เที่ยวไทยคนละครึ่ง เปิดให้ประชาชนจอง 5 แสนสิทธิ์ เริ่ม 1 ก.ค.นี้

เที่ยวไทยคนละครึ่ง

27 มิ.ย. – ททท. ประกาศ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เปิดให้ประชาชนเตรียมพร้อมจอง 5 แสนสิทธิ์ เริ่ม 1 กรกฎาคม 2568 ก่อนเดินทางจริง 4 กรกฎาคม เป็นต้นไป


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดฉากโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เชิญชวนประชาชนเตรียมตัวจองใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในเมืองท่องเที่ยวหลัก วันธรรมดาในอัตรา 50% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืน และในวันหยุด สนับสนุน 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืนเช่นกัน กรณีใช้สิทธิ์ในเมืองน่าเที่ยว รัฐบาลสนับสนุน 50% ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด โดยต้องทำการจองและชำระเงินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนการเดินทางใช้สิทธิ์ และสามารถเริ่มเดินทางใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ถึง 31 ตุลาคม 2568 นอกจากนี้ เมื่อเช็กอินเข้าที่พัก ผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับ e-Coupon มูลค่า 500 บาทต่อสิทธิ์ สำหรับเป็นส่วนลดค่าอาหารและกิจกรรมท่องเที่ยว

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ประจำปี 2568 ภายใต้งบประมาณ 1,760 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วง Green Season เพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการชะลอการเดินทางจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ ทั้งกรณีพิพาทระหว่างประเทศและความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจโลก ตลอดจนส่งเสริมการเดินทางทั้งในเมืองหลักและกระจายนักท่องเที่ยวไทยไปยังเมืองน่าเที่ยวเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ททท. คาดว่าโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” จะช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวประมาณ 35,033 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 34,000 ราย


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” จะมอบสิทธิประโยชน์จำนวน 500,000 สิทธิ์ สำหรับใช้บริการที่พัก สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์ Tablet และจองที่พักได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.00 น. จนถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด โดยกำหนดให้ผู้รับสิทธิ์จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน มีบัตรประจำตัวประชาชน และลงทะเบียนผ่าน ThaID Application เพื่อยืนยันตัวตน

ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” จะมีโอกาสได้รับสิทธิ์ค่าที่พักจำนวนสูงสุด 5 สิทธิ์ ต่อ 1 คน โดยผู้ที่ลงทะเบียนและทำการจองที่พักรวมถึงชำระเงินก่อนจะได้รับสิทธิ์ก่อน (First Come First Served) แบ่งเป็นสิทธิ์สำหรับค่าที่พักในเมืองหลักจำนวน 3 สิทธิ์ และเมืองน่าเที่ยวจำนวน 2 สิทธิ์ สำหรับพื้นที่เมืองหลัก ในวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) รัฐบาลจะสนับสนุน 50% ของค่าที่พัก สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืน และวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐบาลจะสนับสนุน 40% ของค่าที่พัก สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืน กรณีใช้สิทธิ์ในพื้นที่เมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด รัฐบาลจะสนับสนุน 50% ของค่าที่พักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืน ทั้งในวันธรรมดาและวันหยุด โดยสามารถค้นหาที่พักที่เข้าร่วมโครงการได้ผ่านแอปพลิเคชัน Amazing Thailand และทำการติดต่อจองที่พักโดยตรงกับผู้ประกอบการ พร้อมชำระเงินค่าที่พักภายใน 23.00 น. ของวันที่ทำการจองและแนบหลักฐานการชำระเงินบนระบบแอปพลิเคชัน Amazing Thailand เมื่อที่พักรับชำระเงินและแจ้งยืนยันการรับชำระในระบบแอปพลิเคชัน Amazing Thailand แล้วจึงถือว่าได้รับสิทธิ์ในการสนับสนุนค่าที่พัก โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิ์และจองที่พักได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นจังหวัดตามบัตรประชาชนของตนเอง และสามารถเดินทางใช้สิทธิ์ได้หลังจากการจองและชำระเงินอย่างน้อย 3 วัน โดยสามารถเริ่มออกเดินทางใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม -31 ตุลาคม 2568 (เข้าพัก 30 ตุลาคม 2568 เป็นคืนสุดท้าย) กรณีที่ผู้ใช้สิทธิ์ไม่ชำระเงินภายในเวลา 23.00 น.ของวันที่ทำการจองที่พัก ระบบจะยกเลิกการจองโดยอัตโนมัติ และนำสิทธิ์นั้นกลับเข้าสู่ระบบต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อมีการเดินทางใช้สิทธิ์ ผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับ e-Coupon มูลค่า 500 บาทต่อ 1 สิทธิ์ในระบบแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ทันที เมื่อเช็กอินเข้าพักผ่านทางแอปพลิเคชัน Amazing Thailand และยืนยันตัวตนผ่านระบบ ThaID ณ โรงแรมที่พัก โดยสามารถใช้เป็นส่วนลด 50% สำหรับทุกการใช้จ่ายกับร้านค้าและสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ


ทั้งนี้ ส่วนต่างของการใช้จ่าย ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องเป็นผู้ชำระเงินเอง ซึ่ง e-Coupon มูลค่า 500 บาท สามารถใช้ได้จนถึงเวลา 23.00 น. ของวันถัดไป ทั้งนี้ หากมีการใช้สิทธิ์ในการจองที่พักมากกว่า 1 คืน ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องทำการเช็กอินผ่านระบบแอปพลิเคชัน Amazing Thailand และยืนยันตัวตนผ่านระบบ ThaID ณ โรงแรมที่พัก ระหว่างวันที่เข้าพักทุกวัน ก่อนเวลา 16.00 น. เพื่อรับ e-Coupon มูลค่า 500 บาทในระบบ เวลา 17.00 น. และสามารถใช้ได้จนถึงเวลา 23.00 น. ของวันถัดไป

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งธุรกิจโรงแรม/ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้า OTOP แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยว สปา นวดเพื่อสุขภาพ รวมถึงบริการรถเช่าและเรือเช่า สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com หลังจากสมัครและกดยินยอมรับยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว ธนาคารกรุงไทยจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลบัญชีของผู้ประกอบการ โดยใช้เวลา 5 วันทำการ และจะแจ้งผลการพิจารณาผ่านระบบ หลังจากนั้นทางคณะกรรมการจะดำเนินการนำรายชื่อสถานประกอบการแสดงบนหน้าเว็บไซต์ต่อไป ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 16.00 น. มีผู้ประกอบการลงทะเบียนทั้งสิ้น จำนวน 34,005 ราย โดยมีผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนพร้อมกรอกเอกสารสำเร็จ จำนวน 6,439 รายและผู้ประกอบการที่รอยื่นเอกสารเพิ่มเติม จำนวน 27,566 ราย

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการลงทะเบียน ประชาชนสามารถศึกษารายละเอียดการเข้าร่วมโครงการและขั้นตอนการใช้สิทธิ์ได้ที่ https://เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com พร้อมดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Amazing Thailand และลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชั่น ThaID ไว้ล่วงหน้าก่อนการเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 02-483-0963 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. หรือสอบถามผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Line Official Account: @ThaiTravelCopay ได้ในช่วงเวลาเดียวกัน.- 116 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) […]

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]