เสวนาโต๊ะกลมสถานบันเทิงครบวงจรไทย

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – นักกฎหมายสนับสนุนเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ชี้ไม่ใช่จุดรวม “ธุรกิจสีเทา” แต่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและจัดการปัญหาบ่อนใต้ดิน ขณะที่โฆษกพรรคประชาชน ยืนยันไม่เห็นด้วยกับเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไม่ชัดเจน


Inside Asian Gaming สื่อชั้นนำด้านอุตสาหกรรมสถานบันเทิงของภูมิภาคเอเชีย จัดเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยสถานบันเทิงครบวงจรไทย นายจอร์จ เทนาซิเยวิช อดีตประธานและ CEO Marina Bay Sans ประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อาจจะเป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทยเพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานซึ่งรัฐบาลจะต้องสื่อสาร ต้องวางแผนเพื่อเอาชนะความเข้าใจผิดของประชาชนให้ได้ ตนเองเชื่อว่า ความไว้วางใจและความโปร่งใสในการทำโครงการนี้จะเป็นแนวทางให้เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย

นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมาย และที่ปรึกษากรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร และผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย VLA กล่าวว่า โครงการสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งการตรวจสอบแก้ไขร่างกฎหมายที่มีการเสนอในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ไทยมีประสบการณ์มาก่อน แต่เป็นเรื่องที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ มีประสบการณ์มาแล้วจึงต้องมีการเรียนรู้จากเพื่อนบ้านและรับฟังความเห็นจากส่วนต่าง ๆ มากที่สุด โดยกรอบกฎหมายที่พิจารณากันไม่ได้ใช้คำว่า “กาสิโน” แต่ใช้คำว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือ Entertainment Complex ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้ามาเปิดหรือมาลงทุนได้ เพราะเงื่อนไขที่วางไว้ค่อนข้างที่สูง จะต้องลงทุนเป็นมูลค่ามหาศาล และพื้นที่ที่เป็นกาสิโนตามหลักการก็คือไม่เกิน 10% ของพื้นที่ ส่วนอีก 90% ของพื้นที่จะทำอะไร จะสร้างสวนสนุก สวนน้ำ โรงละคร สนามกีฬา หรือว่าจะมีทัศนียภาพที่สวยงามเป็น Man-Made Destination ซึ่งโครงการนี้มี 3 เป้าหมายหลัก คือ 1. การพัฒนาเศรษฐกิจ  เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติ 2. การพัฒนาการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวของไทยก็ดังอยู่แล้ว แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่พัฒนาการท่องเที่ยวของเรา เพื่อนบ้านเขาก็พร้อมที่จะขึ้นมา และ 3. การจัดการปัญหาบ่อนใต้ดิน  เพราะบ่อนใต้ดินที่มีอยู่มานานมากแล้ว มันเป็นระบบที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินนอกระบบ และเงินนอกระบบนี้มันก็จะโยงกันหลายอย่าง การค้าประเวณี ยาเสพติด อิทธิพล สินบน เจ้าหน้าที่ของรัฐ


นายวีรพัฒน์ กล่าวด้วยว่า กระบวนการตอนนี้เรายังไม่ทันจะได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการ สิ่งที่เรามีตอนนี้คือการพูดคุยในสังคม มีร่างการศึกษาของคณะกรรมาธิการในสภา ซึ่งก็เป็นแค่ร่างการศึกษา ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาผ่านกฎหมาย ข้อกังวลใจใด ๆ ที่ภาคสังคม ภาควิชาการมี คิดว่าสำคัญและต้องรับฟัง แล้วก็เอาข้อพิจารณาเหล่านี้มาใช้แก้ไข อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าไม่ใช่การเปิดกาสิโนอย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นการสร้าง Entertainment Complex เพื่อดึงเม็ดเงินเข้าประเทศและแก้ปัญหาบ่อนใต้ดินที่มีมานาน เรียนรู้จากประสบการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน ตนกลับมองว่าเป็นข้อดีที่เรามาทีหลังเขา ในแง่ที่ว่าเราสามารถเรียนรู้ได้ว่าเขาประสบความสำเร็จตรงไหน เขาผิดพลาดอะไร และเราจะทำให้ดีกว่าเขายังไง

ทั้งนี้ เมื่อถูกถามเรื่องความกังวลว่าจะเป็นศูนย์รวมธุรกิจสีเทาและแหล่งฟอกเงินหรือไม่นั้น นายวีรพัฒน์ ตอบว่า ธุรกิจสีเทา เงินนอกระบบมันมีมาอยู่แล้ว ยังไม่ต้องมีกาสิโน ไม่ต้องมี Entertainment Complex ก็มีเงินนอกระบบ แต่ถ้าเราไม่ดึงเม็ดเงินกลับเข้ามาสู่ระบบ เราจะแก้อย่างไร ถ้าเราบอกว่าเราก็จะไปตามจับเรื่อย ๆ แล้วที่ผ่านมาเราตามจับมากี่ปีแล้ว จนถึงขณะนี้ก็ยังตามจับไม่หมด

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มี “กาสิโน” เป็นหัวใจหลัก เนื่องจากเห็นว่า 1.ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจไม่ชัดเจน ไม่ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ว่าสร้างแล้วจะเกิดประโยชน์อย่างไร ที่ผ่านมาคนผลักดันใช้เพียงแค่สมมติฐานเท่านั้น 2.ผลกระทบทางสังคม เพราะรัฐบาลยังไม่ได้มีมาตรการรัดกุมเพียงพอจะทำให้เกิดปัญหาการติดการพนันและการฟอกเงินตามมา 3. โครงการเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเพราะไม่ได้บรรจุไว้ในช่วงหาเสียงก่อนเลือกตั้ง


โฆษกพรรคประชาชน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมักจะพูดว่าภาคเอกชนให้ความสนใจแต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะรัฐบาลยังหาความสมดุลได้ไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ารัฐบาลพยายามจะเร่งรัดผลักดัน พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฉบับนี้ให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรให้ได้ หลังจากทำไม่สำเร็จในช่วงเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งที่แล้ว โดยคาดว่ารัฐบาลจะดันกฎหมายฉบับนี้เข้าสภาอีกครั้งช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]