กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “เสนา” เดินหน้ารุกธุรกิจโลจิสติกส์ จับมือ บริษัท มิตซูบิชิ โลจิสติคส์ คอร์ปอเรชั่น ญี่ปุ่น ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน “SENA MLC 1” เพื่อพัฒนาโครงการ Warehouse-Factory Bangna KM.23 (คลังสินค้า-โรงงาน บางนา กม.23 ) มุ่งเป็นโลจิสติกส์แห่งอนาคต เตรียมพร้อมรับการเติบโตทำเลศักยภาพ EEC
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ พบว่าธุรกิจคลังสินค้าของไทยในปี 2025 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าปริมาณพื้นที่คลังสินค้าที่มีสัญญาเช่าจะขยายตัวราว 9.3% เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของภูมิภาค อีกทั้งแนวโน้มสู่ยุค Smart Warehouse ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติและโซลูชันด้านพลังงานสะอาด ยังส่งผลให้ทำเลบางนา กม.23 ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมต่อ สนามบินและท่าเรือ ทั้งยังเป็นประตูสู่โซน EEC มีศักยภาพสูงในการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและการลงทุนจากต่างชาติ ตรงกับที่เสนามองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยกลุ่มบริษัทเสนามีประสบการณ์ในการบริหารจัดการคลังสินค้าในเขตเมือง ด้วยความสำเร็จจากโครงการ เช่น คลังสินค้าที่สุขุมวิท 50 ที่รักษาอัตราการปล่อยเช่า (OCC Rate) ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เสนามุ่งดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นผู้ให้บริการพื้นที่เก็บของและคลังสินค้าอัจฉริยะในพื้นที่ศักยภาพ ผ่านบริษัท เสนา เมโทรบ็อกซ์ จำกัด ดังนั้น การร่วมทุนกับมิตซูบิชิ โลจิสติคส์ ครั้งนี้ จึงเป็นการต่อยอดสู่คลังสินค้าระดับอุตสาหกรรม ยกระดับขีดความสามารถของเสนาในตลาดโลจิสติกส์ไปอีกขั้น ซึ่งเสนาในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประการณ์ยาวนานในไทย มีจุดแข็งและความเชี่ยวชาญในด้านการหาที่ดินศักยภาพ พัฒนาโครงการและควบคุมต้นทุนก่อสร้าง ขณะที่มิตซูบิชิ โลจิสติคส์ เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และการบริหารการเช่า (Leasing) จากประเทศญี่ปุ่น ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยเสริมจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย พร้อมพัฒนาโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

โครงการ Warehouse-Factory Bangna KM.23 มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 25 ไร่ จะถูกพัฒนาโดยมุ่งเน้นให้เป็น Next Generation Warehouse ที่เน้นความยั่งยืนและเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยจะนำแนวคิด Net Zero Warehouse/Factory มาปรับใช้ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงบริหารพื้นที่หลังผู้เช่าเข้าอยู่แล้ว เช่น การออกแบบและใช้วัสดุตามแนวคิดคาร์บอนต่ำ การใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ การจัดเตรียมระบบและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงมีระบบติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่มีมาตรฐานสากล เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกฝ่ายทั้งผู้พัฒนา คู่ค้า ในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงผู้เช่า(ลูกค้า) ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล องค์กร ให้สามารถบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ของแต่ละฝ่ายได้
มิสเตอร์ ฮิเดชิกะ ไซโตะ ประธานบริษัท บริษัท มิตซูบิชิ โลจิสติคส์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เราเชื่อว่าความร่วมมือกับบริษัทเสนา จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพร่วมกันในระดับสูง จากการผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเสนาในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เข้ากับความรู้ความสามารถของ Mitsubishi Logistics ในด้านการก่อสร้างและการดำเนินงานของศูนย์โลจิสติกส์ เรายังเชื่อว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เราหวังว่าความร่วมมือที่แข็งแรงนี้จะนำไปสู่การขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน ใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่ายได้อย่างเต็มที่ และส่งมอบคุณค่าใหม่ให้กับตลาดโลจิสติกส์และอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยมิตซูบิชิ โลจิสติคส์ มีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ผ่านโครงการพัฒนาที่เกิดจากความร่วมมือกับเสนา. -517-สำนักข่าวไทย