บสย. ฮีโร่ของคนตัวเล็ก ยกระดับองค์กร มุ่งขยายความช่วยเหลือ SMEs ทุกมิติ

25 เม.ย. – บสย.จัดประชุม Town Hall Meeting ครั้งที่ 1/2568 ภายใต้แนวคิด “บสย. ฮีโร่ของคนตัวเล็ก” ตอกย้ำพันธกิจสร้างความแข็งแกร่งให้ SMEs ไทย ปลุกใจพนักงานร่วมยกระดับ ขับเคลื่อนองค์กร พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกัน มุ่งตอบโจทย์ความต้องการ SMEs ทุกมิติ


บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดงานประชุมพนักงานทุกระดับครั้งที่ 1/2568 (The 1st Town Hall Meeting 2025) รูปแบบ Hybrid Meeting ภายใต้แนวคิด “บสย. ฮีโร่ของคนตัวเล็ก” นำโดย นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ และสำนักงานเขตทั่วประเทศ

นายสิทธิกร กล่าวว่า การจัดประชุม Town Hall Meeting ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งเป็นครั้งแรกของปี 2568 ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเงินทุนและโอกาสให้กับ SMEs ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. และศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน (บสย. F.A. Center) พร้อมเป้าหมายในการขยายบทบาทการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทย ผ่านการยกระดับองค์กรในด้านต่างๆ โดยปลุกพลังของพนักงานทุกคนผสานความร่วมมือ พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี 2568 ท่ามกลางความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และปัจจัยแวดล้อมด้านอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อผนึกกำลังพิชิตเป้าหมายองค์กรที่วางไว้ให้สำเร็จ โดยเดินหน้ายกระดับองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือ SMEs ในประเทศไทย เน้น 4 มิติหลัก ดังนี้


  1. พัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ SMEs และพัฒนาช่องทางการให้บริการที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2. พัฒนาเครื่องมือโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงในรูปแบบข้อมูลทางเลือก (Alternative Credit Scoring Model) โดยนำเครื่องมือ Credit Scoring มาใช้ในการพิจารณา 3. ใช้ประโยชน์จาก Big Data มาวิเคราะห์ข้อมูลในมิติด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาโอกาสในการช่วยเหลือ SMEs มากยิ่งขึ้น และ 4. ใช้ Digital Disruption เป็นแรงขับเคลื่อนองค์กร เพื่อพัฒนาระบบงาน และบริการใหม่ ๆ ทางการเงินบน Virtual Banking
    ในงานมีการสรุปผลดำเนินงาน บสย. ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมียอดค้ำประกันสินเชื่อ 8,162 ล้านบาท ช่วย SMEs ได้รับสินเชื่อ 14,183 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) 89% ค้ำประกันเฉลี่ย 100,000 บาทต่อราย อีก 11% เป็น SMEs ทั่วไป ค้ำประกันเฉลี่ย 4.28 ล้านบาทต่อราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 10,598 ล้านบาท รักษาการจ้างงาน 66,529 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 33,708 ล้านบาท

สำหรับโครงการตามมาตรการรัฐ โครงการค้ำประกัน PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” มียอดค้ำประกันในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 5,069 ล้านบาท เติบโตถึง 32.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในโครงการค้ำประกัน PGS 10 “บสย. SMEs เข้มแข็ง” ที่มียอดค้ำประกัน 3,833 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจค้ำประกันสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ 1. ภาคบริการ 28.2% 2. อาหารและเครื่องดื่ม 12.5% และ 3. เกษตรกรรม 8.4% ซึ่งทั้ง 3 ประเภทครองสัดส่วนค้ำประกันถึง 52% สะท้อนอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้

อีกผลงานที่โดดเด่นคือ ช่วยแก้หนี้ให้กับลูกหนี้ บสย. (ผู้ประกอบการ SMEs ที่ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชย) ผ่าน มาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” (มาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว) ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้สามารถกลับมาเป็นลูกหนี้ปกติได้ โดยปีนี้ บสย. ได้เปิดตัวมาตรการใหม่ เพื่อช่วยเหลือ SMEs “กลุ่มเปราะบาง” ที่มียอดหนี้เงินต้นไม่เกิน 2 แสนบาท สามารถปลดหนี้ได้เร็วและง่ายขึ้น คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ชำระครั้งแรกเพียง 500 บาท ผ่อนสูงสุด 80 เดือน ตัดเงินต้นทั้งจำนวน ค่างวดขั้นต่ำเพียง 500-2,500 บาท และสามารถปลดหนี้ ลดต้น 30% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 6 งวด ทั้งนี้ ตั้งแต่ออกมาตรการในปี 2565 จนถึงไตรมาส 1 ปี 2568 สามารถช่วยลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ 19,472 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 12,431 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย. และในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ บสย. ยังได้จัดกิจกรรมเชิงรุก “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ลงพื้นที่ปรับโครงสร้างหนี้ให้ SMEs ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถช่วยลูกหนี้ “ปลดหนี้” ได้ถึง 171 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับปี 2567

ไฮไลท์ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ บสย. คือ การเปิดตัวครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะ “SMEs PICK-UP” ภายใต้มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ที่ช่วยปลดล็อกให้ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย อาชีพอิสระ ที่มีความประสงค์ซื้อรถกระบะใหม่ในเชิงพาณิชย์ สร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) ในการพิจารณาสินเชื่อ เพิ่มโอกาสให้ SMEs ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังช่วยพลิกฟื้นอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ


สำหรับทิศทางตลอดปี 2568 บสย. จะเดินหน้าสานต่อการยกระดับ และพัฒนาการค้ำประกันสินเชื่อในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง เสริมสร้างกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้น และเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนทางการเงินให้ SMEs พร้อมเปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่ๆ เพื่อขยายการช่วยเหลือ SMEs ให้ครอบคลุมมากที่สุด. -515- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมยวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก […]

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]