คลังเร่งช่วยเหลือ หลังออกมาตรการช่วยเหลือแผ่นดินไหวปี 68

กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – คลังเร่งช่วยเหลือ หลังออกมาตรการช่วยเหลือแผ่นดินไหวปี 2568 ทั้งพักชำระเงินต้นทั้งหมด ลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 สูงสุดนาน 3 เดือน คปภ.เร่งตรวจชดเชยตึก สตง.


นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้ามาตรการที่สำคัญของกระทรวงการคลัง แบงก์รัฐ คปภ. เพื่อดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนกลุ่มต่างๆ และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 ดังนี้

  1. มาตรการขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
    กรมบัญชีกลางได้ขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีแผ่นดินไหว) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัด วงเงินในอำนาจของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 200 ล้านบาท สำหรับใช้จ่ายด้านการดำรงชีพและด้านการปฏิบัติงาน
  2. มาตรการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

2.1 ธนาคารออมสิน
2.1.1 มาตรการแบ่งเบาภาระลูกหนี้ปัจจุบัน สำหรับสินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารประชาชน และสินเชื่อ SMEs โดยพักชำระเงินต้นทั้งหมด และลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน
2.1.2 มาตรการสินเชื่อเพื่อกู้ซ่อมแซมบ้าน กู้ฟื้นฟูกิจการ สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่


  • สินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินกู้สูงสุด 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน
  • สินเชื่อกู้ซ่อมแซมบ้าน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน

2.2 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2.2.1 โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2568 เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น วงเงินต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR ของ ธ.ก.ส. เท่ากับร้อยละ 6.925 ต่อปี) ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก
2.2.2 โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือน ทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย วงเงินต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR – 2 ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี

2.3 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
2.3.1 โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย จำนวน 2 มาตรการ ประกอบด้วย
2.3.1.1 กรณีลูกค้าปัจจุบัน ได้รับการลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจะพักชำระหนี้ใน 3 เดือนแรก พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือร้อยละ 0 ต่อปี และเดือนที่ 4-12 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.00 ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลงร้อยละ 50 ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน
2.3.1.2 กรณีลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ สามารถขอกู้ใหม่หรือกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมหรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด เดือนที่ 4-24 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.00 ต่อปี
2.3.2 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2568
2.3.2.1 มาตรการประนอมหนี้ สำหรับลูกค้าที่ค้างชำระเงินงวดติดต่อกันมากกว่า 3 เดือน หรือมีสถานะอยู่ระหว่างประนอมหนี้ ในกรณีหลักประกันเสียหาย 2) กรณีได้รับผลกระทบต่อรายได้ 3) กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร และ 4) กรณีหลักประกันได้รับความเสียหายทั้งหลังไม่สามารถซ่อมแซมได้
สำหรับลูกค้าที่มีสถานะหนี้ปกติ สามารถเข้าร่วมมาตรการที่ 3) และ 4) ได้ โดยจะพิจารณาเป็นรายกรณี
2.3.2.2 มาตรการสินไหมเร่งด่วน สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ประสบภัย กรณีทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติ จะได้รับค่าสินไหมเร่งด่วนกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ ธอส. กำหนด โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568

2.4 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
2.4.1 มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม สำหรับเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลาพักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน และกลุ่มสัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินและสินเชื่อแฟคตอริ่ง ขยายระยะเวลาชำระตั๋วสัญญาใช้เงินออกไปสูงสุด 180 วัน และสามารถพักชำระดอกเบี้ยได้
2.4.2 มาตรการเติมทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ ให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยให้สินเชื่อวงเงินกู้ร้อยละ 10 ของวงเงินเดิม สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 7.3 ต่อปี) ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน ไม่มีหลักประกัน และยกเว้นค่าธรรมเนียม สามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป


2.5 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
2.5.1 มาตรการไอแบงก์ไม่ทิ้งกัน
ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ : สามารถขอสินเชื่อ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูกิจการ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตรากำไรต่ำสุดร้อยละ 1.99 ในปีแรก และระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 20 ปี

2.6. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)
2.6.1 มาตรการช่วยเหลือเงินกู้ระยะสั้น ขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงินสูงสุด 180 วัน เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราวสูงสุดร้อยละ 20 ของวงเงินหมุนเวียนเดิม วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท และเปลี่ยนแปลงภาระหนี้ระยะสั้นเป็นภาระหนี้ระยะยาวผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 3 ปี
2.6.2 มาตรการช่วยเหลือสำหรับวงเงินกู้ระยะยาว ขยายระยะเวลาเงินกู้สูงสุด 7 ปี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยปีแรกลงร้อยละ 0.50 หรือจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 50 ในช่วง 6 เดือนแรก และพักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 1 ปี รวมทั้งเพิ่มวงเงินสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 6.25

2.7 บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่
2.7.1 มาตรการพักชำระค่าธรรมเนียม สำหรับลูกค้า บสย. ที่ถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อและค่าจัดการค้ำประกัน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 สามารถพักชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อและค่าจัดการค้ำประกันสินเชื่อเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันถึงกำหนดชำระ
2.7.2 มาตรการพักชำระค่างวด สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้และไม่ผิดนัดชำระหนี้ โดยสามารถพักชำระค่างวดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระยะเวลายื่นขอพักชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568

2.8 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
2.8.1 มาตรการแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อปัจจุบัน ลดค่างวดร้อยละ 75 ของค่างวดปัจจุบัน (ชำระเพียงร้อยละ 25) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดย 1) ลูกหนี้บ้านและ SMEs คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 33 เดือน และ 2) ลูกหนี้บุคคล คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี
2.8.2 มาตรการสินเชื่อเพื่อกู้ ซ่อมบ้าน/กู้ ฟื้นฟูกิจการ 1) ลูกค้าบ้าน และ SMEs คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0 เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้น คิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 33 เดือน และ 2) ลูกค้าบุคคล คิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี

  1. มาตรการด้านการประกันภัย
  • คปภ. ได้เข้าพื้นที่ประสบภัย (อาคาร สตง. แห่งใหม่) พร้อมบริษัทประกัน 4 บริษัท เพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ และอยู่ระหว่างประสานขอรายละเอียดส่วนบุคคลของผู้สูญหาย เพื่อค้นหาในระบบฐานข้อมูลของ คปภ. พร้อมแจ้งให้บริษัทประกันภัยให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด
  • นอกจากนี้ คปภ. อยู่ระหว่างการตรวจสอบฐานะการเงินของบริษัทประกันภัยทั้ง 4 แห่ง เบื้องต้นทราบว่ามีการประกันภัยต่อไปยังบริษัทต่างประเทศ ทำให้ไม่กระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทแต่อย่างใด
  • ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ประสานไปยังสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย และบริษัทประกันภัยทุกบริษัท เพื่อเร่งติดตามสถานการณ์และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน ตลอดจนพิจารณาชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว นอกจากนี้ คปภ. ยังได้เปิดบริการสายด่วน คปภ. 1186 เพื่อให้คำปรึกษาผู้เอาประกันภัยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ขอความร่วมมือจากสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับที่มิใช่สถาบันการเงิน ดังนี้

  1. พิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ ให้ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำที่ ธปท. กำหนดได้ สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
  2. พิจารณาให้วงเงินชั่วคราวฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพและระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นของลูกหนี้
  3. พิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยไม่ต้องนำหลักเกณฑ์การพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ตามแนวทาง Responsible Lending มาใช้
  4. ให้สามารถคงสถานการณ์จัดชั้นสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือและยังไม่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพไว้ตามเดิมก่อนเกิดเหตุสาธารณภัยได้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว เช่น การให้สินเชื่อใหม่หรือสภาพคล่องเพิ่มเติมในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ การลดเงินต้น หรือดอกเบี้ย หรือการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ เป็นต้น

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวในตอนท้ายว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขอให้ประชาชน นักลงทุน และผู้ประกอบการ เชื่อมั่นว่า ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และหน่วยงานภาครัฐพร้อมดำเนินการทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อให้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ โดยกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมหากมีความคืบหน้าเป็นลำดับในโอกาสต่อไป.-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย