คลัง 5 มิ.ย.- “จุลพันธ์” มั่นใจร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านสภาทันรัฐบาลชุดนี้ คาดการลงทุน 3 แสนล้านบาท สร้างรายได้เข้าประเทศ 39,427 ล้านบาท หวังไทยชิงอันดับ 1 ใน 3 ของโลก
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ไทยต้องการเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ รองรับการแข่งขันกับต่างประเทศ หลายประเทศแข่งขันสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศของตน รัฐบาลจึงเสนอ ”Thailand Entertainment Complex“ ช่วงที่ผ่านมาได้หารือกับหลายฝ่าย เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน เป็นโครงการต่อเนื่อง มีระบบกำกับดูแลตามมาตรฐานโลก หลังจากได้หารือกับ ผู้ประกอบการระดับโลกหลายราย
ทั้งผู้บริหาร MGM Resorts International เอกชนลงทุน Entertainment Complex จากสหรัฐฯ และในหลายประเทศ Wynn Resorts จากสหรัฐ เอกชนต่างชาติรายใหญ่ กฎกติกา ควบคุมกำกับดูแล ต้องชัดเจน เข้มแข็งมาก เพราะจดทะเบียนในสหรัฐ ต้องมีกฎระเบียบรัดกุม เข้มงวด รัฐบาลจึงต้องผลักดันร่างกฎหมายให้ผ่านสภา ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสการลงทุน 3 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงาน 20,000 ตำแหน่ง และสร้างรายได้เข้าประเทศ 39,427 ล้านบาท ภาครัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้น 4.4 แสนล้านบาท
“กระบวนการคัดเลือกต้องทำให้โปร่งใส ราบรื่น ตามมาตรฐานโลก เมื่อเป็นร่าง พ.ร.บ. ต้องผลักดันให้เสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในหลายมิติ ยืนยันว่า การจำกัดคนไทยเข้าคาสิโน ต้องมีบัญชีเงินฝาก 50 ล้านบาทขึ้นไป เพราะได้ผ่านขั้นตอนจากหลายหน่วยงานแล้ว คนที่พร้อมและมีกำลังจึงเข้าไปในคาสิโนได้ โครงการนี้ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์ในหลายเวทีแล้ว ส่วนการยื่นประมูล จะให้เอกชนรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า เพื่อยื่นประมูลเพียงรายเดียว หากดำเนินการได้ คาดกว่าไทยจะก้าวเป็น 1 ใน 3 ของโลก ผู้ให้บริการ Entertainment Complex” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวระดับโลก ต้องการเพิ่มรายได้ต่อหัวจาก 5,000-6,000 บาทต่อวันต่อหัว การส่งเสริมแข่งรถ F1 การแพทย์สมัยใหม่ เพิ่มโอกาสให้กับสินค้าโอท็อป นับว่า Man-Made Destination เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ดังนั้น โครงการ “Thailand Entertainment Complex” จึงต้องเร่งผลักดัน เพราะไม่ใช่เพียงเรื่องบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างแบรนด์ เพราะมีทั้งสวนสนุก สวนน้ำ ล้ำสมัย โรงแรม 5 ดาว ร้านอาหาร ท่าเรือยอร์ชและเรือสำราญ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวค่าใช้จ่ายสูงเข้าประเทศ การสร้างศูนย์ประชุมและพื้นที่จัดนิทรรษกาลขนาดใหญ่
รวมทั้งการจัดคอนเสิร์ตฮอลล์ระดับเวิร์ลคลาส ปรับปรุงให้มี Indor Arena ระดับชาติแห่งใหม่ คนไทยเข้าถึงได้ รองรับฝน แดดร้อน การสร้างศูนย์การแสดงวัฒนธรรมและศิลปะไทย เพื่อนำสินค้าไปวางจำหน่าย โดยกำหมายกำหนดให้มีสัดส่วนถึงร้อยละ 10 สนามกีฬาขนาดใหญ่มาตรฐานโลก แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของวงการกีฬา ศูนย์ประชุมนานาชาติ การนำห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มาร่วมโครงการเป็นแบบครบวงจร หนุนให้เกิดโรงแรมระดับ 5 ดาว รองรับการเข้าพักของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก การส่งเสริมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เพื่อเพิ่งการจ้างงาน เพื่อนำสินค้าเกษตรมายกระดับ การพัฒนาศูนย์นวัตกรรมสำหรับสตาร์ทอัพ รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล

นายศึกษิษฎ์ กล่าวว่า ต่างประเทศลงทุน Entertainment Complex ไปหลายปีแล้ว สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมาก เมื่อไทยเพิ่งจะเริ่มสร้าง หวังนำบทเรียนจากประเทศต่างๆมาต่อยอด พัฒนาเพิ่มเติม จาก 3 โมเดลหลักทั่วโลก คือ สร้างในพื้นที่ห่างไกล เหมือนเมืองลาสเวกัส การสร้างแบบกระจายไปหลายสถานที่ในหลายเมือง ส่วนไทยเลือกตามรูปแบบของสิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรต กำหนดให้เป็นโครงการลงทุนสูงไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท มีมาตรการกำกับดูแล เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
ผู้ลงทุน Entertainment Complex ต้องยึดหลักตามมาตรการระดับโลก มีระบบกำกับดูแลมาตรฐาน เมื่อนักลงทุนรวมตัวกันยื่นประมูลและก่อสร้าง รัฐบาลหวังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 22,300 บาทต่อคนต่อทริป มียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มร้อยละ 5-20 ต่อปี ทำให้ไทยไม่มี Low Season สร้างรายได้เข้าประเทศ 12,037 -39,427 ล้านบาท จึงไม่อยากให้ประเทศไทยเสีย ”โอกาส“ อีกต่อไป เพราะหลายประเทศเพื่อนบ้านสร้าง Entertainment Complex ไปหมดแล้ว ไทยเป็นเพียงพัฒนาต่อยอด นำบทเรียนของหลายประเทศมาพัฒนา.-515- สำนักข่าวไทย