เริ่มแล้ว! “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติและนานาชาติ” ใหญ่สุดในอาเซียน!

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. -“งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23” ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มาในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม พบกับ 7 โซนหนังสือดีที่น่าอ่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ ให้เลือกช้อปอย่างจุใจกับ 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ พร้อมขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 20,000 ตร.ม.  จัดเต็มนิทรรศการ – กิจกรรมกว่า 100 อีเว้นท์ สำหรับบุ๊คเลิฟเวอร์ ที่สำคัญ “Bangkok Rights Fair 2025” งานเจรจาซื้อขายลิขสิทธิ์กับ 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน ครั้งแรก! กับ PUBAT Café จิบกาแฟหอมกรุ่น จากร้านดัง, บริการนวดแผนไทย ช่วยผ่อนคลายนักช้อป ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 – 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 


นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมหนังสือไทยซึ่งมีมูลค่ารวม 16,000-17,000 ล้านบาทในปี 2567 กลับมาคึกคักขึ้น จากการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 (53rd National Book Fair & 23rd Bangkok International Book Fair 2025) ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2568 ณ ฮอลล์ 5 – 8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งปีนี้มีสำนักพิมพ์และบริษัทชั้นนำเข้าร่วมออกบูธจำหน่าย และนำเสนอกิจกรรมดีๆ อีกมากมาย สมาคมฯ จึงขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 ฮอลล์ ส่งผลให้มีพื้นที่การจัดงานเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม. เพื่อรองรับนักอ่านที่เดินทางมาร่วมงานซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งจำนวนผู้ประกอบการสำนักพิมพ์และบริษัทต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

“การจัดงานสัปดาห์หนังสือฯ ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งนอกจากบูธจำหน่ายหนังสือที่มีมากถึง 1,200 บูธจาก 400 สำนักพิมพ์แล้ว ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ อีกกว่า 100 กิจกรรม และยังมีงาน Bangkok Rights Fair 2025 การจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ในระหว่างวันที่ 28 – 29 มีนาคม 2568 ซึ่งมีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักอ่านทุกคน เช่น PUBAT Cafe, บริการนวดไทย และบริการจากไปรษณีย์ไทย ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 วันนี้ คาดว่าจะมีนักอ่านเข้าร่วมงานมากกว่า 1.3 ล้านคน และมีการจับจ่ายซื้อมากกว่า 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-10%”


สำหรับภายในงาน แบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย 1. โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม 2. โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland)  3. โซนหนังสือเด็กและการศึกษา 4. โซนหนังสือทั่วไป  5. โซนหนังสือเก่า 6.โซนหนังสือต่างประเทศ และ 7. โซน Non – Book  รวมหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือชั้นนำรวม 1,200บูธ พร้อมพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone

ไฮไลท์ นิทรรศการและกิจกรรมประกอบไปด้วย

  1. นิทรรศการเยี่ยมยักษ์ : การจำลองโต๊ะทำงานของยักษ์พิเภก พร้อมข้าวของเครื่องใช้ขนาด Oversized ที่เปิดให้นักอ่านเข้าไปเยี่ยมชม ขณะที่พี่ยักษ์กำลังนอนหลับ ซึ่งในนิทรรศการจะมีการจัดแนะนำหนังสือในหัวข้อ “หนังสือธรรมดาๆ เล่มนั้น ที่เธอก็น่าจะลองอ่านนะ” ซึ่งเป็นหนังสือที่แนะนำโดยผู้อ่านทางบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นหนังสือธรรมดา ๆ  แต่มีความพิเศษสุด
  2. นิทรรศการแปลหนังสือไทย เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ : การแสดงหนังสือไทยที่ถูกคัดเลือกให้รับทุนสนับสนุนการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ จาก สศร. จำนวน 15 เล่ม ผ่านห้องลับในหนังสือกองยักษ์ที่พลาดไม่ได้ อาทิ จิ้งจกหางด้วน โดยฤทัย จงสฤษดิ์ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA Shop), เที่ยวบ้านเพื่อนสนุกจัง โดยกฤษณะ กาญจนาภา, วชิราวรรณ ทับเสือ จากสำนักพิมพ์สานอักษร, วินาทีไร้น้ำหนัก โดยวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ จากสำนักพิมพ์มติชน, กี่บาดโดยประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด จากสำนักพิมพ์คมบาง, ผ่านพบไม่ผูกพัน โดยเสกสรรค์ ประเสริฐกุล จากบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด เป็นต้น
  3. นิทรรศการ Book Power : การแสดงหนังสือที่ถูกแนะนำจากคนสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Soft Power ทั้งยังมีกิจกรรมเขียนหนังสือให้ยักษ์อ่าน เปิดให้ผู้ร่วมงานช่วยกันแต่งเติมเรื่องราวให้สอดคล้องกับคนที่เขียนประโยคก่อนหน้า, กิจกรรม สอยยักษ์ รับมิชชั่นจากฟ้า การสอยดาวจากต้นถั่วของแจ็ค เพื่อลุ้นรับภารกิจที่แนะนำให้ลองทำในงานหนังสือ หรือลุ้นรับของรางวัล โดยผู้ร่วมงานสามารถนำใบเสร็จที่ซื้อหนังสือครบ ทุก 500บาท มาแสดงเพื่อร่วมกิจกรรมลุ้นสอยดาวได้ 1ครั้ง  
  4. นิทรรศการ ๗๐ พรรษา ๗ พระราชนิพนธ์แปลทรงคุณค่าในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด  
  5. นิทรรศการวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2568 โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร์ และรัฐสภา
  6. นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี 2568โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
  7. นิทรรศการ Little Read Storyverseจักรวาลล้านเรื่องเล่า : จัดแสดงหนังสือภาพ มุมวาดเขียน และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ จากเหล่านักอ่านที่พร้อมจะนำทุกคนออกเดินทางสู่ “จักรวาลล้านเรื่องเล่า” ดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแสนมหัศจรรย์ละลานล่องลอย นำมาซึ่งความสุข และเพลิดเพลินใจเมื่อได้อ่านและได้ฟัง
  8. นิทรรศการ “หนึ่งอ่านล้านตื่น” โดย มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตื่น : พบกับ “ทุนหนังสือตรงใจ ”กิจกรรมมอบทุนจำนวน 10,000 บาท ให้กับโรงเรียนและสถานที่ขาดแคลนจำนวน 20 แห่ง มูลค่ารวม 200,000 บาท เพื่อให้นำไปเลือกซื้อหนังสือภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ได้ด้วยตนเองตามที่ต้องการ, BookterflyEffect ปรากฏการณ์หนึ่งอ่าน ที่สามารถสร้างล้านการเปลี่ยนแปลง ให้แก่ผู้อ่านและสังคม พร้อมการแชร์ชื่อหนังสือของคนดังที่จะมาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม, Donation sale สนับสนุนให้นักอ่านได้เลือกซื้อหนังสือที่ต้องการเพื่อส่งมอบให้กับผู้รับได้อ่านแบบ One Stop Service, “Bookathon” การแข่งขันส่งเสริมการอ่านเสนอไอเดียเพื่อพลิกโฉมวงการหนังสือ การอบรมเวิร์คช็อป “Incubation ครั้งที่ 1” การเสวนา BooKATrend จับกระแสสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงวงการหนังสือไทย,  DesAIThinking กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และ Mentoring Session พบกับผู้เชี่ยวชาญที่จะเป็นพี่เลี้ยงแนะนำไอเดียอย่างใกล้ชิด, ABC Killer Pitching เทคนิคการนำเสนออย่างไรให้โดนใจผู้ฟัง เป็นต้น
  9. กิจกรรม Author’s Salon : การเปิดพื้นที่ให้นักเขียนอิสระและนักเขียนทุกประเภท รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์การเขียนกับนักอ่าน ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน รวมทั้งได้รับแนวคิดและข้อมูลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นพื้นที่ให้นักอ่านได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และวัฒนธรรม
  10. โครงการ Global Author Spotlight : จัดโครงการเชิญนักเขียนต่างประเทศ (Global Author Spotlight) เพื่อให้นักอ่านไทยได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกับนักเขียนที่มีผลงานโดดเด่นจากนานาชาติ โดยในปีนี้ มีนักเขียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ 6 ราย/หน่วยงาน ได้แก่
  11. เอซรา คีริลล์ เออร์เกอร์ จากเยอรมัน ผู้เขียน Salaryman Unbound (เกมฆาตกร) 2. เมาริ กุนนัส จากฟินแลนด์ผู้เขียน Good Night Mr. Clutterbuck (ราตรีสวัสดิ์นะคุณปุ๊บปั๊บ), Santa and the Magic Drum (ซานตาคลอสกับกลองมนตรา) และอื่น ๆ 3. ทองใบ โพทิสาน ศิลปินดีเด่นสาขาวรรณกรรม นักประพันธ์รางวัลซีไรต์ประธานสมาคมนักประพันธ์ลาว และ รศ.แสงฟ้า โหลานุพาบ นักประพันธ์รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง จาก สปป.ลาว 4. สมาคมนักเขียนแห่งประเทศกัมพูชา 5. เดวิด ซิมส์ จากสกอตแลนด์ ผู้เขียน Soft City: Building Density for Everyday Life 6. เว็กซ์ คิงส์ จากอังกฤษ ผู้เขียน GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข
  12. โครงการ PUBAT Contest : พบกับ กิจกรรม “ย ยักษ์นักพรูฟ” การแข่งขันค้นหาคำไทย คำไหนผิด, “ย ยักษ์นักอ่าน” การแข่งขันทดสอบความรู้ของนักอ่าน ในหมวดหนังสือประเภทต่างๆ
    ทั้งนี้นิทรรศการแปลหนังสือไทย นิทรรศการ Book Power นิทรรศการ Little Read Storyverse กิจกรรม Author’s Salon และกิจกรรม Global Author Spotlight จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ PUBAT และ THACCA ด้วยการสนับสนุนหลักจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

สำหรับงาน “Bangkok Rights Fair 2025 งานจับคู่ธุรกิจ เพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่างวันที่ 28 – 29 มีนาคม 2568 ณ ห้อง MR208 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในครั้งนี้ มีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14ประเทศและเขตแดน อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย โดยภายในงานตั้งเป้าหมายที่จะมีการเจรจาการค้า (Business Matching) มากกว่า 200 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในงานกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68.5 ล้านบาท


ครั้งแรก! กับ “PUBAT Cafe” บูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ จากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูพิเศษ Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น ภายในงานยังมีพื้นที่พิเศษ โดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด  มาเนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิลชิล หลังจากเดินช้อปจนจุใจ และยังมีบริการนวดแผนไทย โดยการสนับสนุนจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งยังมีไปรษณีย์ไทย มาเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษอีกด้วย

ห้ามพลาด! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2568ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 – 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย