กยศ.แจงหักเงินเดือนเพิ่มตาม กม.ใหม่

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – กยศ.แจงหักเงินเดือนเพิ่มตาม กม.ฉบับใหม่ ลดเบี้ยปรับเหลือเพียง 0.5% ต่อปี ผ่อนยาว 15 ปี


กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินงาน เพื่อมุ่งช่วยเหลือผู้กู้ยืมลดภาระหนี้ เพิ่มโอกาสการศึกษา โดยการปรับโครงสร้างหนี้ตาม พ.ร.บ.ฉบับใหม่ 2566 การลดเบี้ยปรับเหลือเพียง 0.5% ต่อปี การเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่เป็น “เงินต้น – ดอกเบี้ย – เบี้ยปรับ” การปลดผู้ค้ำประกันทันทีเมื่อทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และให้โอกาสผู้กู้ยืมผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 15 ปี ซึ่งปัจจุบันมีผู้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 598,000 บัญชี และมีผู้ขอคืนเงินที่ชำระเกินแล้วกว่า 26,000 บัญชี รวมทั้งขอชี้แจงประเด็นเรื่องการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาท

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า เนื่องจากสาระสำคัญของพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 คือ การปรับลำดับการชำระหนี้ใหม่ โดยเรียงลำดับการชำระเป็น “เงินต้น – ดอกเบี้ย – เบี้ยปรับ” แทนแบบเดิม เปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเป็น 1% ต่อปี พร้อมทั้งลดอัตราเงินเพิ่ม (เบี้ยปรับ) จากสูงสุด 18% ต่อปี เหลือเพียง 0.5% ต่อปี รวมทั้งให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืม คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) และคืนเงินชำระหนี้ส่วนเกินให้แก่ผู้กู้ยืม ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว จะทำให้ผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์ ดังนี้


การปรับโครงสร้างหนี้ สามารถปลดภาระผู้ค้ำประกันได้ทันที ผู้กู้ยืมสามารถผ่อนชำระเงินคืน กยศ. เป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน และสามารถชำระให้เสร็จสิ้นได้นานถึง 15 ปี โดยในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมเงินต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์และเมื่อชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้น กยศ.จะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100% แต่หากผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้สะสมเกิน 6 งวด จะถือว่าสัญญาปรับโครงสร้างสิ้นสุดลง และจะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 มีผู้กู้ยืมมาทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งสิ้น 598,334 บัญชี แบ่งเป็น สัญญาปรับโครงสร้างหนี้แบบกระดาษจำนวน 261,110 บัญชี และสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แบบออนไลน์ จำนวน 337,224 บัญชี โดยผู้กู้ยืมสามารถดำเนินการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์ได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.studentloan.or.th และยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD

การคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืน จำนวน 3,835,213 บัญชี โดย กยศ. นำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. ฉบับใหม่ โดยเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้โดยตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และลดเบี้ยปรับเหลือเพียงอัตรา 0.5% ต่อปี ซึ่งผลจากการคำนวณปรากฏว่ามีผู้กู้ยืมที่มียอดหนี้ลดลง 3,548,016 บัญชี กลุ่มที่มียอดหนี้เท่าเดิม 755 บัญชี และกลุ่มที่ไม่มีหนี้คงเหลือ (ปิดบัญชี) 80 บัญชี โดยมีผู้กู้ยืมที่มีสิทธิขอรับคืนเงินที่ชำระหนี้เกิน จำนวน 286,362 บัญชี ซึ่งปัจจุบันมีผู้กู้ยืมลงทะเบียนขอรับเงินคืนแล้ว จำนวน 26,463 บัญชี และได้คืนเงินไปแล้วจำนวน 2,602 บัญชี เป็นเงินทั้งสิ้น 73.70 ล้านบาท สำหรับการคืนเงินส่วนที่ชำระหนี้เกินดังกล่าว กยศ. จะคืนเงินผ่านระบบโอนเงินแบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเท่านั้น และแบ่งการคืนเงินให้ผู้กู้ยืมแต่ละรายเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะคืนเงินให้ในอัตรา 70% ของยอดเงินที่คำนวณได้ และส่วนที่ 2 จะคืนเงินให้เมื่อ กยศ.คำนวณหนี้ผ่านระบบ DSL แล้วเสร็จ และหากว่าผู้กู้ยืมยังมีเงินส่วนที่ชำระเกิน โดย กยศ. จะคืนเงินส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากผู้กู้ยืมได้รับคืนเงินส่วนแรกเกินสิทธิ กยศ. จำเป็นต้องเรียกเงินส่วนเกินคืน ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนสามารถเข้าระบบตรวจสอบสถานะบัญชีผู้กู้ยืมเงินที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ซึ่งหากมีสิทธิได้รับเงินคืนจะสามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ โดยผู้กู้ยืมจะได้รับเงินคืนภายในเดือนพฤษภาคม 2568 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ขณะนี้ยังไม่สามารถรองรับระบบการคำนวณหนี้ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ กยศ. อยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมยิ่งขึ้น

การหักเงินเดือนเพิ่ม สำหรับระบบการหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง ที่ผ่านมา กยศ. ได้ดำเนินการหักเฉพาะยอดหนี้ปีปัจจุบัน ไม่รวมยอดหนี้ค้างในปีก่อนหน้า ซึ่งบางรายจะมียอดหนี้ค้างเก่าทำให้ในเดือนเมษายน 2568 ในส่วนของการรองรับผู้กู้ยืมที่ได้รับผลกระทบจากการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาทต่อบัญชี กยศ. มีแนวทางดูแลเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. กรณีผู้กู้ที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จะต้องชำระยอดหนี้ในงวดแรกด้วยตนเอง พร้อมแจ้งให้นายจ้างทราบ เพื่อป้องกันการถูกหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาทในเดือนนั้น โดยการหักเงินเดือนตามสัญญาใหม่จะเริ่มตั้งแต่งวดที่ 2 เป็นต้นไป
2. กรณีผู้กู้ที่ยังไม่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และไม่สามารถให้หักเงินเดือนเพิ่มได้ สามารถยื่นขอปรับลดจำนวนเงินหักเดือนละ 3,000 บาท ได้ทางเว็บไซต์ กยศ. โดยยื่นภายในวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม หรือยื่นภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 สำหรับงวดเดือนมิถุนายน
โดย กยศ. จะพิจารณาและแจ้งผลผ่าน SMS พร้อมส่งข้อมูลให้กับนายจ้างผ่านระบบ e-PaySLF


มาตรการลดหย่อนหนี้ กยศ. ได้ออกมาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้กู้ชำระหนี้ปิดบัญชีในช่วงวันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568 โดยมอบส่วนลดต้นเงิน 5-10% และส่วนลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี และยังอยู่ในระยะเวลาปลอดหนี้หรือกำลังชำระหนี้อยู่ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิได้ทางเว็บไซต์ กยศ.

กยศ.ขอให้ผู้กู้ยืมทุกคนที่เคยได้รับโอกาสจาก กยศ. ชำระเงินคืน เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน.-515- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]