จีน 25 มิ.ย. – ธ.ก.ส.นำตัวแทนเกษตรกรไทยศึกษาดูงานเกษตรกรรมสมัยใหม่ที่ซินเจียง มุ่งหวังต่อยอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน ยกระดับจากวัตถุดิบสู่สินค้าสำเร็จรูป พร้อมชูสินเชื่อ Smart Tech หนุนเปลี่ยนผ่านสู่เกษตรสมัยใหม่
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยระหว่างนำตัวแทนเกษตรกรไทยศึกษาดูงาน ณ เขตปกครองตนเองซินเจียง อุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ธ.ก.ส. ได้คัดเลือก “เกษตรกรหัวขบวน” ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพในการพัฒนาตนเองและสมาชิกในชุมชน จำนวน 10 กลุ่ม เข้าร่วมศึกษาดูงานในพื้นที่เกษตรกรรมสมัยใหม่ของจีน เพื่อจุดประกายแนวคิดและนำองค์ความรู้กลับไปขยายผลในพื้นที่ของตน
สำหรับสถานที่หลักในการดูงาน ได้แก่ อุทยานนิทรรศการเกษตรกรรมซินเจียง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีวิจัยด้านการเกษตร 9 แห่งทั่วประเทศจีน ที่นำเสนอเทคโนโลยี vertical farming หรือการปลูกพืชแนวตั้งในโรงงานระบบปิด ควบคุมสภาพแวดล้อมด้วยระบบอัจฉริยะ ทั้งแสง อุณหภูมิ ความชื้น รวมถึงระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมี AI ตรวจวัดความผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการปลูกไม้ดอกควบคู่ผักเพื่อเพิ่มออกซิเจน และใช้กับดักแมลงแบบกาวเหนียวสองสี พร้อมเทคโนโลยีสายพานในการเพาะกล้า


ตลอดจนได้เยี่ยมชมฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ Xinjiang Tianrun Dairy Co., Ltd. บนเส้นทางสายไหม ซึ่งเลี้ยงโคนมถึง 2 ล้านตัว ใช้เทคโนโลยีจากสวีเดนควบคุมกระบวนการผลิตน้ำนมให้ปลอดภัย มีการจัดเส้นทางเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน พร้อมโชว์รูมกระบวนการผลิตที่เปิดให้มองเห็นไลน์รีดนมได้อย่างโปร่งใส
อีกหนึ่งโมเดลน่าสนใจคือ ฐานปลูกหนานซาน (Xiangzhiyuan Nanshan) ที่รัฐบาลจีนลงทุนสร้างโรงเรือนมาตรฐาน 100 หลัง และมีแผนขยายเป็น 500 หลัง เพื่อให้ประชาชนเช่าในราคาย่อมเยา ปีละ 10,000 หยวนต่อโรงเรือน (ประมาณ 50,000 บาท) โดยสามารถเพาะปลูกได้ถึง 3–4 รอบต่อปี สร้างรายได้เฉลี่ย 500,000–1,000,000 บาทต่อโรงเรือน
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การเปิดโลกทัศน์ผ่านการลงพื้นที่จริง ช่วยให้เกษตรกรได้เห็นนวัตกรรมที่จับต้องได้ อาทิ การห่อผลฝรั่งแบบปลอดแมลง การดักแมลงโดยไม่ใช้สารเคมี การควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนด้วยโซลาร์เซลล์ สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้ในชุมชนไทย เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนแรงงาน และสามารถผลิตเพื่อรองรับตลาดเฉพาะกลุ่ม (local consumption)
ธ.ก.ส. มุ่งหวังว่า เกษตรกรหัวขบวนจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ กลับไปพัฒนาแปลงของตนเองและชักจูงสมาชิกในกลุ่ม ร่วมกันยกระดับจากการผลิตสินค้าเกษตรแบบดั้งเดิม ไปสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับครัวเรือนและชุมชน นำไปสู่การรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็งในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตร และต่อยอดสู่การผลิตสินค้าสำเร็จรูปที่สร้างรายได้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส. ยังได้ผลักดัน สินเชื่อ SmartTech ที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ สนับสนุนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์กับเกษตรดั้งเดิม พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนจากการผลิตวัตถุดิบ (raw material) มาสู่การแปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จรูป (finishing goods) ที่มีมูลค่าสูงขึ้น และสามารถกำหนดราคาขายเองได้ ไม่ต้องพึ่งตลาดกลาง
นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึงการขยายผลในระดับเยาวชนว่า ธ.ก.ส. ได้ต่อยอดโครงการเกษตรอาหารกลางวันของโรงเรียนในความดูแล ให้กลายเป็น “เกษตรการค้า” โดยเริ่มจากนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้เรียนรู้การปลูกพืช ทำฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างทักษะอาชีพและรายได้ในอนาคต ควบคู่กับโครงการ “เกษตรวิวัฒน์” ที่เตรียมความพร้อมให้ผู้สูงวัยในเมืองสามารถกลับไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมหลังเกษียณ โดยธ.ก.ส. อยากให้เกษตรเป็นอาชีพทางเลือกที่มั่นคงและยั่งยืน ไม่ใช่เพียงอุตสาหกรรมพื้นบ้าน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการแปลงเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ. -512 - สำนักข่าวไทย