AOT เตรียมพร้อมรับสงกรานต์ 68 มอบของขวัญจอดรถฟรี 4 สนามบิน

กรุงเทพ 3 เม.ย.-“สุริยะ” สั่ง AOT เตรียมพร้อมรับสงกรานต์ 68 มอบของขวัญจอดรถฟรี 4 สนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-เชียงใหม่-ภูเก็ต เน้นย้ำให้เดินทางสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่มีภาพคิวยาว คาดมีผู้โดยสารกว่า 3 ล้านคน โตกว่าปีก่อน 20%

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการประชุมเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยได้เน้นย้ำด้านการบริหารจัดการขนส่งสาธารณะให้สะดวก รวดเร็ว และเข้มงวดความปลอดภัยในการเดินทางตลอดเส้นทางทั้งทางบก – ราง – น้ำ – อากาศ รวมทั้งการใช้บริการต้องเชื่อมโยงกันในทุกเส้นทาง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประตูและเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย”


นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการเดินทางทางอากาศ ได้กำชับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ซึ่งได้คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินกว่า 3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่ให้บริการในท่าอากาศยานบริหารจัดการการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วในทุกขั้นตอนการให้บริการ และกระบวนการทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออกต้องมีความคล่องตัว รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างเต็มที่ พร้อมเน้นย้ำด้านการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการ โดยได้กำชับให้ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) วางแผนการบริหารจัดการท่าอากาศยานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกกระบวนการการให้บริการเกิดความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ไม่ให้เกิดภาพความหนาแน่นในอาคารผู้โดยสาร รวมทั้งเพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อกำกับดูแลความเรียบร้อยของอาคารผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยตรวจสอบเอกสารการเดินทางของผู้โดยสาร ให้ครบถ้วน เพื่อให้การเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็ว และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือแนะนำในเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ห้องสุขา จัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าให้เพียงพอ และประสานสายการบินในการเปิดเคาน์เตอร์เช็กอินเพิ่มหรือเปิดเคาน์เตอร์ฯ ก่อนเวลา (Early Check-in) และจัดเจ้าหน้าที่ประจำการให้ครบทุกเคาน์เตอร์ฯ ตลอดจนด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยได้จัดพิธีปล่อยแถวเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน


ข้อมูลการจัดสรรเวลาการบิน (Slot) ฤดูร้อน 2568 (Summer 2025 = 30 มีนาคม 2568 – 25 ตุลาคม 2568) เปรียบเทียบกับฤดูร้อน 2567 (Summer 2024 = 31 มีนาคม 2567 – 26 ตุลาคม 2567) พบว่าเที่ยวบินภาพรวมตลอดทั้งฤดูกาลบินมีจำนวน 481,395 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.7% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินทั้งเส้นทางระหว่างประเทศและเส้นทางภายในประเทศ โดยเที่ยวบินระหว่างประเทศมีจำนวน 267,603 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.1% ขณะที่เที่ยวบินภายในประเทศมีจำนวน 213,792 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 22.7% สะท้อนถึงความต้องการเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในด้านผู้โดยสารภาพรวมมีจำนวน 79,191,431 คน เพิ่มขึ้น 18.3% โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 48,243,845 คน เพิ่มขึ้น 14.1% และผู้โดยสารภายในประเทศ 30,947,586 คน เพิ่มขึ้น 25.5%

AOT ได้ประมาณการเที่ยวบินและผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 มีมากกว่า 3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.5% แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.86 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.9% และผู้โดยสารภายในประเทศ 1.14 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.9% ขณะที่มีเที่ยวบิน 18,030 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 20.7% แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 10,442 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 25.8% และเที่ยวบินภายในประเทศ 7,588 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.4% โดยที่ ทสภ. คาดว่ามีผู้โดยสาร 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.9% มีเที่ยวบิน 8,086 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.4% ขณะที่ ทดม. คาดว่ามีผู้โดยสาร 824,786 คน เพิ่มขึ้น 30.3% มีเที่ยวบิน 5,244 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 23.2% ด้าน ทชม. คาดว่า มีผู้โดยสาร 232,057 คน เพิ่มขึ้น 45.1% มีเที่ยวบิน 1,509 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33% ส่วน ทชร. คาดว่า มีผู้โดยสาร 50,148 คน เพิ่มขึ้น 28.7% มีเที่ยวบิน 294 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.8% สำหรับ ทภก. คาดว่ามีผู้โดยสาร 404,831 คน เพิ่มขึ้น 17.1% เที่ยวบิน 2,391 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19% และ ทหญ. คาดว่ามีผู้โดยสาร 90,796 คน เพิ่มขึ้น 47.7% เที่ยวบิน 506 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 30.7% ซึ่งจากตัวเลขการเดินทางและการท่องเที่ยวของประชาชนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กระทรวงคมนาคมและ AOT ร่วมส่งมอบความสุขให้ประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 โดยจัดที่จอดรถยนต์ฟรี 4 สนามบิน เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 12 เมษายน 2568 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2568 ได้แก่ ทสภ. ณ ลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน C ทดม.บริเวณ ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ทชม. ณ บริเวณลานช้าง ข้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และที่ ทภก.บริเวณหน้าอาคารสำนักงาน ทภก.ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 11 เมษายน 2568 ถึงเวลา 23.59 น.ของวันที่ 16 เมษายน 2568

AOT ขอแนะนำให้ผู้โดยสารใช้บริการเครื่องเช็กอินด้วยตนเอง (เครื่อง CUSS) และเครื่องโหลดกระเป๋าสัมภาระด้วยตนเอง (เครื่อง CUBD) รวมทั้งขอแนะนำให้ลงทะเบียนใช้งานระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือ ระบบ Biometric เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการเดินทาง โดยสามารถลงทะเบียนใช้งานระบบ Biometric ผ่านเครื่อง CUSS หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินเมื่อท่านเช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน


สำหรับมาตรการพกพาแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ขึ้นเครื่องนั้น เนื่องจากปัจจุบันมีเหตุการณ์ Power Bank ลุกไหม้บนห้องโดยสารของสายการบินเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้บางสายการบินออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่น การห้ามชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน และไม่ให้เก็บ Power Bank บนพื้นที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ ดังนั้น AOT จึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารติดต่อสอบถามมาตรการพกพา Power Bank จากสายการบินที่ท่านใช้บริการ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การนำ Power Bank ขึ้นเครื่องบินยังคงเป็นไปตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย คือ (1) ความจุไม่เกิน 100Wh หรือ 20,000 mAh นำขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 20 ชิ้น (2) ความจุเกิน 100Wh หรือ 20,000 mAh นำขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น และ (3) ถ้าขนาดความจุเกิน 160Wh หรือ 32,000 mAh ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ทุกกรณี

นอกจากนี้ AOT ได้ร่วมส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้านเทศกาลสงกรานต์ เช่น การจัดซุ้มถ่ายภาพ จุดสรงน้ำพระ กิจกรรมสาธิตขั้นตอนการทำลูกชุบและข้าวแช่ การตัดตุงไส้หมู การห่อขนมพื้นเมือง กิจกรรมแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร เช่น ปืนฉีดน้ำ และซองกันน้ำ การแสดงฟ้อนรำ รำกลองยาว และการประดับตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารให้มีบรรยากาศสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลอาจมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ สามารถสอบถามการให้บริการได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง.-513.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]

“พล.อ.ณัฐพล” แจ้งกัมพูชาเร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ […]