน หากปิดไปหลายช่องทาง จะทำให้มีปัญหาจราจรติดขัดเพิ่ม ส่วนอีกราย ต้องสร้างทางด่วนขึ้นใหม่ จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น จึงมองว่า รายใดทุ่มเงินลงทุน จะมีโอกาสพัฒนา 5G ได้เร็วกว่า หากรายใดไม่ทุ่มเงิน จะพัฒนาลำบาก
“ยอมรับว่าเมื่อ กสทช.ไม่นำคลื่น 3,500 MHz ไม่ถูกนำออกมาประมูล เพราะเอไอเอส ต้องการคลื่น 3,500 MHz การประมูลในวันนี้จึงเหมือนการแย่งข้าวชามเดียวกัน ไม่มีคลื่นใหม่เพิ่มเติม ส่วนผลประโยชน์ตกกับประชาชนผู้ใช้บริการ ต้องดูต้นทุนการประมูล หากราคาประมูลต่ำกว่าเคยจ่ายให้กับ nt ประชาชนควรได้ประโยชน์ส่วนต่าง เช่น หากต้นทุนลดลงร้อยละ 50 ควรนำมาลดราคราแพ็กเกจให้กับผู้ใช้บริการ หากราคาประมูลใกล้เคียงกับราคาประมูลใบอนุญาติเดิม มองว่า คงไม่ให้อะไรกับผู้บริโภคเพิ่มเติม จึงต้องติดตามผลประมูลครั้งนี้” นพ.ประวิทย์ กล่าว.-515.-สำนักข่าวไทย