กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – กลุ่มตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า NETA จากหลายจังหวัดทั่วประเทศรวมตัวกันยื่นหนังสือต่อกรมสรรพสามิต ขอให้ช่วยตรวจสอบและเร่งแก้ไขปัญหากรณีบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ค้างชำระเงินสนับสนุนและค่าชดเชยตามข้อตกลงในโครงการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
นายฉัตรดนัย คมฤทัย ตัวแทนผู้จำหน่าย กล่าวว่า ตัวแทนจำหน่ายหลายรายได้รับผลกระทบสะสมจากการที่บริษัทแม่ไม่จ่ายเงินอุดหนุนตามที่ระบุในสัญญา แม้จะทวงถามต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2567 ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน โดยบางรายมีความเสียหายรวมเกือบ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการรับประกันสินค้า เช่น แบตเตอรี่และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งอาจกระทบต่อผู้บริโภคในอนาคต หากไม่มีความชัดเจนในเรื่องการเคลมและการดูแลหลังการขาย
ผู้แทนจำหน่ายยังตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใสในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัท การแต่งตั้งกรรมการใหม่ และการจัดหาอะไหล่ผ่านบุคคลภายนอกโดยไม่มีหลักประกันว่าจะได้รับเงินชดเชย ซึ่งส่งผลให้ผู้จำหน่ายต้องรับภาระต้นทุนเองโดยไม่ได้รับการเยียวยา
ตัวแทนกลุ่มดีลเลอร์จึงร้องขอให้ภาครัฐ โดยเฉพาะกรมสรรพสามิต พิจารณาว่า เงินอุดหนุนที่ยังค้างอยู่ตามมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งยังไม่จ่ายให้แก่บริษัทเนต้า อาจสามารถกันไว้เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการค้างชำระของบริษัทแม่ได้หรือไม่
ด้านนายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ซึ่งเดินทางมารับหนังสือด้วยตนเอง ระบุว่า เงินสนับสนุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในเชิงภาษี โดยยืนยันว่า บริษัทเนต้าได้รับเงินอุดหนุนไปแล้วบางส่วน แต่อีกบางรายการยังต้องชะลอจ่ายไว้ เนื่องจากบริษัทยังไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไข เช่น การวางหลักประกันธนาคาร (แบงก์การันตี) และข้อกำหนดด้านการผลิตในประเทศได้ครบถ้วน
รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า ข้อเสนอให้กรมนำเงินอุดหนุนไปช่วยเหลือดีลเลอร์นั้น อาจอยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของกรมฯ เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชน ซึ่งต้องใช้กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี กรมฯ จะรับหนังสือไว้พิจารณาเพื่อดูว่ามีประเด็นใดที่สามารถดำเนินการหรือประสานงานเพิ่มเติมได้ในกรอบของกฎหมาย.-512 – สำนักข่าวไทย