กรุงเทพฯ 11 เม.ย. – รมว.คลังและกระทรวงพาณิชย์เปิดประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการของไทยต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐ ภายหลังมีข้อเสนอให้จัดตั้ง “ทีมไทยแลนด์” โดยมีภาคเอกชนร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ ในการประชุมด่วนวันนี้ ไม่มี รมว. เกษตรฯ ร่วมด้วย ท่ามกลางข้อกังวลของการเปิดนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพื่อแลกดีลภาษี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการรับมือกับมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกา โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วม พร้อมเชิญภาคเอกชนหลักได้แก่ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รวมถึงผู้ประกอบการเข้าหารือ หลังจากที่มีข้อเสนอของภาคเอกชนให้จัดตั้ง “ทีมไทยแลนด์” ที่มีตัวแทนเอกชนร่วมกำหนดกรอบเจรจาปรับดุลการค้า
นายพจน์ กล่าวก่อนประชุมว่า แนวทางหลัก 5 ประการที่รองนายกรัฐมนตรีแถลงก่อนหน้านี้เป็นกรอบที่เหมาะสม ขณะนี้ต้องลงลึกถึงรายละเอียด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่สหรัฐฯ ต้องการส่งเข้ามายังไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกร เช่น สุกร ซึ่งเป็นสินค้าที่ผู้เลี้ยงสุกรไทยแสดงจุดยืนคัดค้านอย่างชัดเจน พร้อมย้ำว่าหอการค้าไทยมิได้สนับสนุนการนำเข้าสินค้าที่กระทบต่อเกษตรกร เพียงแต่เสนอข้อมูลให้ภาครัฐเตรียมความพร้อมรับมือ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่สหรัฐอเมริกาต้องการให้นำเข้ามาโดยตลอด เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ อากาศยาน อาวุธ จึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์การเจรจาว่า รายการใดตกลงได้และรายการใดควรสงวนท่าที


ทั้งนี้ การเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ออกไป ช่วยผ่อนคลายแรงกดดันต่อสินค้าที่เตรียมส่งออกในเดือนเมษายน โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ระหว่างขนส่ง ซึ่งใช้เวลาระหว่าง 30–50 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกและผู้นำเข้ายังมีความกังวลต่ออัตราภาษีใหม่ที่ยังไม่ชัดเจน ส่วนแนวทางเยียวยาจากภาครัฐนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะกำหนด เพราะต้องรอดูอัตราภาษีสุดท้ายจากสหรัฐฯ ก่อน แต่เชื่อว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นแน่นอน
ด้านนายเกรียงไกร ระบุว่า ส.อ.ท. ได้วิเคราะห์ผลกระทบของมาตรการภาษีต่อกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ พร้อมพิจารณาความได้เปรียบเสียเปรียบกับประเทศคู่แข่ง วันนี้นำผู้ประกอบการร่วมให้ข้อมูลเพื่อจัดทำแนวทางเจรจา แต่กังวลว่า สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง และคาดหวังว่า จะได้ข้อสรุปถึงยุทธศาสตร์การเจรจาที่ชัดเจนในวันนี้ โดยเน้นการพิจารณาสินค้านำเข้า-ส่งออก อย่างรอบด้าน ที่สำคัญคือ การพิจารณานำเข้าสินค้าชนิดใด จะต้องไม่กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกร พร้อมย้ำหลักการสำคัญคือ “ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” ในการปรับสมดุลทางการค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ไม่มีการเชิญนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม แม้ภาคเกษตรกรรมจะเป็นภาคส่วนสำคัญที่มีการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก และยังมีความกังวลเรื่องผลกระทบจากการเปิดนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ที่อาจซ้ำเติมเกษตรกรในประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ นางนฤมล ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่ยอมนำภาคเกษตรไทยไปแลกกับดีลภาษีสหรัฐฯ เพราะอาจเป็นการ “ฆ่าเกษตรกรไทย” ซ้ำรอยการเปิดนำเข้าเนื้อโคจากออสเตรเลียและนมผงจากนิวซีแลนด์ภาษี 0% ซึ่งเคยส่งผลให้ราคาภายในประเทศตกต่ำมาแล้ว. -512-สำนักข่าวไทย