เมืองไทยประกันชีวิตปลื้ม คว้า 3 รางวัล จาก Future Trends Awards 2025

กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – เมืองไทยประกันชีวิตปลื้ม คว้า 3 รางวัล จาก Future Trends Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจและนายจ้างที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่


เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 3 รางวัลจากงาน Future Trends Awards 2025 ทั้งรางวัลสำหรับบุคคลซึ่งเป็นผู้นำองค์กรที่โดดเด่นและมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางอนาคต และรางวัลการบริหารองค์กรมีความโดดเด่นในด้านวิสัยทัศน์และการสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ พิจารณาคัดเลือกด้วยหลักเกณฑ์ข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัลเกียรติยศจากงาน Future Trends Awards 2025 ภายใต้แนวคิด Knowing the Future, Be the Winners of Tomorrow เวทีสำคัญของการมอบรางวัลเพื่อยกย่องบุคคลและองค์กรที่โดดเด่นในการนำเทรนด์และนวัตกรรมมาใช้อย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ สร้างคุณค่าต่อการพัฒนาของทุกภาคส่วน พร้อมเป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนการเติบโตของวันนี้และอนาคตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต สังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม โดยสามารถคว้ารางวัลสำคัญถึง 3 ประเภท ได้แก่


  1. รางวัล Leader of Business มอบให้แก่นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เป็นเครื่องยืนยันถึงบทบาทของผู้นำที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยอาศัยกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาปรับใช้ในทุกกระบวนการของการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างโอกาสใหม่ให้กับบริษัทฯ นอกจากนี้ รางวัลนี้ยังสะท้อนถึงแนวทางการบริหารที่คำนึงถึงความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า ควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในวงกว้าง ผ่านโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน
  2. รางวัล Leader of Leader มอบให้แก่ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ถือเป็นรางวัลที่แสดงถึงวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสูงสุด ตอกย้ำถึงศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ รางวัลนี้สะท้อนถึงบทบาทในการสร้างความร่วมมือระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partnerships) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระดับสากล นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสามารถในการเป็นแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความเป็นผู้นำนวัตกรรม ตลอดจนการทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ โดยรางวัลนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงบทบาทในฐานะผู้นำที่ไม่เพียงแต่สร้างความสำเร็จให้กับบริษัทฯ เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
  3. รางวัล The Most Attractive Employer (Student 18-22 Years Old) เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของเมืองไทยประกันชีวิต ในการดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวก้าวสู่ตลาดแรงงาน สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง ทันสมัย และส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เป็นที่ต้องการของคนรุ่นใหม่ บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนา เช่น การทำงานข้ามสายงาน (Cross-Functional Team) การหมุนเวียนเพื่อเรียนรู้งานอื่นๆ (Internal Rotation) และกิจกรรมเสริมสร้างทักษะ เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสเรียนรู้อย่างมืออาชีพและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร โดยมุ่งเน้นความสมดุลในชีวิตและการทำงาน รวมถึงการทำงานแบบยืดหยุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการโอกาสทางอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการ “Young MTL Internship” ซึ่งเป็นโครงการนักศึกษาฝึกงานที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสเเละรับประสบการณ์จากการฝึกงานที่ได้คิดและลงมือทำจริง เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการทำงาน รวมถึงยังมีโอกาสร่วมงานกับบริษัทฯ ในอนาคตอีกด้วย

สำหรับการได้รับรางวัลทั้ง 3 ประเภทนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่บุคลากรและผู้นำรุ่นใหม่ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพนักงานและสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับทุกภาคส่วนต่อไป บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลผ่านการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง และเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมให้สูงขึ้น อีกทั้งยังขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของทุกฝ่ายอย่างสมดุลและยั่งยืน.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]