กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- ตลท.สั่ง GLOCON และ WAVE ชี้แจงงบการเงินภายใน 21 เม.ย.นี้ โดย GLOCON แจงปมยกเลิกลงทุนใน ALT 98 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้เงินมัดจำคืน-ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 40% และ WAVE แจงปมด้อยค่ารายการในใบรับรองพลังงานหมุนเวียนกว่า 1 พันล้านบาท ส่งผลขาดทุน 774 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (GLOCON) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตดังนี้ (1) บริษัทยังไม่ได้รับเงินมัดจำคืนจากการยกเลิกการลงทุน2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (98 ล้านบาท) และ (2) ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีข้างต้นอาจกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท โดยขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทภายในวันที่ 21 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท
สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 2567
- เงินมัดจำเพื่อลงทุนใน Agri Life Trading L.L.C. (ALT)
o พ.ย.66 บริษัทลงนามทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ ALT (จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกอบธุรกิจซื้อขายสินค้า เช่น ธัญพืช เมล็ดพืช น้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม เป็นต้น) เพื่อซื้อกิจการของALT และวางเงินมัดจำกับผู้ถือหุ้นของALT 2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (98 ล้านบาท)
o มี.ค.67 บริษัทแจ้งว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะและประเมินมูลค่ากิจการของ ALT คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.67 ต่อมาขยายเวลาเป็นเดือนส.ค.67
o ก.ย.67 บริษัทแจ้งยกเลิกการลงทุนใน ALT เนื่องจากได้รับข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบและประเมินมูลค่ากิจการ และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามเงินมัดจำคืน รวมทั้งบริษัทตั้งด้อยค่าเงินมัดจำดังกล่าวทั้งจำนวน โดยงบปี 67 ผู้สอบบัญชียังคงมีข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวและบริษัทยังอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามเงินมัดจำคืน - ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง ปี 67 มีขาดทุนสะสม 1,137 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40%)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัท ดังนี้
- การพิจารณาความสามารถในการดำเนินการตามสัญญาของคู่สัญญาและการให้วางหลักประกัน ณ วันที่อนุมัติเข้าทำรายการ และความสมเหตุสมผลของการจ่ายเงินมัดจำ รวมถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ แผนการขยายธุรกิจ และสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท
- นโยบายการลงทุนในอนาคต ความเสี่ยงและการป้องกันความเสี่ยงจากการเข้าลงทุนและไม่ได้เงินมัดจำคืนหรือมีข้อพิพาท เช่น การให้วางหลักประกัน เป็นต้น
- ความคืบหน้าในการติดตามเงินมัดจำคืน กรณีที่ยังไม่แล้วเสร็จ ขอให้บริษัทเปิดเผยการดำเนินการพร้อมกับการนำส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใด ๆ ที่สำคัญ จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ.-516-สำนักข่าวไทย
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) (WAVE) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เนื่องจากไม่สามารถได้รับหลักฐานการตรวจสอบที่เหมาะสมอย่างเพียงพอในการกำหนดราคาที่คาดว่าจะขายได้ของใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC(E)s) ส่งผลให้มีการบันทึกด้อยค่ารายการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ I-REC(E)s รวม 1,031 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2567 มีผลประกอบการขาดทุน 774 ล้านบาท ทั้งนี้ ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 16 เมษายน 2568 สำหรับความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 21 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท
ข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 2567
- บจก. เวฟ บีซีจี (บริษัทย่อย 74%) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC(E)s) ปี 2567 มีรายได้ 6 ล้านบาท และด้อยค่าสินทรัพย์และหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับ I-REC(E)s รวม 1,031 ล้านบาท ได้แก่
(1.1) ด้อยค่าสินค้าคงเหลือ 589 ล้านบาท (55% ของมูลค่า) โดยที่ในปี 2567 บจก. เวฟ บีซีจี ได้ถือครอง I-REC(E)s เพิ่มขึ้นจาก 682 ล้านบาท เป็น 1,066 ล้านบาท
(1.2) ด้อยค่าเงินจ่ายล่วงหน้าในสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อ I-REC(E)s ที่ยกเลิกไม่ได้ 139 ล้านบาท(41% เงินจ่ายล่วงหน้า) และขาดทุนจากสัญญาระยะยาวดังกล่าวอีก 303 ล้านบาท จากการที่บริษัทต้องชำระเงินภายใน 5ปี รวม 1,077 ล้านบาท ทั้งนี้สัญญาดังกล่าวเป็นการทำรายการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 513 ล้านบาท - บจก. เวฟ บีซีจี ได้ทำสัญญาขอขยายเวลาชำระเงินค่าซื้อ I-REC(E)s สรุปดังนี้
(2.1) สัญญาที่มีกำหนดชำระในปี 2567 จำนวน 315ล้านบาท ขอขยายเวลาเป็นภายในมีนาคม 2568โดยจะได้รับ
คืนเงินมัดจำ 65 ล้านบาท เมื่อชำระค่าสินค้าครบถ้วน
(2.2) สัญญาที่มีกำหนดชำระเดือนพฤษภาคม 2568จำนวน 442 ล้านบาท (เป็นรายการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
128 ล้านบาท) ขอขยายเวลาเป็นภายในเดือนมกราคมและมีนาคม 2569 และชำระดอกเบี้ยอัตรา 4%
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ WAVE ชี้แจงข้อมูลดังนี้
- อธิบายหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาซื้อ I-REC(E)s เนื่องจากมีความแตกต่างจากอัตราค่าพลังงานสีเขียว Utility Green Tariff (UGT1) ที่นำมาอ้างอิงเพื่อประเมินมูลค่า จนเป็นเหตุให้ต้องบันทึกด้อยค่ารวม 1,031 ล้านบาท
- นโยบายในการบริหารสินค้าคงเหลือ I-REC(E)s ซึ่งรวมถึงการทำสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อใบรับรองดังกล่าว ลักษณะลูกค้าของบริษัท มาตรการดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการด้อยค่าหรือขาดทุน การจัดการและการบริหารความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ที่มีอยู่ และภาระผูกพันตามสัญญาสั่งซื้อระยะยาว
- สรุปรายละเอียดของคู่ค้าที่เป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ชื่อบริษัท การประกอบธุรกิจ ลักษณะความสัมพันธ์ การกำหนดราคาและเงื่อนไขการค้า รวมทั้งบริษัทได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศว่าด้วยรายการที่เกี่ยวโยงกันแล้วหรือไม่ อย่างไร
- แนวทางในการบริหารจัดการสภาพคล่องและแหล่งเงินทุนเพื่อชำระค่าซื้อ I-REC(E)s ตามภาระผูกพันสัญญาระยะยาวที่คงค้าง รวมทั้ง บจก. เวฟ บีซีจี ได้ชำระค่าซื้อ I-REC(E)s จำนวน 315 ล้านบาท ที่ครบกำหนดเดือนมีนาคม 2568 และได้รับคืนเงินมัดจำ 65 ล้านบาท ครบถ้วนแล้วหรือไม่ อย่างไร
- ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของการบริหารจัดการและแนวทางบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ I-REC(E)s และความเพียงพอของการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย.-516-สำนักข่าวไทย