ตลท.สั่ง “GLOCON-WAVE” ชี้แจงงบการเงิน ภายใน 21 เม.ย.นี้

กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- ตลท.สั่ง GLOCON และ WAVE ชี้แจงงบการเงินภายใน 21 เม.ย.นี้ โดย GLOCON แจงปมยกเลิกลงทุนใน ALT 98 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้เงินมัดจำคืน-ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 40% และ WAVE แจงปมด้อยค่ารายการในใบรับรองพลังงานหมุนเวียนกว่า 1 พันล้านบาท ส่งผลขาดทุน 774 ล้านบาท


ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (GLOCON) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตดังนี้ (1) บริษัทยังไม่ได้รับเงินมัดจำคืนจากการยกเลิกการลงทุน2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (98 ล้านบาท) และ (2) ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีข้างต้นอาจกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท โดยขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทภายในวันที่ 21 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท
 
สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 2567

  • เงินมัดจำเพื่อลงทุนใน Agri Life Trading L.L.C. (ALT)
    o พ.ย.66 บริษัทลงนามทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ ALT (จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกอบธุรกิจซื้อขายสินค้า เช่น ธัญพืช เมล็ดพืช น้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม เป็นต้น) เพื่อซื้อกิจการของALT และวางเงินมัดจำกับผู้ถือหุ้นของALT 2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (98 ล้านบาท)
    o มี.ค.67 บริษัทแจ้งว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะและประเมินมูลค่ากิจการของ ALT คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.67 ต่อมาขยายเวลาเป็นเดือนส.ค.67
    o ก.ย.67 บริษัทแจ้งยกเลิกการลงทุนใน ALT เนื่องจากได้รับข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบและประเมินมูลค่ากิจการ และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามเงินมัดจำคืน รวมทั้งบริษัทตั้งด้อยค่าเงินมัดจำดังกล่าวทั้งจำนวน โดยงบปี 67 ผู้สอบบัญชียังคงมีข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวและบริษัทยังอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามเงินมัดจำคืน
  • ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง ปี 67 มีขาดทุนสะสม 1,137 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40%)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัท ดังนี้


  1. การพิจารณาความสามารถในการดำเนินการตามสัญญาของคู่สัญญาและการให้วางหลักประกัน ณ วันที่อนุมัติเข้าทำรายการ และความสมเหตุสมผลของการจ่ายเงินมัดจำ รวมถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ แผนการขยายธุรกิจ และสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท
  2. นโยบายการลงทุนในอนาคต ความเสี่ยงและการป้องกันความเสี่ยงจากการเข้าลงทุนและไม่ได้เงินมัดจำคืนหรือมีข้อพิพาท เช่น การให้วางหลักประกัน เป็นต้น
  3. ความคืบหน้าในการติดตามเงินมัดจำคืน กรณีที่ยังไม่แล้วเสร็จ ขอให้บริษัทเปิดเผยการดำเนินการพร้อมกับการนำส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใด ๆ ที่สำคัญ จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ.-516-สำนักข่าวไทย

นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) (WAVE) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เนื่องจากไม่สามารถได้รับหลักฐานการตรวจสอบที่เหมาะสมอย่างเพียงพอในการกำหนดราคาที่คาดว่าจะขายได้ของใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC(E)s) ส่งผลให้มีการบันทึกด้อยค่ารายการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ I-REC(E)s รวม 1,031 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2567 มีผลประกอบการขาดทุน 774 ล้านบาท ทั้งนี้ ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 16 เมษายน 2568 สำหรับความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 21 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท

ข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 2567

  1. บจก. เวฟ บีซีจี (บริษัทย่อย 74%) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC(E)s) ปี 2567 มีรายได้ 6 ล้านบาท และด้อยค่าสินทรัพย์และหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับ I-REC(E)s รวม 1,031 ล้านบาท ได้แก่
    (1.1) ด้อยค่าสินค้าคงเหลือ 589 ล้านบาท (55% ของมูลค่า) โดยที่ในปี 2567 บจก. เวฟ บีซีจี ได้ถือครอง I-REC(E)s เพิ่มขึ้นจาก 682 ล้านบาท เป็น 1,066 ล้านบาท
    (1.2) ด้อยค่าเงินจ่ายล่วงหน้าในสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อ I-REC(E)s ที่ยกเลิกไม่ได้ 139 ล้านบาท(41% เงินจ่ายล่วงหน้า) และขาดทุนจากสัญญาระยะยาวดังกล่าวอีก 303 ล้านบาท จากการที่บริษัทต้องชำระเงินภายใน 5ปี รวม 1,077 ล้านบาท ทั้งนี้สัญญาดังกล่าวเป็นการทำรายการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 513 ล้านบาท
  2. บจก. เวฟ บีซีจี ได้ทำสัญญาขอขยายเวลาชำระเงินค่าซื้อ I-REC(E)s สรุปดังนี้
    (2.1) สัญญาที่มีกำหนดชำระในปี 2567 จำนวน 315ล้านบาท ขอขยายเวลาเป็นภายในมีนาคม 2568โดยจะได้รับ
     คืนเงินมัดจำ 65 ล้านบาท เมื่อชำระค่าสินค้าครบถ้วน
    (2.2) สัญญาที่มีกำหนดชำระเดือนพฤษภาคม 2568จำนวน 442 ล้านบาท (เป็นรายการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
     128 ล้านบาท) ขอขยายเวลาเป็นภายในเดือนมกราคมและมีนาคม 2569 และชำระดอกเบี้ยอัตรา 4%

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ WAVE ชี้แจงข้อมูลดังนี้


  1. อธิบายหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาซื้อ I-REC(E)s เนื่องจากมีความแตกต่างจากอัตราค่าพลังงานสีเขียว Utility Green Tariff (UGT1) ที่นำมาอ้างอิงเพื่อประเมินมูลค่า จนเป็นเหตุให้ต้องบันทึกด้อยค่ารวม 1,031 ล้านบาท
  2. นโยบายในการบริหารสินค้าคงเหลือ I-REC(E)s ซึ่งรวมถึงการทำสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อใบรับรองดังกล่าว ลักษณะลูกค้าของบริษัท มาตรการดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการด้อยค่าหรือขาดทุน การจัดการและการบริหารความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ที่มีอยู่ และภาระผูกพันตามสัญญาสั่งซื้อระยะยาว
  3. สรุปรายละเอียดของคู่ค้าที่เป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ชื่อบริษัท การประกอบธุรกิจ ลักษณะความสัมพันธ์ การกำหนดราคาและเงื่อนไขการค้า รวมทั้งบริษัทได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศว่าด้วยรายการที่เกี่ยวโยงกันแล้วหรือไม่ อย่างไร
  4. แนวทางในการบริหารจัดการสภาพคล่องและแหล่งเงินทุนเพื่อชำระค่าซื้อ I-REC(E)s ตามภาระผูกพันสัญญาระยะยาวที่คงค้าง รวมทั้ง บจก. เวฟ บีซีจี ได้ชำระค่าซื้อ I-REC(E)s จำนวน 315 ล้านบาท ที่ครบกำหนดเดือนมีนาคม 2568 และได้รับคืนเงินมัดจำ 65 ล้านบาท ครบถ้วนแล้วหรือไม่ อย่างไร
  5. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของการบริหารจัดการและแนวทางบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ I-REC(E)s และความเพียงพอของการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย.-516-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]