กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – ไทยยูเนี่ยน เอกชนไทยรายแรก ได้รับเงินกู้ Blue Loan วงเงิน 5,000 ล้านบาท จากเอดีบี เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารทางทะเล หนุนเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนม
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สนับสนุนเงินกู้ Blue Loan วงเงินรวม 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5,000 ล้านบาท แก่บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU นับเป็นครั้งแรกของ ADB ที่จัดสรรให้กับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการผลิตอาหารทะเลอย่างยั่งยืน การยกระดับการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก และยังสอดคล้องกับทิศทางของประเทศที่กำลังปรับตัวและมุ่งสู่ศรษฐกิจทางทะเลที่ยั่งยืน หรือ Blue Economy
นายอานุช เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย กล่าวว่าปัจจุบันการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ผลผลิตอาหารทะเลมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก โดยแหล่งผลิตหลักอยู่ในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ความร่วมมือกันในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า Blue Finance สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับอุตสาหกรรมอาหารทะเลให้สามารถปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยภายใต้วงเงินกู้ด้านความยั่งยืนทางทะเลที่ได้รับในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดหาวัตถุดิบกุ้งที่เพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืนที่ได้การยอมรับในระดับโลกจาก Global Sustainable Seafood Initiative หรือ GSSI เช่น มาตรฐาน Aquaculture Stewardship Council หรือ ASC และมาตรฐาน Best Aquaculture Practices หรือ BAP หรือจัดซื้อจากฟาร์มที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีความน่าเชื่อถือ (Aquaculture Improvement Projects หรือ AIPs)


นายลูโดวิค การ์นิเย่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจที่พึ่งพาทรัพยากรทางทะเลของไทยมีสัดส่วนประมาณ 30 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งสูงเป็นอันดับสองในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก และเป็นแหล่งเลี้ยงชีพของประชากรเกือบ 1 ใน 4 ของ 23 จังหวัดชายฝั่งทะเลของไทย ดังนั้นการผนึกกำลังความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆในการสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมผลิตอาหารทะเล ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นแบบอย่างที่ดีในการการนำนวัตกรรมทางการเงินมาเป็นเครื่องมือในการปกป้องดูแลทรัพยากรทางทะเล พร้อมดูแลความเป็นอยู่ของผู้คน และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน. -516-สำนักข่าวไทย