กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อ หรือมีหุ้นและการประกอบกิจการอื่นของบริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ถึง 5 ก.ค.68 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจ สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ติดตามและกำกับดูแลได้อย่างเหมาะสม
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อหรือมีหุ้นและการประกอบกิจการอื่นของบริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเมื่อช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจเฉพาะที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักตามใบอนุญาตที่ได้รับและมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อลูกค้าหรือธุรกิจหลักอย่างเพียงพอ และได้นำความคิดเห็นจากภาคธุรกิจ ประกอบกับพัฒนาการของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการทบทวนแนวนโยบายในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของคณะกรรมการ ก.ล.ต. มาปรับปรุงหลักการให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยคณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้เห็นชอบหลักการตามที่ ก.ล.ต. เสนอปรับปรุงแล้วนั้น
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้การติดตามและกำกับดูแลมีความเหมาะสม ยืดหยุ่น และไม่ก่อให้เกิดภาระแก่ภาคธุรกิจมากเกินควร โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(1)การอนุญาตประกอบกิจการอื่นของบริษัทหลักทรัพย์: ปรับปรุงขอบเขตประเภทกิจการอื่นที่อนุญาตเป็นการทั่วไปและการแจ้งต่อ ก.ล.ต. ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถลงทุนในกิจการเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของทุนของกิจการ VC ได้ โดยขออนุญาตจากคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเป็นรายกรณี และดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น สัดส่วนการลงทุน เป็นต้น
(2)การอนุญาตประกอบกิจการอื่นเกี่ยวกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (DA) : ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยไม่จำกัดให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจ crypto asset (cryptocurrency และ utility token) ต้องแยกนิติบุคคลในการให้บริการ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ต้องขอรับใบอนุญาตและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 และต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะและความเสี่ยง crypto asset อย่างถูกต้องและครบถ้วน รวมถึงมีมาตรการป้องกันการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติม นอกจากผลิตภัณฑ์หรือบริการด้านหลักทรัพย์ (cross-selling) อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ สำหรับโทเคนดิจิทัลเพื่อการระดมทุน (Investment token) ที่ได้รับอนุญาตเสนอขายจาก ก.ล.ต. และโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government token: G-Token)* บริษัทหลักทรัพย์จะได้รับยกเว้นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ DA และสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่เทียบเคียงกับผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการอยู่แล้วภายใต้ใบอนุญาตด้านหลักทรัพย์ โดยต้องแจ้งล่วงหน้า 15 วัน เพื่อให้ ก.ล.ต. พิจารณาระบบงานที่อาจมีความแตกต่างจากธุรกิจหลักทรัพย์ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ต้องควบคุมการประกอบกิจการดังกล่าวมิให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลักทรัพย์ ลูกค้า หรือความน่าเชื่อถือหรือชื่อเสียง (reputation risk) ของบริษัทหลักทรัพย์ตลอดระยะเวลาการประกอบธุรกิจ
(3)การอนุญาตประกอบกิจการอื่นเกี่ยวกับการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายหรือซื้อคืน (repo และ reverse repo): กำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ประเภทการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ (SFC) สามารถทำธุรกรรม reverse repo โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์และไม่จำเป็นต้องเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน เพื่อให้ SFC สามารถทำธุรกรรม reverse repo โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเงินธนาคารพาณิชย์หรือออกตั๋วเงินได้ตามเดิมที่ถือเป็นการให้สินเชื่อกับบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจโดยปกติของ SFC
พร้อมกันนี้ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อหรือมีหุ้นและการประกอบกิจการอื่นของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้สอดคล้องกับบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้มีการกำกับดูแลเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน
ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นซึ่งมีรายละเอียดการปรับปรุงหลักการและร่างประกาศในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=1085 และระบบกลางทางกฎหมาย https://www.law.go.th/listeningDetail?survey_id=NTQ3NkRHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์หรือทาง e-mail : phachisa@sec.or.th chawannuch@sec.or.th หรือ laksika@sec.or.th จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2568.-516 สำนักข่าวไทย