กรุงเทพฯ 26 มี.ค.-นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และ อดีตเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกร้องถ้า“พิรงรอง”ต้องถูกจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาจะสะเทือนอุตสาหกรรมสื่อแน่นอน โดยมองว่า “พิรงรอง” คือ ความหวังของคนที่ทำงานด้านสื่อสารมวลชน
สภาองค์กรของผู้บริโภค สภาการสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ร่วมกับคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาในหัวข้อ “พิรงรอง”Effect สะเทือนอุตสาหกรรมสื่อ?“ โดยหลังจากที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ที่ถูกบริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 จงใจกลั่นแกล้งให้บริษัทได้รับความเสียหายซึ่งขณะนี้ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ยังคงปฏิบัติหน้าที่ กสทช. ตามปกติ ระหว่างสู้คดีอุทธรณ์
งานนี้เริ่มต้นกล่าวเปิดงานโดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภคและนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ประธานคณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภคสื่อ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติและกรรมการนโยบาย สภาผู้บริโภค โดยระบุว่า อีก 5 ปีจะถึงยุคเปลี่ยนผ่านเรื่องทีวีดิจิทัล ถ้าไม่มี ศ.กิตติคุณ พิรงรอง รามสูต กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ คอยดูแล การดูแลรักษาคลื่นวิทยุโทรทัศน์จะเป็นอย่างไร เราต้องช่วยกันหาคำตอบ เราจำเป็นจะต้องมีอาจารย์พิรงรอง อยู่ในกสทช.แม้จะเป็นกรรมการเสียงข้างน้อยก็ตาม เราต้องมาช่วยกันหาคำตอบให้กับเรื่องนี้
รศ.ดร.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า อาจารย์พิรงรอง มีคุณสมบัติทุกอย่างในการกำกับดูแลสื่อ การเข้ามาเป็นกรรมการ กสทช.ของอาจารย์พิรงรอง อดีตรองอธิการบดีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนในวงการสื่อดีใจมาก คดีนี้เขากำลังจะเชือดหงส์ให้ทุกคนดูกับคำตัดสินที่ไม่รอลงอาญาทำให้ทุกคนช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่สื่อมวลชนอยู่ในภาวะเงียบงันซึ่งถ้าอาจารย์พิรงรอง โดนคดีจริงๆใครจะกล้าเข้ามาทำงานด้านสื่อสารมวลชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ ระบุว่า เข้าใจความรู้สึกของอาจารย์พิรงรองเพราะรู้จักเป็นการส่วนตัวและตนเองก็ไม่เคยมีปัญหากับทรู ทุกวันนี้ยังเป็นลูกค้าของทรูไอดีอยู่ซึ่งประเด็นนี้ คดีความยังไม่ถึงที่สุดดังนั้นอย่าเพิ่งไปด่วนสรุป และ คดีนี้เกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรม หลายคนจึงไม่อยากเปิดเผยชื่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปมากมีการกระจุกตัวของอำนาจทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีวิ่งเร็วกว่ากฎหมาย การทำงานขององค์กรอิสระถ้ามันบิดเบี้ยวก็จะทำให้องค์กรทำงานไม่ได้
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตประธานกรรมการนโยบาย ไทยพีบีเอส กล่าวว่า ระบบทุนไม่พอใจอาจารย์พิรงรอง โดยมองว่า อาจารย์พิรงรองถูกนำเอาเทคนิคทางกฎหมายมาเล่นงานมากกว่า ซึ่ง กสทช.มีหน้าที่ดูแลเสรีภาพสื่อให้เกิดขึ้นแต่ตัวปัญหาคือสื่อถูกคุกคามโดยทุนขนาดใหญ่ ทำให้อำนาจเงินมีอำนาจเหนือกฎ นี่คือตัวปัญหาที่แท้จริง ขณะเดียวกันประธาน กสทช.ก็ยังมีปัญหาอยู่เพราะเอาเวลาทำงานไปตรวจคนไข้ จริงหรือไม่จริงก็ต้องไปว่ากันตามหลักฐาน ขณะนี้กรรมการ กสทช.มี 7 คน แบ่งเป็นข้างละ 4 คน กับ 3 คน ถ้าเหลือกรรมการ 6 คน คือข้างละ 3 คน ประธานก็จะสามารถลงคะแนนอีกเสียงหนึ่งได้เหมือนที่เคยลงคะแนนมาแล้ว.-513.-สำนักข่าวไทย