กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-ผจก.ตลท. เชื่อปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band ชั่วคราว เพียงพอกับสถานการณ์ ยกเลิกก่อนได้หากคลี่คลาย ยันไม่ได้แทรกแซงตลาด แต่เพื่อปกป้องนักลงทุน
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนายรองรักษ์ พนาปวุฒิ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และบริหารกิจกรรมเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมแถลงความจำเป็นในการ
ใช้มาตรการปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ 23-27 มิ.ย.2568
นายอัสสเดช เปิดเผยว่าช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ว่าอาจส่งผลกระทบต่อควมผันผวนของตลาด จึงมีมติอนุมัติปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band เป็นการชั่วคราว โดยเป็นการปรับเกณฑ์ให้ตื้นขึ้น ส่วนมาตรการอื่นๆ ยังคงเกณฑ์เหมือนเดิม เช่น circuit breaker ที่ยังคงมีอยู่ตลอด
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมัน เช้านี้วันนี้เปิดตลาดราคาบวก 3% ก่อนย่อลงเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกย่อลงในทิศทางเดียวกัน เป็นไปตามคาดการณ์ ไม่ได้เซอร์ไพรส์ โดยเปลี่ยนแปลงไม่มาก ซึ่งนักลงทุนอาจประเมินว่า ไม่ผันผวนเท่าช่วง liberation day
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าประเมินสถานการณ์ยาก จึงเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจในการลดกรอบมาตรการดังกล่าว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ส่วนจะมีโอกาสห้ามชอร์ตเซลล์หรือไม่นั้น จนขณะนี้ยังไม่มีแผน เนื่องจากมองว่ากรอบมาตรการชั่วคราวดังกล่าวเพียงพอแล้ว ไม่ต้องการปิดโอกาสนักลงทุน ซึ่งหากสถานการณ์คลี่คลาย สามารถยกเลิกมาตรการได้เร็วกว่ากำหนดได้
ทั้งนี้ ขอให้นักลงทุนใจเย็นและคัดกรองข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมองหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
นายรองรักษ์ กล่าวว่ามาตรการชั่วคราวนี้ ไม่ได้กระทบการซื้อขายโดยตรง แต่แค่ปรับช่วงให้แคบลง เพื่อลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น เป็นมาตรการเพื่อปกป้องผู้ลงทุน ไม่ได้แทรกแซงตลาด หากตลาดมีข้อมูลเพียงพอและไม่ได้เกิดความผวนมาก ก็พร้อมที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าว ไว้ก่อนวันที่ 27 มิถุนายน โดยคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้อำนาจ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ฯ ยกเลิกมาตรการได้ แต่ไม่ได้ให้อำนาจในการออกมาตรการ อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์รุนแรงคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติม
ขณะที่ การลงทุนใน ThaiESGX เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2568 ยังสามารถดำเนินการได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งลงทุนใหม่ และสับเปลี่ยนจาก LTF โดยมองว่าช่วงตลาดที่ดัชนีหุ้นปรับตัวลง เป็นโอกาสของนักลงทุน และเมื่อมีแรงซื้อจะช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้น.-516.-สำนักข่าวไทย