กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – “พิชัย” รมว.พาณิชย์ ย้ำ ไทย-จีน หุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญ เดินหน้าขยายการค้า การลงทุน ส่งออกสินค้าเกษตร มัน ทุเรียนไปจีน หารือแก้ปัญหาไทยขาดดุลจีนมากกว่า 1.7-1.8 ล้านล้านบาทต่อปี ส่วนปัญหาชายแดนไทย –กัมพูชา ดูแลสินค้าไม่ขาดแคลน เร่งกระจายผลไม้
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Dinner Talk “50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน” ว่า ไทย-จีนเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน โดยจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 มูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีนอยู่ที่ประมาณ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวขึ้นจากปีก่อนถึง 24.2% โดยกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับรัฐบาลจีนเกี่ยวกับประเด็นด้านการค้าหลายด้าน เช่น การตรวจสอบคุณภาพสินค้าด้อยคุณภาพ และนอมินี การนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยถึง 9.20 ล้านตันหัวมันสด (คิดเป็น 3.87 ล้านตันมันเส้น) มูลค่า 23,765 ล้านบาท เพื่อลดผลกระทบจากราคาตลาดโลก และความร่วมมือในการส่งออกทุเรียนไทย ซึ่งจีนให้ความร่วมมือในการลดอัตราการตรวจสอบลงเหลือ 30% และเปิดโอกาสให้ล้งที่มีคุณภาพสามารถส่งออกได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังหารือถึงแนวทางในการลดความเหลื่อมล้ำทางการค้า โดยขอให้จีนเพิ่มการนำเข้าสินค้าไทยเพื่อลดการขาดดุลทางการค้า ซึ่งปัจจุบันไทยขาดดุลจีนมากกว่า 1.7-1.8 ล้านล้านบาทต่อปี รวมถึงการเร่งใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ให้ได้มากที่สุด และไทยยังมุ่งหวังให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, ดาต้าเซ็นเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ โดยปัจจุบันมีการลงทุนจากบริษัทชั้นนำของโลกทั้งจากจีนและสหรัฐฯ เข้ามาในไทย เช่น TikTok ที่ประกาศลงทุนในไทยมูลค่า 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และการลงทุนจากสหรัฐฯ ในดาต้าเซ็นเตอร์กว่า 5 พันล้านเหรียญ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของภูมิภาค

นายพิชัย กล่าวว่าจากสถานการณ์ชายแดนกัมพูชาในขณะนี้ ตนได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้หน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่ไปสำรวจ และดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างใกล้ชิด ทั้งที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด และหากพบปัญหาทั้งในเรื่องขาดแคลน กักตุน หรือเรื่องราคาสินค้า ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ก็ให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือทันที รวมทั้งดูแลการค้าขายในพื้นที่ให้ผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นอกจากนี้ เร่งผลักดันการระบายผลผลิต ผัก-ผลไม้ที่ได้รับผลกระทบ โดยระบายผลไม้จากภาคตะวันออกกระจายสู่ตลาดภายในประเทศ ตั้งเป้า 3,000 ตัน ผ่านความร่วมมือทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เช่น โมเดิร์นเทรด ในเครือ ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ที่ได้ซื้อมังคุด 1,000 ตัน จำหน่ายในแม็คโครและโลตัสทั่วประเทศ รวมถึงห้าง GO WHOLESALE ที่เตรียมเข้ามารับซื้อเพิ่มเติมอีก 125 ตัน ความร่วมมือกับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ในการร่วมรับซื้อผลไม้ไทยเพื่อนำไปจัดทำเป็นอาหารเพื่อจำหน่ายบนสายการบินของไทยแอร์เอเชีย จำนวน 1,000 ตัน, ความร่วมมือกับ 40 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 ตั้งเป้ารับซื้อผลไม้คละชนิด รวม 6,000 ตัน มูลค่า 240 ล้านบาท. -511- สำนักข่าวไทย