“วอเตอร์​เกทฯ” แจงไม่เกี่ยว​ข้อง​ขายตึก​ Skyy9 ให้ประกันสังคม

กรุงเทพฯ​ 20 มี.ค.​ – “พัฒนา พร้อมพัฒน์” ลูกชาย ​”สันติ” อดีต รมช.​สธ. แจงไม่เกี่ยวข้องการขายตึก Skyy9 ให้ประกันสังคม​ เผยได้​ขายอาคาร​นี้แก่บริษัท เอจีอาอี 101 จำกัด ตามสภาพ​ที่ทรุด​โทรมมากในราคา​ 2,000 ล้าน​บาท​ จากนั้นไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ใดๆ​ กับผู้ซื้อ​ ยืนยันไม่ได้รู้จักบุคคลใดในประกันสังคมหรือกระทรวงแรงงาน​ อีก​ทั้ง​บิดา​ไม่ได้​เกี่ยวข้อง​กับการซื้อขาย​ “สันติ” ย้ำ​เป็น​การ​ซื้อ​ขายอสังหา​ริมทรัพย์​ตามปกติ​ โดยตนไม่ได้​เกี่ยวข้อง​และ​ไม่ได้​มีการพูดคุย​กับ​ “สุชาติ”


นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชาย​ของ​นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลง​ข่าว​เกี่ยวกับ​การซื้อขาย​อาคาร​ Skyy9​ ซึ่ง​ปัจจุบัน​เป็น​ทรัพย์สิน​ของ​สำนักงานประกันสังคม โดยนายพัฒนา เปิดเผยว่า บริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ซึ่งตนเป็นผู้บริหาร เคยเป็นเจ้าของอาคาร ICE ที่มีพื้นที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร โดยซื้อมาตั้งแต่ปี 2560 ในสภาพอาคารร้างและทรุดโทรม ต่อมาบริษัทได้จำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่บริษัท เอจีอาอี 101 จำกัด ซึ่งเป็นกองทุน Private Equity Fund จากต่างประเทศ ในราคาประมาณ 2,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 หลังการซื้อขายเสร็จสิ้น ตนก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับอาคารดังกล่าว รวมถึงไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทผู้ซื้อ

ในระหว่างที่ถือครองอยู่นั้นเคยได้มีแผนการที่จะปรับปรุงอาคารดังกล่าวเป็นสำนักงานตามเดิมที่ อาคารนี้เคยเป็นอยู่ อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาที่ถือครองทรัพย์สินนี้อยู่ ได้มีพรรคพวกที่อยู่ในวงการการเงินและอสังหาริมทรัพย์มาแนะนำให้รู้จักกับผู้สนใจลงทุนซื้ออาคารนี้หลายราย หนึ่งในนั้นคือผู้ซื้อ คือ บริษัทเอจีอาอี 101​ โดยทราบแต่เพียงว่า​ ผู้ซื้อประสงค์จะลงทุนปรับปรุงอาคารให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และประกอบธุรกิจ ต่อไปและมีการลงทุนปรับปรุงอีกหลายพันล้านบาท


นายพัฒนา ย้ำว่า​ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อในทางใดๆ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่เคยทราบเรื่องราวว่า​ อาคารหลังนี้ได้ถูกเปลี่ยนมือมาเป็นของใคร ในราคาเท่าไร และเพิ่งจะทราบเรื่องทั้งหมดพร้อมๆ​ กับทุกคนว่า สำนักงานประกันสังคมได้ซื้ออาคารหลังนี้ไปตามข่าวเท่านั้น โดยตนไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ ไม่รู้จักกับผู้ใดในประกันสังคม ทั้งสิ้น รวมถึงกรรมการหรือผู้มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นใคร ทั้งในประกันสังคมและในกระทรวงแรงงาน​ ส่วนบิดา​ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว

สำหรับ​ประเด็น​ที่​เป็น​ข่าว​ว่า​ สำนักงานประกันสังคมซื้ออาคารนี้ต่อไปในราคา 7,000 ล้านบาท มีความคุ้มค่าหรือไม่นั้น​ ขอไม่แสดงความคิดเห็น​ แต่ข้อพิจารณา​ของ​วอเตอร์​เกท​ฯ​ ในการ​ซื้อ​อาคารนี้​ มาจาก​การ​ที่​มอง​ว่า​ เป็น​อาคารใหญ่​ พื้นที่​ใช้สอย​มาก​ และ​อยู่​ในทำเลดี​ ตั้ง​ใจจะทำเป็น​อาคารสำนักงาน​ แต่ได้​ขายต่อไปตามสภาพ​

สำหรับ​กรณีที่มีกระแสพูดถึงว่า​ บริษัท​ของตนเป็นผู้ขายหรือเกี่ยวข้องกับการขายอาคารหลังนี้ให้แก่สำนักงานประกันสังคมจึงไม่เป็นความจริงและการที่ผู้ซื้อไปนำไปพัฒนาและรีโนเวทจน เกิดความสวยงาม สามารถใช้งานใช้ประโยชน์ได้ โดยใช้เงินพัฒนาและรีโนเวทไปหลายพันล้านแล้วขายต่อไปนั้นไม่เกี่ยวกับตนโดยสิ้นเชิง จะมีกำไรหรือขาดทุน ตนก็มิได้เข้าเกี่ยวข้องแม้แต่น้อยแต่อย่างใด


ใน​ระหว่าง​แถลงข่าว​ นายสันติ​ พร้อม​พัฒน์​ บิดา​ของ​นายพัฒนานั่งฟัง​อยู่​ด้วย​ จากนั้น​นายสันติ ให้​สัมภาษณ์​ว่า​ ไม่​ได้​เกี่ยว​ข้องกับการซื้อขาย​อาคาร​ Skyy9​ โดยการบริหาร​บริษัท​มอบหมาย​ให้​บุตรชายดูแเนื่องจาก​เรียนจบมาด้านบริหาร​ธุรกิจ​อสังหาริมทรัพย์​โดยตรง​

นายสันติ กล่าว​ว่า​ ตอนวอเตอร์​เกทซื้อ​อาคาร​ ICE มานั้น​ ได้​เคยสำรวจ​พื้นที่​ พบว่า​ ทรุดโทรม​ ไม่สามารถ​ใช้​งานส่วนใดได้​เลย​ ทราบว่า​ บุตรชายจะปรับปรุง​ แต่ต่อมา​ได้​ขายต่อไปตามสภาพ​ ภายหลัง​จึงได้เห็​นว่า​ ผู้​ซื้อ​ได้ปรับปรุง​จนสวยงาม​มาก​ แต่​ไม่ได้​มีความเกี่ยวข้อง​กัน

ทั้งนี้​ แม้นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระพาณิชย์​ และ สส.​พรรค​รวมไทยสร้าง​ชาติ​ อดีตเคยอยู่พรรค​พลัง​ประชารัฐ​ด้วยกัน​ แต่ไม่เคยประสานงาน​กันเกี่ยวกับ​การ​ซื้อ​ขายอาคารนี้​ของสำนักงาน​ประกัน​สังคม​ หลังชื่อ​ตัวเองถูก​พาดพิง​เข้า​ไปเกี่ยวข้อง​ก็ไม่ได้​สนใจ​อะไร​จึง​ไม่ได้ติดต่อกับนายสุชาติ​เพื่อ​พูดคุย​กัน​ มีเพียง​ลูก​ชายที่มาหารือว่า​ สมควร​แถลง​ข่าว​เพื่อ​ชี้แจง​ความจริง​ ก่อนที่สังคมจะเข้า​ใจคลาดเคลื่อน​ไป. -512 – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย