กรุงเทพฯ 27 ต.ค.-ภาพรวมสินเชื่อเดือนกันยายน
ยังชะลอตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 2.15 แต่เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน ขณะที่เงินฝากลดลงเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม
แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาพรวมสินเชื่อสุทธิเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย
11,000 ล้านบาท เป็น 10.726 ล้านล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 0.1แต่ถ้าเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนชะลอลงร้อยละ
2.15 แต่เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนร้อยละ
1.16 เนื่องจากการชำระคืนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ และสินเชื่อเอสเอ็มอียังชะลอตัว
จึงกดดันให้สินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง
สวนทางกับกลุ่มธนาคารขนาดเล็กที่มีอัตราเติบโตดี
ตามทิศทางสินเชื่อรายย่อยที่ขยายตัวดีขึ้น ส่วนสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดกลางค่อนข้างทรงตัว
ขณะที่สินเชื่อสุทธิในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ
ไตรมาสที่ 3 ปี 2560ชะลอลงจากไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.56
ท่ามกลางการชำระคืนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่
และการชะลอตัวต่อเนื่องของสินเชื่อเอสเอ็มอี แม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้าย
จะมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นจากสินเชื่อโครงการของธุรกิจรายใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ
และโอกาสการฟื้นตัวของสินเชื่อเอสเอ็มอี
ประกอบกับความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล อย่างไรก็ดี
ยังต้องติดตามว่าการฟื้นตัวดังกล่าว จะเพียงพอชดเชยการชะลอตัวที่เกิดขึ้นในช่วง 3
ไตรมาสก่อนหน้าเพียงใด
ซึ่งจะบ่งชี้ว่าการขยายตัวของสินเชื่อจะปรับตัวดีขึ้นได้ตามคาด
และสอดคล้องกับแนวโน้มจีดีพีที่ดีกว่าที่คาดไว้หรือไม่
ด้านเงินฝากเดือนกันยายน ลดลงจากเดือนก่อน 17,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.15 เป็น 11.7 ล้านล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.91
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วและร้อยละ 3.01 เมื่อเทียกับสิ้นปีก่อน โดยการลดลงส่วนใหญ่กระจายไปทุกกลุ่มธนาคาร
ยกเว้นในบางธนาคารที่มีสภาพคล่องต่ำ สอดคล้องกับการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษใหม่ในเดือนนี้
ที่มีจำนวนน้อยกว่าเงินฝากที่ครบกำหนด
โดยมีประเด็นหลักในการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสที่
3 ท่ามกลางสถานการณ์ภาระกันสำรองหนี้เสียที่ยังทรงตัวจากระดับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า-สำนักข่าวไทย
