กรุงเทพ 19 มี.ค. – ผู้ว่าการ กทพ. เผยการรื้อย้ายซากคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวคืบหน้าเร็วกว่าแผน เตรียมเปิดใช้พื้นที่ทางเข้าด่านฯ ดาวคะนอง ในวันพฤหัสบดีนี้
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้างานรื้อย้ายซากปรักหักพัง ว่า ปัจจุบันมีความคืบหน้าเร็วกว่าแผนที่วางไว้ โดยได้เร่งทำงานเพื่อการดำเนินการรื้อย้ายซากฯ 22 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ และวันนี้ได้มีการปูผิวและตีเส้นจราจรให้กลับสู่สภาพเดิมพร้อมใช้งาน และรื้อย้าย Main truss (คาน โครงสร้างเหล็กเพื่อรับน้ำหนักคอนกรีต) ที่เสร็จแล้วออก รวมทั้งได้เชิญสภาวิศวกร เข้ามาตรวจสอบโดย กทพ. มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อตรวจสอบให้ได้ทราบสาเหตุที่ชัดเจน และวิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้น ให้แล้วเสร็จภายใน 20 วันนับจากวันรื้อย้ายฯ แล้วเสร็จ”
ทั้งนี้ กทพ. ได้รับรายงานความคืบงานรื้อย้ายฯ วันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 09.00น. ประกอบด้วย
1. Main truss (คาน โครงสร้างเหล็กเพื่อรับน้ำหนักคอนกรีต) รื้อออกได้ประมาณ 100%
2 โครงเหล็ก Tower Support (เสาเหล็กรับโครงสร้าง) รื้อย้ายได้ประมาณ 100%
3. H-beam (เหล็กเสริมรับโครงสร้าง) และเหล็กเสริมอื่นๆ รื้อได้ประมาณ 100%
4. สกัดคอนกรีตออกได้ประมาณ 100%
5. มีการเปิดใช้ทางเบี่ยงชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 เวลา 06:00 น. บริเวณหน้าด่านฯดาวคะนอง
ในการนี้ กทพ. จะพร้อมเปิดพื้นที่ทางเข้าด่านฯ ดาวคะนอง ได้ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2568 สำหรับหรับเดินทางมุ่งหน้าเข้าเมือง โดย กทพ. ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ในการจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ นายสุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และขออภัยประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีความตั้งใจประเด็นแรกคือ เยียวยาประชาชนในการพยายามเร่งรื้อย้ายและซ่อมแซมพื้นที่ทางเข้าด่านฯ ดาวคะนองให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด ส่วนสะพานที่ขาดยังคาดว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 30 วัน และประการที่สอง คือการเยียวยาผู้สูญเสียและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งต้องได้รับความการเยียวยาอย่างเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่า หากเจ้าหน้าที่ประมาทจะดำเนินการ ลงโทษทางวินัย และชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น.-513-สำนักข่าวไทย