กรมพัฒนาธุรกิจฯ เผยธุรกิจตั้งใหม่ 2 เดือนแรกปี 68 กว่า 1.6 หมื่นราย

นนทบุรี 19 มี.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยธุรกิจตั้งใหม่ 2 เดือนแรกปี 68 กว่า 1.6 หมื่นราย สัดส่วนตั้งใหม่ต่อจดเลิก 7:1 ดีสุดในรอบ 5 ปี ต่างชาติยังไหลเข้าไทยกว่า 181 ราย เงินลงทุน 3.52 หมื่นล้านบาท ธุรกิจไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ยืนต้น รายได้ กำไรดี ขึ้นแท่นดาวเด่น ก.พ.68 ครองแชมป์ตลาดต่างประเทศ พร้อมเคาท์ดาวน์ 1 ก.ค. 68 ปิดเคาน์เตอร์จดทะเบียนแบบ walk in ใช้บริการออนไลน์ 100%


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 7,529 ราย ลดลง 579 ราย (-7.14%) เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (8,108 ราย) และทุนจดทะเบียนรวม 16,335 ล้านบาท ลดลง 4,027 ล้านบาท (-19.78%) เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (20,361 ล้านบาท) ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ขณะที่การจัดตั้งธุรกิจใหม่สะสม 2 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กุมภาพันธ์) มีจำนวน 16,391 ราย ลดลง 879 ราย (-5.09%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (17,270 ราย) ทุนจดทะเบียน 41,285 ล้านบาท ลดลง 4,509 ล้านบาท (-9.85%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (45,794 ล้านบาท) โดยธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร

การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวน 787 ราย เพิ่มขึ้น 81 ราย (11.47%) เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (706 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 2,417 ล้านบาท ลดลง 730 ล้านบาท (-23.19%) เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (3,146 ล้านบาท) สำหรับประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ขณะที่การจดทะเบียนเลิกสะสม 2 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กุมภาพันธ์) มีจำนวน 2,218 ราย เพิ่มขึ้น 320 ราย (16.86%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (1,898 ราย) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 7,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 656 ล้านบาท (10.31%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (6,361 ล้านบาท) โดยธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป, ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์


อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขการจดทะเบียนนิติบุคคลในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาดูจะชะลอตัวเพื่อรอดูสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลก แต่หากวิเคราะห์ในเชิงลึกจะเห็นว่าอัตรา การจัดตั้งธุรกิจต่อการจดเลิกในปี 2568 อยู่ที่ 7:1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่า 5 ปีย้อนหลัง (2563-2567) ที่มีสัดส่วน 4:1 หรือตั้ง 4 ราย เลิก 1 ราย

ด้านการลงทุนของชาวต่างชาติ 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2568) ) มีจำนวน 181 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 35,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ราย (68%) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 8,738 ล้านบาท (33%) โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 38 ราย จีน 23 ราย สิงคโปร์ 23 ราย สหรัฐอเมริกา 19 ราย และ ฮ่องกง 16 ราย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีองค์ความรู้เฉพาะด้านซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะแรงไทยให้มีเทคนิคการทำงานขั้นสูงขึ้น

สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2568) มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 57 ราย คิดเป็น 31% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 22 ราย (63%) มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 17,546 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศ ญี่ปุ่น 19 ราย ลงทุน 8,096 ล้านบาท จีน 14 ราย ลงทุน 2,751 ล้านบาท สิงคโปร์ 8 ราย ลงทุน 2,191 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจค้าปลีกสินค้า แม่พิมพ์ที่ใช้สำหรับผลิตชิ้นส่วนพลาสติก อุปกรณ์และชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมเครื่องทำความเย็น เป็นต้น


สำหรับธุรกิจที่น่าจับตามองในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 คือ ธุรกิจไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ยืนต้น สร้างรายได้และกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบัน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 มีนิติบุคคลในธุรกิจไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ยืนต้นจำนวน 2,993 ราย (แบ่งเป็นกลุ่มผลิต 383 ราย และกลุ่มขาย 2,610 ราย) มูลค่าทุนจดทะเบียน 17,670 ล้านบาท (กลุ่มผลิต 4,213 ล้านบาท และกลุ่มขาย 13,457 ล้านบาท) ในปี 2566 สามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 91,501 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มขาย โดยในปี 2566 สามารถสร้างรายได้สูงถึง 87,376 ล้านบาท กำไร 2,473 ล้านบาท ไปประเทศสหรัฐอเมริกา เวียดนาม และญี่ปุ่น อีกทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 9,325 ล้านบาท โดยกว่าครึ่งเป็นการส่งออกกล้วยไม้ 5,434 ล้านบาท ซึ่งไทยครองแชมป์ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลกมาอย่างยาวนาน โดยส่งออกไปประเทศจีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย กุญแจสำคัญของการเติบโตของธุรกิจนี้ คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาคนที่สามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพาะปลูกจึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ไทยมีแต้มต่อกว่าประเทศอื่นๆ

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ แจ้งผู้ใช้บริการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่บริการออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ประกาศปิดเคาน์เตอร์จดทะเบียนแบบ walk in หรือการยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลแบบกระดาษทั่วประเทศ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ตั้งทีมเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำการใช้ระบบ DBD Biz Regist หรือระบบจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลออนไลน์ 100% ให้ประชาชนหมดความกังวล ล่าสุด (ณ 16 มีนาคม 2568) มีผู้ใช้บริการผ่านทางออนไลน์คิดเป็น 36% ของผู้ใช้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลทั้งหมดทั่วประเทศ และเป็น 40% ของผู้ใช้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลที่กรมฯ และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทั้ง 6 เขต. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย