กระทรวงพาณิชย์ 30 เม.ย.- “พิชัย” kick off โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” จับมือเอกชน 50 ราย ลดราคาสินค้าเด่นโดนใจ สูงสุดกว่า 74% ตั้งแต่วันนี้ (30 เม.ย.)-31 พ.ค.68
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” ที่ร่วมกับผู้ผลิตสินค้า ผู้จัดจำหน่ายร้านสะดวกซื้อ ห้างค้าปลีกห้างสรรพสินค้า สถาบันกวดวิชา สถาบันดนตรี เครือข่ายอินเตอร์เน็ตและ แพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 50 ราย รวม 22,924 สาขาทั่วประเทศลดราคาสินค้าสูงสุดถึง 74% ครอบคลุมสินค้า 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ชุดนักเรีย อุปกรณ์การเรียน กลุ่มบริการ และกลุ่มสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน -31 พฤษภาคม 2568 โดยคาดว่าตลอดระยะเวลาโครงการรวม 32 วัน ( 30 เมษายน -31 พฤษภาคม 2568 ) จะสามารถลดค่าครองชีพได้ 300 ล้านบาทและกระตุ้นการใช้จ่ายสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากกว่า 900 ล้านบาท
“เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” เป็นโครงการต่อเนื่องในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ของรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง รวมถึงนักเรียนและนิสิต นักศึกษาในช่วงเปิดภาคเรียน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย


นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลปากท้องประชาชน ทั้งด้านราคาสินค้าและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยที่ผ่านมา กระทรวงสามารถควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ แม้ภาวะต้นทุนผู้ประกอบการจะเพิ่มขึ้น โดยปีที่แล้วอัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่เพียง 0.4% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการราคาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
“เราทำหลายเรื่องพร้อมกัน ทั้งการเจรจา FTA กับ EU การดูแลนโยบายภาษีทรัมป์ การควบคุมราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ในช่วงเปิดเทอมนี้ เราอยากให้ผู้ปกครองทุกคนได้มีโอกาสซื้อของที่จำเป็นในราคาที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นชุดนักเรียน หนังสือเรียน หรือสินค้าในชีวิตประจำวัน โดยสามารถเลือกซื้อได้ทั้งที่ห้างร้านทั่วประเทศกว่า 24,924 สาขา และผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าร่วมโครงการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
ขอเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง และน้องๆ นักเรียน นักศึกษา มาร่วมใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เลือกซื้อสินค้าที่จำเป็น รับส่วนลดสูงสุดถึง 74% ก่อนเปิดเทอมนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว และช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกัน
สำหรับการดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกับภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การลดค่าเช่าร้านค้า ค่าเช่าแผงตลาด ค่าขนส่งไปรษณีย์ การสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้า โครงการ “ชูใจ วัยเก๋า” รวมถึงการจับมือห้างค้าปลีก จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าหมวดจำเป็น ซึ่งช่วยสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทในเฟสแรกและเฟสสอง.-517-สำนักข่าวไทย
“พาณิชย์” kick off “เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” ลดหนักกว่า 74%
ก.พาณิชย์ 30 เม.ย. – “พิชัย” kick off โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” จับมือเอกชน 50 ราย ลดราคาสินค้าเด่นโดนใจ สูงสุดกว่า 74% ตั้งแต่ 30 เม.ย.-31 พ.ค.68
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” ที่เป็นความร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภาย และผู้ผลิตสินค้า ผู้จัดจำหน่ายร้านสะดวกซื้อ ห้างค้าปลีกห้างสรรพสินค้า สถาบันกวดวิชา สถาบันดนตรี เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 50 ราย รวม 22,924 สาขาทั่วประเทศลดราคาสินค้าสูงสุดถึง 74% ครอบคลุมสินค้า 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ และกลุ่มสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน -31 พฤษภาคม 2568 โดยคาดว่าตลอดระยะเวลาโครงการรวม 32 วัน (30 เม.ย.-31 พ.ค.) จะสามารถลดค่าครองชีพได้ 300 ล้านบาท และกระตุ้นการใช้จ่ายสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากกว่า 900 ล้านบาท
“เปิดเทอม เติมพลัง Back To School 2025” เป็นโครงการต่อเนื่องในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ของรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง รวมถึงนักเรียนและนิสิต นักศึกษาในช่วงเปิดภาคเรียน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย . -517-สำนักข่าวไทย