เริ่มแล้ว! “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติและนานาชาติ” ใหญ่สุดในอาเซียน!

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. -“งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23” ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มาในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม พบกับ 7 โซนหนังสือดีที่น่าอ่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ ให้เลือกช้อปอย่างจุใจกับ 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ พร้อมขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 20,000 ตร.ม.  จัดเต็มนิทรรศการ – กิจกรรมกว่า 100 อีเว้นท์ สำหรับบุ๊คเลิฟเวอร์ ที่สำคัญ “Bangkok Rights Fair 2025” งานเจรจาซื้อขายลิขสิทธิ์กับ 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน ครั้งแรก! กับ PUBAT Café จิบกาแฟหอมกรุ่น จากร้านดัง, บริการนวดแผนไทย ช่วยผ่อนคลายนักช้อป ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 – 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 


นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมหนังสือไทยซึ่งมีมูลค่ารวม 16,000-17,000 ล้านบาทในปี 2567 กลับมาคึกคักขึ้น จากการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 (53rd National Book Fair & 23rd Bangkok International Book Fair 2025) ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2568 ณ ฮอลล์ 5 – 8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งปีนี้มีสำนักพิมพ์และบริษัทชั้นนำเข้าร่วมออกบูธจำหน่าย และนำเสนอกิจกรรมดีๆ อีกมากมาย สมาคมฯ จึงขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 ฮอลล์ ส่งผลให้มีพื้นที่การจัดงานเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม. เพื่อรองรับนักอ่านที่เดินทางมาร่วมงานซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งจำนวนผู้ประกอบการสำนักพิมพ์และบริษัทต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

“การจัดงานสัปดาห์หนังสือฯ ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งนอกจากบูธจำหน่ายหนังสือที่มีมากถึง 1,200 บูธจาก 400 สำนักพิมพ์แล้ว ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ อีกกว่า 100 กิจกรรม และยังมีงาน Bangkok Rights Fair 2025 การจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ในระหว่างวันที่ 28 – 29 มีนาคม 2568 ซึ่งมีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักอ่านทุกคน เช่น PUBAT Cafe, บริการนวดไทย และบริการจากไปรษณีย์ไทย ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 วันนี้ คาดว่าจะมีนักอ่านเข้าร่วมงานมากกว่า 1.3 ล้านคน และมีการจับจ่ายซื้อมากกว่า 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-10%”


สำหรับภายในงาน แบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย 1. โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม 2. โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland)  3. โซนหนังสือเด็กและการศึกษา 4. โซนหนังสือทั่วไป  5. โซนหนังสือเก่า 6.โซนหนังสือต่างประเทศ และ 7. โซน Non – Book  รวมหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือชั้นนำรวม 1,200บูธ พร้อมพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone

ไฮไลท์ นิทรรศการและกิจกรรมประกอบไปด้วย

  1. นิทรรศการเยี่ยมยักษ์ : การจำลองโต๊ะทำงานของยักษ์พิเภก พร้อมข้าวของเครื่องใช้ขนาด Oversized ที่เปิดให้นักอ่านเข้าไปเยี่ยมชม ขณะที่พี่ยักษ์กำลังนอนหลับ ซึ่งในนิทรรศการจะมีการจัดแนะนำหนังสือในหัวข้อ “หนังสือธรรมดาๆ เล่มนั้น ที่เธอก็น่าจะลองอ่านนะ” ซึ่งเป็นหนังสือที่แนะนำโดยผู้อ่านทางบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นหนังสือธรรมดา ๆ  แต่มีความพิเศษสุด
  2. นิทรรศการแปลหนังสือไทย เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ : การแสดงหนังสือไทยที่ถูกคัดเลือกให้รับทุนสนับสนุนการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ จาก สศร. จำนวน 15 เล่ม ผ่านห้องลับในหนังสือกองยักษ์ที่พลาดไม่ได้ อาทิ จิ้งจกหางด้วน โดยฤทัย จงสฤษดิ์ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA Shop), เที่ยวบ้านเพื่อนสนุกจัง โดยกฤษณะ กาญจนาภา, วชิราวรรณ ทับเสือ จากสำนักพิมพ์สานอักษร, วินาทีไร้น้ำหนัก โดยวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ จากสำนักพิมพ์มติชน, กี่บาดโดยประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด จากสำนักพิมพ์คมบาง, ผ่านพบไม่ผูกพัน โดยเสกสรรค์ ประเสริฐกุล จากบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด เป็นต้น
  3. นิทรรศการ Book Power : การแสดงหนังสือที่ถูกแนะนำจากคนสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Soft Power ทั้งยังมีกิจกรรมเขียนหนังสือให้ยักษ์อ่าน เปิดให้ผู้ร่วมงานช่วยกันแต่งเติมเรื่องราวให้สอดคล้องกับคนที่เขียนประโยคก่อนหน้า, กิจกรรม สอยยักษ์ รับมิชชั่นจากฟ้า การสอยดาวจากต้นถั่วของแจ็ค เพื่อลุ้นรับภารกิจที่แนะนำให้ลองทำในงานหนังสือ หรือลุ้นรับของรางวัล โดยผู้ร่วมงานสามารถนำใบเสร็จที่ซื้อหนังสือครบ ทุก 500บาท มาแสดงเพื่อร่วมกิจกรรมลุ้นสอยดาวได้ 1ครั้ง  
  4. นิทรรศการ ๗๐ พรรษา ๗ พระราชนิพนธ์แปลทรงคุณค่าในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด  
  5. นิทรรศการวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2568 โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร์ และรัฐสภา
  6. นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี 2568โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
  7. นิทรรศการ Little Read Storyverseจักรวาลล้านเรื่องเล่า : จัดแสดงหนังสือภาพ มุมวาดเขียน และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ จากเหล่านักอ่านที่พร้อมจะนำทุกคนออกเดินทางสู่ “จักรวาลล้านเรื่องเล่า” ดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแสนมหัศจรรย์ละลานล่องลอย นำมาซึ่งความสุข และเพลิดเพลินใจเมื่อได้อ่านและได้ฟัง
  8. นิทรรศการ “หนึ่งอ่านล้านตื่น” โดย มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตื่น : พบกับ “ทุนหนังสือตรงใจ ”กิจกรรมมอบทุนจำนวน 10,000 บาท ให้กับโรงเรียนและสถานที่ขาดแคลนจำนวน 20 แห่ง มูลค่ารวม 200,000 บาท เพื่อให้นำไปเลือกซื้อหนังสือภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ได้ด้วยตนเองตามที่ต้องการ, BookterflyEffect ปรากฏการณ์หนึ่งอ่าน ที่สามารถสร้างล้านการเปลี่ยนแปลง ให้แก่ผู้อ่านและสังคม พร้อมการแชร์ชื่อหนังสือของคนดังที่จะมาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม, Donation sale สนับสนุนให้นักอ่านได้เลือกซื้อหนังสือที่ต้องการเพื่อส่งมอบให้กับผู้รับได้อ่านแบบ One Stop Service, “Bookathon” การแข่งขันส่งเสริมการอ่านเสนอไอเดียเพื่อพลิกโฉมวงการหนังสือ การอบรมเวิร์คช็อป “Incubation ครั้งที่ 1” การเสวนา BooKATrend จับกระแสสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงวงการหนังสือไทย,  DesAIThinking กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และ Mentoring Session พบกับผู้เชี่ยวชาญที่จะเป็นพี่เลี้ยงแนะนำไอเดียอย่างใกล้ชิด, ABC Killer Pitching เทคนิคการนำเสนออย่างไรให้โดนใจผู้ฟัง เป็นต้น
  9. กิจกรรม Author’s Salon : การเปิดพื้นที่ให้นักเขียนอิสระและนักเขียนทุกประเภท รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์การเขียนกับนักอ่าน ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน รวมทั้งได้รับแนวคิดและข้อมูลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นพื้นที่ให้นักอ่านได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และวัฒนธรรม
  10. โครงการ Global Author Spotlight : จัดโครงการเชิญนักเขียนต่างประเทศ (Global Author Spotlight) เพื่อให้นักอ่านไทยได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกับนักเขียนที่มีผลงานโดดเด่นจากนานาชาติ โดยในปีนี้ มีนักเขียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ 6 ราย/หน่วยงาน ได้แก่
  11. เอซรา คีริลล์ เออร์เกอร์ จากเยอรมัน ผู้เขียน Salaryman Unbound (เกมฆาตกร) 2. เมาริ กุนนัส จากฟินแลนด์ผู้เขียน Good Night Mr. Clutterbuck (ราตรีสวัสดิ์นะคุณปุ๊บปั๊บ), Santa and the Magic Drum (ซานตาคลอสกับกลองมนตรา) และอื่น ๆ 3. ทองใบ โพทิสาน ศิลปินดีเด่นสาขาวรรณกรรม นักประพันธ์รางวัลซีไรต์ประธานสมาคมนักประพันธ์ลาว และ รศ.แสงฟ้า โหลานุพาบ นักประพันธ์รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง จาก สปป.ลาว 4. สมาคมนักเขียนแห่งประเทศกัมพูชา 5. เดวิด ซิมส์ จากสกอตแลนด์ ผู้เขียน Soft City: Building Density for Everyday Life 6. เว็กซ์ คิงส์ จากอังกฤษ ผู้เขียน GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข
  12. โครงการ PUBAT Contest : พบกับ กิจกรรม “ย ยักษ์นักพรูฟ” การแข่งขันค้นหาคำไทย คำไหนผิด, “ย ยักษ์นักอ่าน” การแข่งขันทดสอบความรู้ของนักอ่าน ในหมวดหนังสือประเภทต่างๆ
    ทั้งนี้นิทรรศการแปลหนังสือไทย นิทรรศการ Book Power นิทรรศการ Little Read Storyverse กิจกรรม Author’s Salon และกิจกรรม Global Author Spotlight จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ PUBAT และ THACCA ด้วยการสนับสนุนหลักจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

สำหรับงาน “Bangkok Rights Fair 2025 งานจับคู่ธุรกิจ เพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่างวันที่ 28 – 29 มีนาคม 2568 ณ ห้อง MR208 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในครั้งนี้ มีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14ประเทศและเขตแดน อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย โดยภายในงานตั้งเป้าหมายที่จะมีการเจรจาการค้า (Business Matching) มากกว่า 200 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในงานกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68.5 ล้านบาท


ครั้งแรก! กับ “PUBAT Cafe” บูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ จากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูพิเศษ Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น ภายในงานยังมีพื้นที่พิเศษ โดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด  มาเนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิลชิล หลังจากเดินช้อปจนจุใจ และยังมีบริการนวดแผนไทย โดยการสนับสนุนจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งยังมีไปรษณีย์ไทย มาเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษอีกด้วย

ห้ามพลาด! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2568ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 – 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]