“ทิสโก้” คาดจีดีพีไทยปี 68 เติบโตเพียง 1.5-2% จับตาผลเจรจากับสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ 17 เม.ย. – “ทิสโก้” คาดจีดีพีไทยปี 2568 เติบโตได้เพียง 1.5-2% จับตาผลการเจรจาอัตราภาษีกับสหรัฐฯ พร้อมชี้เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายสูง ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2% จากปีก่อน สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง ขณะที่สถานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง


นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และเหตุแผ่นดินไหวที่สร้างความตื่นตระหนกและกระทบต่อความเชื่อมั่น กดดันภาคเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วให้อ่อนแอลงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความเสี่ยงใหม่จากมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2568 โดยประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะยังมีความท้าทายสูง คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 1.5-2% โดยขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาต่อรองอัตราภาษีกับสหรัฐฯ และผลกระทบข้างเคียงในภูมิภาค

ผลกระทบจากเศรษฐกิจดังกล่าว ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 ของกลุ่มทิสโก้ ปรับตัวลดลง 5.2% จากไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1,643 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง สอดรับกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางเพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยลง


ด้านตลาดรถยนต์ในประเทศยังคงซบเซา ยอดขายรถยนต์ใหม่ในไตรมาสแรกลดลงเกือบ 10% ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่เป็นไปอย่างยากลำบาก แม้ว่าทิสโก้จะสามารถเพิ่ม Penetration Rate ได้ จากการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ใหม่ ๆ มากขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมธุรกิจประกันภัยที่ชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้กลุ่มทิสโก้ได้เพิ่มระดับการตั้งสำรองหนี้เผื่อสงสัยจะสูญมาอยู่ที่ 0.7% ของสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง (High Yield Loans) และความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ด้านธุรกิจค่าธรรมเนียม ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภาวะตลาดทุนผันผวน พร้อมครองตำแหน่งผู้นำในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สะท้อนความไว้วางใจที่แข็งแกร่งจากลูกค้า นอกจากนี้ ธุรกิจหลักทรัพย์ยังสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดได้ แม้ในภาวะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง

“กลุ่มทิสโก้ จะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง โดยยึดมั่นในหลักการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย และการนำเทคโนโลยีมายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมการติดตามดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางอย่างใกล้ชิด โดยให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุดและรวดเร็วผ่านโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (Pre-emptive Debt Restructuring) ของกลุ่มทิสโก้ ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายบริการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างไปกับลูกค้า ทั้งในภาวะปกติและช่วงเวลาวิกฤต” นายศักดิ์ชัย กล่าว


ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A” จากเดิมที่ “A-” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับ “คงที่” (Stable) รวมถึงปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A+” จากเดิม “A” ด้วยแนวโน้ม “คงที่” เช่นกัน สะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มทิสโก้ จากความสามารถในการทำกำไรที่มั่นคง ความยืดหยุ่นในการให้บริการสินเชื่อรายย่อย ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของตลาด การดำเนินกลยุทธ์อย่างระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งรองรับต่อความเสี่ยงรอบด้าน เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มีจำนวน 231,190 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่และสินเชื่อ SME ที่ลดลงตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัว ประกอบกับการเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนในสภาวะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง

สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 2.4% ของสินเชื่อรวม เป็นไปตามแผนการขยายสินเชื่อที่มีผลตอบแทนในระดับสูง โดยกลุ่มทิสโก้ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง พร้อมด้วยดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ทั้งนี้ ระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 153.8%. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]

นายกฯ โพสต์แสดงความยินดี “โอปอล-วิว” สร้างประวัติศาสตร์ไทย

ทำเนียบฯ 1 มิ.ย. – นายกฯ โพสต์แสดงความยินดีกับ “โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และ “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” สร้างประวัติศาสตร์นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนเเรกขึ้นมือ 1 โลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์แสดงความยินดีกับคุณโอปอล สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และคุณวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทยที่ขึ้นมือ 1 โลกอย่างไม่เป็นทางการค่ะ ทั้ง 2 ข่าวใหญ่ในวันนี้สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ของคุณโอปอล และคุณวิว ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศ ความสำเร็จของทั้ง 2 ท่านในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ เยาวชนและคนไทยค่ะ 🇹🇭❤️#โอปอลสุชาตา #วิวกุลวุฒิ #MissWorldThailand .-314-สำนักข่าวไทย

ซ้อมเสมือนจริง

ผบ.กกล.บูรพา ตรวจความพร้อมรบ เสริมศักยภาพป้องกันชายแดน

สระแก้ว 1 มิ.ย. – ซ้อมเสมือนจริง “ผบ.กกล.บูรพา“ ตรวจความพร้อมรบ เพื่อให้พร้อมรองรับภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายในพื้นที่ชายแดน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บ้านหนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.พล.ร.2 รอ. ในฐานะ ผบ.กกล.บูรพา เป็นประธานตรวจสภาพความพร้อมรบตามระเบียบปฏิบัติประจำของหน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบยานเกราะ (ร.12 พัน.2 รอ.) หลังจากที่ได้ดำเนินการ เคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ เข้าสู่ที่รวมพล บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 126 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ปฏิบัติภารกิจของหน่วยเมื่อได้รับมอบจากหน่วยเหนือ โดย ผบ.พล.ร.2รอ./ผบ.กกล.บูรพา ได้เน้นย้ำสั่งการในเรื่องการรักษาระเบียบวินัยของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ การแสดงภาพลักษณ์ที่ดี แสดงกำลังให้ประชาชนในพื้นที่ เชื่อมั่นในการรักษา ปกป้อง ประเทศชาติ และให้ใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชา ในสายการบังคับบัญชาของตนเอง ในทุกระดับ พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ผสมผสานกับความเป็นผู้นำ และให้เตรียมความพร้อมของกำลังพลที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับภารกิจจากหน่วยเหนือ.-313-สำนักข่าวไทย