“ซิน เคอ หยวน” ส่งทนายโต้เหล็กได้มาตรฐาน

กรุงเทพฯ 21 เม.ย. – ซิน เคอ หยวน ส่งทนายแก้ต่างแทนผู้บริหาร ปฏิเสธไม่ใช่จีนเทา ยันผลิตเหล็กตามมาตรฐาน มอก. ที่ผ่านมาไม่เคยถูกร้องเรียนเหล็กตกมาตรฐาน เผยปฏิบัติตามคำสั่งกรมโรงงานทุกอย่าง ไม่เคยฝ่าฝืน แต่กลับถูกสั่งปิด และถูกเพิกถอน BOI ชั่วคราว ลั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้การเพิกถอน BOI ทำเสียบรรยากาศการลงทุน ส่วนเรื่องการปลอมใบกำกับภาษี ทนายเผยคดีอยู่ในกระบวนการศาล โดยซิน เคอ หยวน เป็นฝ่ายฟ้องกรมสรรพากร ล่าสุดเตรียมยื่นอุทธรณ์ BOI


นายปิยะพงศ์ คงมะลวน, นายสุรศักดิ์ วีระกุล และนายปัทมากร ภิญโญชัยพลกุล ทนายความ ตัวแทน บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงปมถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นที่ผลิตขึ้นโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. โดยนายปิยะพงศ์ ตัวแทนทีมทนายความฯ เปิดเผยว่า หลังการณ์เหตุอาคาร สตง.ถล่ม กระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าเก็บตัวอย่างเหล็กชนิดต่าง ๆ ไปตรวจ โดยผลการทดสอบจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยที่ออกมานั้น ทำให้เหล็กข้ออ้อยของบริษัทถูกเข้าใจว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. ซึ่งส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหายมาก และบริษัทตกเป็นจำเลยสังคม จากการชี้นำสังคมให้เข้าใจว่า หนึ่งในสาเหตุหลักของการตึกถล่มครั้งนี้ มาจากเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน และมาจากบริษัท ซิน เคอ หยวนฯ ที่มีสัญลักษณ์ ที่เหล็กเส้นว่า SKY ส่วนที่ออกมาชี้แจงช้าเพราะทางบริษัทเห็นว่า การชี้แจงไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม และอาจถูกมองว่าเป็นการแก้ตัวมากกว่า และขณะนี้หลายฝ่ายอยู่ระหว่างการหาสาเหตุที่ทำให้อาคาร สตง.ถล่ม จึงเชื่อว่าในระยะเวลาอันใกล้ ข้อเท็จจริงจะค่อย ๆ ปรากฏ และว่าที่ผ่านมาก็มีนักวิชาการหลายคน ออกมาพูดว่า เหล็กเป็นสาเหตุส่วนน้อยที่ทำให้อาคาร สตง.ถล่ม จึงเชื่อว่าสาเหตุอาจมาจากการออกแบบ หรือ มาจากการลดสเปควัสดุก่อสร้าง

บริษัท ซิน เคอ หยวน ได้รับ BOI และได้มาตรฐาน ISO 9001 กำหนด ซึ่งเป็นไปตามที่ BOI กำหนด ส่วนความพยายามชี้นำว่า ซิน เคอ หยวน เป็นบริษัทจีนเทานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะประกอบธุรกิจสุจริตมาโดยตลอด ปฏิบัติตามกฎหมาย มีการเสียภาษีถูกต้อง โดยในช่วง 5 ปีย้อน (ปี 2562-2566) หลังบริษัทเสียภาษีมากถึง 856 ล้านบาท ดังนั้นจึงไม่ใช่จีนเทา ที่ทำธุรกิจโดยที่ไทยไม่ได้ประโยชน์ และที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยถูกร้องเรียนเรื่องเหล็กไม่มีมาตรฐาน ส่วนการถูกกรมโรงงานสั่งหยุดประกอบกิจการชั่วคราว เป็นผลสืบเนื่องจากเหตุถังแก๊สระเบิดระหว่างเคลื่อนย้าย จนนำไปสู่การนำตัวอย่างเหล็กไปทดสอบมาตรฐานเหล็ก ช่วงปลายปี 2567 ที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย โดยมีรายงานผล ว่า มีเหล็กไม่ผ่านมาตรฐานเรื่องค่าโบรอน ทนายความอ้างว่า ผลการทดสอบดังกล่าว ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้โดยชอบด้วยกฏหมาย เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบของสถาบันเหล็กฯ ไม่สามารถตรวจวัดค่าได้


ส่วนตัวอย่างเหล็ก ที่ สมอ.เก็บจากกองซากตึก สตง.ไปตรวจสอบ และพบเหล็กตกมาตรฐาน 3 ขนาด คือ เหล็กข้ออ้อย 12 mm – 20mm และ 32 mm ไม่ผ่านมาตรฐาน นั้น ตัวแทนบริษัทอ้างว่า การทดสอบดังกล่าวไม่เป็นธรรม เนื่องจากได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ผ่านการใช้งานไปแล้ว โดยการทดสอบค่ามาตรฐานต่าง ๆ ของเหล็กจะใช้เหล็กใหม่ แต่เหล็กที่นำไปตรวจนั้น ผ่านการใช้งาน และถูกกระทำมาแล้ว ส่วนกรณีฝุ่นแดงที่ตรวจพบภายในโรงงานว่า มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ ตัวแทนบริษัท ชี้แจงว่า ที่โรงงานเรียกว่าเป็นฝุ่นดำ ส่วนปริมาณที่เพิ่มขึ้นนั้น อาจมาจากความผิดพลาดของระบบออนไลน์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งทางบริษัทได้ชี้แจงรายละเอียดให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยองแล้ว

ส่วนกรณีกรมสรรพากร ส่งข้อมูลให้ดีเอสไอ ระบุ ซิน เคอ หยวน ส่งใบกับกับภาษีปลอมให้นั้น ตัวแทนบริษัทระบุ เรื่องนี้เป็นคดีอยู่ในระหว่างชั้นศาล โดยบริษัทเป็นผู้เสียหาย แต่ขอไม่ให้รายละเอียด

เมื่อถามถึงกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เซ็นสั่งให้ยกเลิก เหล็ก Induction Furnace หรือ IF ประกอบการการยกเลิก BOI ทางบริษัทจะดำเนินการอย่างไรต่อ ตัวแทนบริษัทระบุว่า บริษัท รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่ผ่านมาทำตามกฎหมายทุกอย่าง และส่วนตัวมองว่า การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐลักษณะดังกล่าว ทำให้บรรยากาศลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเปลี่ยนไป ส่วนบริษัทจะตัดสินใจถอนการลงทุนจากประเทศไทยหรือไม่ ทางทีมกฎหมายไม่สามารถตอบแทนบริษัทได้ บริษัทเตรียมยื่นอุทธรณ์ ประเด็นถอนสิทธิ์บีโอไอชั่วคราวเร็ว ๆ นี้


อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของการแถลงข่าว สื่อมวลชนพยายามจี้ถามทางตัวแทนบริษัทซิน เคอ หยวน เกี่ยวกับผลทดสอบเหล็กก่อสร้างตึก สตง. โดยสถาบันเหล็กฯ ซึ่งตกมาตรฐาน แต่กลับไม่ได้คำตอบที่เป็นรายละเอียดในเชิงลึก เช่นเดียวกับประเด็นอื่น ๆ. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]