ส่งออกไทย พ.ค.68 โต 18.4% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์-การปิดด่านไม่กระทบมาก

นนทบุรี 18 มิ.ย. – “พิชัย” ปลื้มส่งออกไทยเดือน พ.ค.68 โต 18.4% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทะลุ 1 ล้านล้านบาท ชี้รัฐบาล 8 เดือน ส่งออกไทยขยายตัวแล้ว 13.3% กวาดรายได้เข้าประเทศ 215,798.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7.23 ล้านล้านบาท) พร้อมฝากถึงผู้ว่าการ ธปท. ควรทำให้ค่าเงินบาทอ่อนกว่านี้ ส่วนส่งออกผักผลไม้ไปกัมพูชายังไม่กระทบมาก


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย สถานการณ์การส่งออกของไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2568 ว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,025,477 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ในอัตราร้อยละ 18.4 ซึ่งนับเป็น อัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่มีนาคม 2565 และถือเป็นมูลค่าการส่งออกรายเดือน สูงสุดในประวัติศาสตร์

ทั้งนี้ หากไม่รวมกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 20.3 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการชะลอการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ และความต้องการสินค้าเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งผลให้สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และแผงวงจรไฟฟ้า เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่สินค้าเกษตร โดยเฉพาะ มันสำปะหลัง ทุเรียน มังคุด และเงาะ ก็กลับมาฟื้นตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน


สำหรับภาพรวม 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกไทยขยายตัวร้อยละ 14.9 (หากไม่รวมสินค้าน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย จะขยายตัวที่ร้อยละ 13.9)
สินค้าเด่นและตลาดสำคัญที่ขยายตัว
สินค้าอุตสาหกรรม: ขยายตัวถึงร้อยละ 22.9 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 นำโดย คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ และอัญมณี (ไม่รวมทองคำ)
สินค้าเกษตร: กลับมาขยายตัวร้อยละ 6.8 หลังชะลอตัวหลายเดือน โดยเฉพาะผลไม้สด มันสำปะหลัง และมะม่วง

ตลาดส่งออกสำคัญที่เติบโตดี ได้แก่
-สหรัฐฯ +35.1% (โตต่อเนื่อง 20 เดือน)
-จีน +28.0%
-ตะวันออกกลาง +22.8%
-เอเชียใต้ +22.3%
-แอฟริกา +21.4%
-สหภาพยุโรป +16.6%
-อาเซียน +8.8%

นายพิชัย กล่าวว่า ผลงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกไทยขยายตัวแล้วถึง ร้อยละ 13.3 สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศรวมกว่า 215,798.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 7.23 ล้านล้านบาท และคาดว่าหากแนวโน้มยังคงอยู่ในทิศทางบวก จะเป็นปีทองของการส่งออกไทยอย่างแท้จริง


“อย่างที่ผมย้ำมาตลอดว่า ปีนี้จะเป็น ‘ปีทอง’ ของการส่งออก เราไม่ได้เติบโตเพียงเพราะนโยบายต่างประเทศของบางประเทศ แต่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของสินค้าไทยและการทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันของทุกกรมในกระทรวงพาณิชย์ ผมมั่นใจว่าในสิ้นปีนี้ เราจะเห็นการขยายตัวแตะตัวเลข สองหลัก ได้แน่นอน” นายพิชัย กล่าว

นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ยังระบุว่ากระทรวงฯ ได้เริ่มเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ส่งออกไทยในระยะยาว

นายพิชัย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งตัว อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตร โดยเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย ที่ค่าเงินอ่อนลงจนสามารถตั้งราคาสินค้าได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาทิศทางค่าเงินอย่างรอบคอบ เพื่อสนับสนุนภาคการส่งออก

“กระทรวงพาณิชย์วิ่งขายของอย่างเดียวไม่พอ ถ้าค่าเงินยังแข็งแบบนี้ผู้ส่งออกโดยเฉพาะเกษตรกรจะได้รับผลกระทบหนัก เราอยากเห็นค่าเงินอ่อนลงบ้าง ดังนั้นผู้ว่าการ ธปท.ต้องไปดูการทำงานของคนอื่นด้วย เพราะค่าเงินบาทที่แข็งตัวจะกระทบการส่งออก แต่ผู้ว่า ธปท.จะอยู่อีกไม่กี่เดือนก็จะหมดวาระแล้ว หวังว่า ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่จะเข้าใจปัญหา เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้รอบด้าน ทั้งการส่งออก การลงทุน และรายได้ของประชาชน ” นายพิชัย กล่าว

สำหรับการส่งออกผักและผลไม้ไปยังกัมพูชาที่มีปัญหาเรื่องข้อพิพาทดินแดนและการปิดด่านนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่กระทบมากเพราะยังสามารถกระจายผลไม้ไปยังห้างโมเดิร์นเทรดได้ โดยล่าสุดมีการรับซื้อมังคุดไปแล้ว 6 แสนกิโลกรัม ส่วนเรื่องผักสดที่มีปัญหาการส่งออกจากไทยไปกัมพูชา โดยเฉพาะจากตลาดไทไปยังชายแดนกัมพูชา จะต้องเข้าไปดูว่ากระทบอย่างไรและพิจารณาเป็นรายๆ ไป

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยเพิ่มเติมถึงการส่งออกผักและผลไม้ไปยังกัมพูชา ว่า ผลไม้ในภาคตะวันออกช่วงนี้ เป็นช่วงปลายฤดูกาล ยังมีผลผลิตอีกไม่ถึง 7 พันตัน ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานหาตลาดให้ โดยล่าสุดมีผู้ประกอบการรับซื้อไปแล้ว 3 พันตัน นอกจากนี้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เตรียมเชิญสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯกว่า 100 ราย ให้เข้ามาช่วยซื้อผลไม้ของไทยด้วย

นายวิทยากร ระบุว่า ชาวกัมพูชานิยมบริโภคผลไม้สุก ดังนั้นจึงไม่กระทบกับการส่งออกของไทย ส่วนเส้นทางส่งสินค้าไปเวียดนาม ยังมีอีกหลายเส้นทางที่ไม่ต้องผ่านกัมพูชา เช่น เส้นทาง R9 สายมุกดาหาร-สหวันนะเขต (สปป.ลาว) – Quag Tri (เวียดนาม) ระยะทาง 230 กม. เส้นทาง R12 สายนครพนม-คำม่วน (สปป.ลาว)-Ha Tinh (เวียดนาม) ระยะทาง 210 กม. และเส้นทางสายอุบลราชธานี-จำปาสัก (สปป.ลาว)- Koh Tum(เวียดนาม) ระยะทาง 250 กม. ดังนั้นหากไม่สามารถผ่านกัมพูชาได้ เราก็ยังมีทางเลือกอีกหลายเส้นทางเพื่อส่งออกไปยังเวียดนาม. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]