CEA จับมือ CISPI และ TCEB เปิดตัว “MY PRIDE THAILAND” ชู 50 คาแรกเตอร์ไทยสุดจี๊ด

กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – CEA จับมือ CISPI และ TCEB เปิดตัว “MY PRIDE THAILAND” ชู 50 คาแรกเตอร์ไทยสุดจี๊ด สะท้อนสีสันแห่งความหลากหลายและภาคภูมิใจในทุกมิติ สร้างแบรนดิ้งประเทศไทยสู่เวทีโลก


โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA กับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ (CISPI) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ได้ร่วมกับ Pink Blue Black & Orange (PBBO) นำทีมโดย “สยาม อัตตะริยะ” กราฟิก ดีไซเนอร์อันดับ 69 ของโลก ในปี 2019 และ 2020 (จัดโดย A’ Design Award and Competition หนึ่งในงานประกวดรางวัลออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในโลก) มาร่วมออกแบบคาแรกเตอร์มากกว่า 50 แบบ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความภาคภูมิใจในตัวตนและความเป็นไทย รวมถึงพลังสร้างสรรค์แบบไร้กรอบที่ผลงานออกแบบจะมอบทั้งคุณค่าและมูลค่าให้แก่ผู้คน เมือง และประเทศได้

นายชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์นับเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคที่นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นปัจจัยหลักในการแข่งขันระดับโลก CEA จึงมุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการสร้างสรรค์ให้สามารถต่อยอดงานออกแบบไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์ ขยายโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับสากล “MY PRIDE THAILAND” เป็นตัวอย่างของการนำ “ผลงานออกแบบอัตลักษณ์ร่วม” ไปใช้เพื่อช่วยสร้างภาพจำที่โดดเด่นในระดับประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่เมือง นักออกแบบตั้งใจให้ใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับการประยุกต์ใช้ในรูปแบบงานที่หลากหลาย แตกต่างตามบริบท และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ โดย CEA เริ่มต้นโครงการนำร่องนี้ในช่วงเทศกาล Pride Month ที่กำลังมาถึง โดยแคมเปญนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองการจัดกิจกรรมช่วง Pride Month เท่านั้น แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญของการส่งเสริมอัตลักษณ์ไทย ผ่านพลังของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่จะช่วยส่งเสริมเทศกาล ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว ด้วยแคมเปญสื่อสารที่สะท้อนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทย สู่การสร้างแบรนด์ประเทศไทยบนเวทีโลก


นางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ (CISPI) กล่าวว่าปัจจุบันกลุ่ม LGBTQ+ ถือเป็นกำลังสำคัญที่สะท้อนถึงพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับองค์กรและระดับอุตสาหกรรม โดยในเดือนมิถุนายน ปี 2567 ที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันสนับสนุนการจัดกิจกรรม Pride Month เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 860,000 คน สร้างรายได้กว่า 4,500 ล้านบาท ดังนั้นทาง CISPI เล็งเห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันของกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย เพื่อเติมเต็มคุณค่าทางเศรษฐกิจ จึงร่วมกับ CEA ริเริ่มแคมเปญ Paint the City with “MY PRIDE” โดยใช้ผลงานออกแบบชุดอัตลักษณ์ของแคมเปญ “MY PRIDE” สื่อสารและสร้างการรับรู้เรื่องคุณค่าความเป็นไทย เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาล Pride Month และในช่วงเวลาอื่น ๆ รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วยการนำผลงานออกแบบไปใช้กับสินค้าและบริการของไทย (Made in Thailand) ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อเป็นการต่อยอดผลงานออกแบบทั้งในระดับเมืองสู่ระดับประเทศ อันจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมนโยบายการดึงงานระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย TCEB ในฐานะหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมการจัดงานไมซ์และ อีเวนท์ของประเทศไทย พร้อมร่วมเป็นพันธมิตรขับเคลื่อนแคมเปญ Paint the City with “MY PRIDE” และอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND ผ่านการสนับสนุนการดึงงานระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสนอตัวประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride 2030 ซึ่งเป็นงานมหกรรมไพรด์ระดับนานาชาติ เพื่อสนับสนุนสิทธิและความหลากหลายทางเพศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดย TCEB จะนำอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND สนับสนุนงานอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงเครือข่ายแคมเปญ ร่วมสร้างเครือข่ายไทยทีมทุกภาคส่วนผ่านกลยุทธ์ 3P (Public Private Pride Partnership) โดยรวบรวมพันธมิตรภาครัฐ เอกชน ประชาชน และองค์กรไพรด์ทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride 2030 ซึ่งหากไทยประมูลสิทธิการจัดงานได้สำเร็จ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติกว่า 5 แสนถึง 1 ล้านคน สร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศกว่า 24,680 ล้านบาท นอกจากนี้ TCEB จะเดินหน้าส่งเสริมการขับเคลื่อนแคมเปญนี้ ผ่านการสนับสนุนการจัดงานขององค์กรไพรด์ทั่วประเทศอีกด้วย ไม่ใช่เพียง ‘การสนับสนุน’ แต่ยังรวมถึง ‘การเป็นส่วนหนึ่ง’

การออกแบบภาพสื่อสารหลัก (Key Visual) ของงานออกแบบอัตลักษณ์ (MY PRIDE Campaign Identity) หรือย่อว่า MY PRIDE CI ไม่ได้ตั้งต้นจากการคิดถึงกำไรในเชิง “มูลค่า” แต่คือการตระหนักถึง “คุณค่า” ของทุกตัวตนเป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงคุณค่าของงานออกแบบ โดยผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจสามารถนำชุุดอัตลักษณ์ “MY PRIDE” ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างคุณค่าและมูลค่าในภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว


เป้าหมายระยะยาว คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ และสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศที่ “เปิดกว้าง” และ “ภาคภูมิใจในความหลากหลายในทุกมิติ” บนเวทีโลก พร้อมผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนให้ก้าวไปได้ไกลและยั่งยืนยิ่งขึ้น แคมเปญนี้ได้ผนึกกำลังพันธมิตรกว่า 10 แบรนด์ ต่อยอดสินค้าใหม่ที่ใช้คาแรกเตอร์ไทยสุดจี๊ด ที่นำชุดอัตลักษณ์ “MY PRIDE” ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ เช่น บัตร Rabbit โดย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), S&P โดย บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด, บริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด, Kohkae โดย บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด, Moreloop โดย บริษัท มอร์ลูป จำกัด, ยืดเปล่า โดย บริษัท เริ่มใหม่ จำกัด, Greyhound โดย บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด, ICHITAN โดย บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด, บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป และบริษัท สยาม เอ็ม. ซี. จำกัด

สำหรับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ นักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการธุรกิจ ผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการ ที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “MY PRIDE THAILAND” ภายใต้แคมเปญ Paint the City with “MY PRIDE” สามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่ cispi@fti.or.th -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]