กรุงเทพฯ 25 มี.ค.-กัลฟ์ฯ แจงผู้ถือหุ้น ระบุหลังควบรวม “อินทัช โฮลดิ้งส์” กลับเข้าเทรด 3 เม.ย.นี้ เสริมแกร่งระหว่างกัน พร้อมลุยลงทุน ธุรกิจดิจิทัล-ไฟฟ้า ต่อเนื่อง แผนลงทุน 5ปีนี้ราว 1 แสนล้านบาท
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ GULF เปิดเผยในที่ประชุมผู้ถือหุ้น GULF ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะควบรวมกิจการกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ว่าบริษัทใหม่จะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ GULF ในวันที่ 1 เม.ย. 2568 และจะเริ่มกลับมาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ซึ่งบริษัทใหม่จะลงทุนเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศจะเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า ส่วนธุรกิจดิจิทัล ทั้ง DATA CENTER ,cloud รองรับการเติบโตด้านดิจิทัลและ AI จะเน้นลงทุนในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนมาชวนลงทุนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ งบลงทุน 5 ปีนี้ ของบริษัทใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนในปีนี้ราว 20,000 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการใหม่ที่ยังไม่สามารถระบุได้ ) ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่เน้นธุรกิจพลังงานสะอาดคิดเป็นสัดส่วน 60-70%
สำหรับธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ เฟสที่ 2และ 3 หลังจากโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ เฟส 1 กำลังผลิต 25 เมกะวัตต์มีลูกค้าครบแล้ว คาดว่าแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.นี้ โดยดาต้าเซ็นเตอร์จะอยู่ที่ระดับ 200 เมกะวัตต์ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ล่าสุด บริษัทได้รับการส่งเสริมบีโอไอ ดาต้า เซ็นเตอร์ เฟส2อีก 50เมกะวัตต์ในนามบริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซนเตอร์ 02 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม Gulf, Singapore Telecommunications และ AIS เงินลงทุน 13,480 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี
“ประโยชน์จากการควบรวมกับINTUCHในครั้งนี้จะทำให้บริษัทใหม่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทใหม่จะถือหุ้นโดยตรงใน AIS สัดส่วน 40% ซึ่งสามารถที่จะรับรู้ผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทั้งส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาทต่อปี เงินปันผลทำให้มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอีก 6,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 0.8 เท่า จากเดิมไม่เกิน 1.8 เท่า อันดับเครดิตเรทติ้งจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการลงทุนการกู้เงิน ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงจากเดิมที่มีต้นทุนเงินกู้ที่ระดับ 3%”นายสารัชถ์กล่าว
GULF มี 4 กลุ่มธุรกิจหลัก 1.พลังงาน, 2.โครงสร้างพื้นฐาน, 3.ดิจิทัล และ4.ธุรกิจการลงทุนอื่นๆ เช่น การลงทุนใน ADVANC และ THCOM โดยบริษัทใหม่มีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจพลังงานราว 60% ที่เหลืออีก40%มาจากธุรกิจอื่น
ส่วนการลงทุนในการซื้อหุ้นธนาคารกสิกรไทยหรือ KBANK นั้น มองว่าหากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากๆก็คงขาย ซึ่งเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน ที่จะเห็นได้ว่ามีเงินปันผลกลับมาที่ดี โดยมีโอกาสการลงทุนได้หมดทั้งซื้อหรือขายเพราะขึ้นอยู่ที่ราคา
สำหรับแผนงานนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตามใบอนุญาตนำเข้านั้นอยู่ที่ ประมาณ 4-5 ล้านตันเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าหินกอง และโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ในเครือบริษัทฯ โดยราคานำเข้าLNG ค่อนข้างต่ำ ขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจาทำสัญญานำเข้า LNG ระยะยาวราวปีละ 2-3ล้านตันภายในปีนี้ ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR ) พลังงานไฮโดรเจน และโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) นั้น บริษัทไม่สนใจที่จะลงทุน เช่นเดียวกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น โครงการท่าเรือ , โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอร์เตอร์เวย์) ที่จะไม่ลงทุนเพิ่มเติม
“โครงการลงทุน LNG TERMINAL การจัดหาแอลแอ็นจี และการจำหน่ายก๊าซทางท่อ ก็นับเป็นการลงทุนที่รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทยที่จะเพิ่มขึ้นทั้ง อีวี รถไฟฟ้าระบบราง รวมไปถึงดาต้าเซนเตอร์ ในขณะที่การลงทุนควบรวมกับ INTUCH ก็จะเป็นการสอดประสานเสริมธุรกิจซึ่งกันและกันนับเป็นการสร้างโอกาสที่ดี”นายสารัชถ์กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น1,500เมกะวัตต์ จะมาจากโครงการหินกอง (HKP) หน่วยผลิตที่ 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์( COD )ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โครงการโซลาร์ฟาร์ม 5 โครงการ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 2 โครงการ กำลังผลิต 597 เมกะวัตต์ ที่มีแผนจะ COD ในช่วงเดือน พ.ย.- ธ.ค.2568 ,โครงการโซลาร์รูฟท็อป เพิ่มอีก110 เมกะวัตต์ในปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจาก 15,100 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 16,577 เมกะวัตต์ในปีนี้ รวมทั้งรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์ผสมกับแบตเตอรี่ในประเทศอีกจำนวน 5 โครงการที่ COD ไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะรับรู้กำไรเต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 เมกะวัตต์.-511.-สำนักข่าวไทย