สตง.เตรียมตรวจสอบถนนพระราม 2 ก่อนรายงานผลภายใน 30 วัน

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – สตง. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการถนนพระราม 2 โดยใช้แนวทางการตรวจสอบโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ มุ่งเน้นการบริหารจัดการความปลอดภัย โดยใช้แนวทางตรวจสอบจากต่างประเทศ ใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน ก่อนจะออกรายงานให้ทราบ


นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนพระราม 2 เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว โดย สตง.เตรียมลงพื้นที่โครงการถนนพระราม 2 เพื่อตรวจสอบโครงการนี้และจะนำเสนอผลการตรวจสอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการนโยบายพัสดุ เพื่อมิให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก โดยที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน มีอุบัติเหตุที่มีความสูญเสียและอุบัติเหตุร้ายแรงกับโครงการถนนพระราม 2 ถึง 10 ครั้งด้วยกันโดยความเสี่ยงสูงสุด คือ คอสะพานและโครงสร้างถล่มมีเปอร์เซ็นต์สูงที่สุดถึง 250 % ซึ่งการเก็บข้อมูลที่หน้างานบริเวณถนนพระราม 2 จะมีการประเมินมาตรฐานความปลอดภัย มีการบริหารจัดการความเสี่ยงอุบัติเหตุอย่างไร วิเคราะห์ด้านความปลอดภัยอย่างไร รวมทั้งความล่าช้า ล่าช้าเพราะอะไร โดยจะใช้เวลา 30 วันทำการนับจากนี้และจะทำเป็นรายงานเสนอต่อระดับนโยบายต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทาง สตง.ได้มีนโยบายที่จะเข้าไปตรวจทุกโครงการของรัฐที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านบาท 700 ล้านบาท และตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทเป็นต้นไปอีกด้วย โดยโครงการถนนพระราม 2 เป็นโครงการของกรมทางหลวง 13 ตอนซึ่ง สตง.ได้ตรวจสอบโครงการไปแล้วใน 3 ตอนแรก ส่วนอีก 10 ตอนยังไม่ได้ตรวจสอบ และเป็นของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยอีก 4 ตอนที่ สตง.ยังไม่ได้ตรวจสอบ

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจถนนพระราม 2 ครั้งนี้ ทาง สตง.ได้ศึกษาแนวทางการตรวจสอบด้านความปลอดภัยของโครงการขนาดใหญ่จากองค์กรตรวจเงินแผ่นดินในต่างประเทศ อาทิ สตง.เกาหลีใต้ ( BAI) สตง.เนเธอร์แลนด์ (NCA) สตง.สหรัฐอเมริกา (GAO) และ สตง.ออสเตรเลีย (ANAO) ซึ่งมีแนวทางการตรวจสอบที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลความปลอดภัยในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของไทย โดยสรุปได้ดังนี้


  1. การประเมินความเสี่ยงโครงการผ่านเครื่องมือที่เป็นระบบ สตง.เกาหลีใต้ได้พัฒนา Risk Analysis Model ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อคำนวณค่าความเสี่ยงและจัดระดับความเสี่ยงของโครงการขนาดใหญ่ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความซับซ้อนของโครงการ ประวัติผู้รับเหมา ประวัติอุบัติเหตุ และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย และปัจจุบัน สตง.ไทย ได้นำแนวทางนี้มาพัฒนาเป็น
    MIRA (Mega Project Integrity Risk Assessment) ซึ่งเป็นระบบประเมินความเสี่ยงที่สามารถช่วยกำหนด
    ระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่
  2. การสอบทานคุณสมบัติของผู้รับเหมาอย่างละเอียด สตง.สหรัฐอเมริกาใช้แนวทาง Past Performance Review เพื่อช่วยหน่วยงานรัฐในการสอบทานประวัติของผู้รับเหมาก่อนอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ โดยเน้นพิจารณาประวัติการทำงานก่อนหน้า อุบัติเหตุในอดีต และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย
  3. การนำเทคโนโลยีมาช่วยประเมินความปลอดภัย สตง.เนเธอร์แลนด์ได้นำเทคโนโลยี
    3D Modeling และ Simulation มาใช้ในการตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างก่อนเริ่มการก่อสร้าง
    เพื่อจำลองสถานการณ์และระบุจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
  4. การส่งเสริมความโปร่งใสผ่านรายงานความปลอดภัย สตง.ออสเตรเลียแนะนำให้หน่วยงานที่
    รับผิดชอบโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่รายงานความคืบหน้าด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และเปิดเผย
    ข้อมูลต่อสาธารณะ

โฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สตง. ให้ความสำคัญกับประเด็นความปลอดภัยในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยเน้นการนำแนวทางสากลและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการตรวจสอบ พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

วันฉัตรมงคล

เหล่าทัพยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

เหล่าทัพพร้อมใจ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

เชื้อแอนแทรกซ์ในซากวัว

พบเชื้อแอนแทรกซ์ในซากวัวที่มุกดาหาร ปศุสัตว์เข้มควบคุมโรค

กรมปศุสัตว์เผย พบเชื้อแอนแทรกซ์ในซากวัว รวมถึงเขียงและมีดที่ใช้ชำแหละ พร้อมเก็บตัวอย่างดินมาตรวจสอบพบเชื้อปนเปื้อนจากการชำระล้าง

หนีแตนตกเหว

หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก หนีฝูงแตนตกเหวตาย

หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก หนีฝูงแตนไล่ต่อย พลัดหลงกับก๊วน หายไปตั้งแต่ 1 พ.ค. เพื่อนช่วยกันออกตามหา แต่ไร้วี่แวว ล่าสุดพบร่างตกเหว เขาห้วยผีหลอก