ก.เกษตรฯ พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – กรมส่งเสริมการเกษตรจัดงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ” หวังยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่ สู่การแข่งขันระดับโลก ด้าน “นฤมล” เผยอยากให้โยกอุตสาหกรรมอาหาร – เกษตร มารวมภาคการเกษตร เพื่อให้ภาคนโยบายเห็นความสำคัญของเกษตรกรไทยมากขึ้น


ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ” และกล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “เกษตรผสานธุรกิจ : ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต” ว่าภาคเกษตรถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรหลายล้านคน แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่ม กระทรวงเกษตรฯ จึงมุ่งพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรรุ่นใหม่สู่ผู้ประกอบการเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น โดยบูรณาการการเกษตรเข้ากับแนวคิดธุรกิจสมัยใหม่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถสร้าง New S-curve ด้านเกษตรกรรม และแข่งขันได้ในระดับโลก โดยการสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ เกษตรอุตสาหกรรมและธุรกิจเกษตร เพื่อให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ลดความเหลื่อมล้ำ

“กระทรวงเกษตรฯ มุ่งให้พี่น้องเกษตรกรไปเป็นเครื่องจักรใหม่ๆ ให้ภาคการเกษตรไทย แทนที่จะขายผลสด ขายวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว เราก็อยากให้กลายเป็นอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมภาคการเกษตร เพื่อต่อยอดให้เกษตรกรไทย เรามีโปรดักซ์แชมป์เปี้ยนอีกหลายตัว ปีนี้ที่อยากจะทำก็มีโกโก้ กาแฟ ถั่วเหลือง รวมฟิวเจอร์ฟู๊ดอย่างไข่ผำ วนิลลาที่กรมส่งเสริมสนับสนุนอยู่ กระทรวงเกษตรฯ พยายามผลักดันให้เกษตรกรต่อยอดแปรรูป แต่ผลผลิตที่ได้กลับถูกนำไปรวมเป็นอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอย่างอื่น จึงทำให้ภาคเกษตรมีสัดส่วนเพียง 8-9% ของจีดีพี แต่หากรวมทุกอย่างที่มีต้นน้ำมาจากภาคเกษตร ทั้งอาหาร ยางพาราแปรรูป เช่นยางล้อรถยนต์ ก็น่าจะสูงถึง 33% ของจีดีพี ซึ่งนับเป็น 1 ใน 3 ของจีดีพี ดังนั้นจึงอยากเอาอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากยางพารามาอยู่ในส่วนของภาคการเกษตรด้วย เพื่อที่ผู้วางแผนนโยบายจะได้เห็นความสำคัญของเกษตรกรไทย เพราะเอกชนไม่สามารถสร้างจีดีพีเองได้ ต้องอาศัยต้นน้ำจากเกษตรกรไทย” ศ.ดร.นฤมล กล่าว


นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ และวิสาหกิจชุมชนสู่ผู้ประกอบการเกษตร (Agriperneurs) ที่มีทักษะสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ Growth Mindset and Anti Fragile, Learning Skill, Financial Literacy, Digital Literacy และ ESG Literacy for Resilience เพื่อให้สามารถเรียนรู้ ประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาจากประสบการณ์จริง เพื่อปรับเพิ่มผลิตภาพการผลิต พร้อมกับการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สู่การเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพื่อสร้าง New Agricultural S Curve เกิดเป็นรายได้ใหม่ที่นำไปสู่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรที่เติบโตขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งโจทย์สำคัญของการขับเคลื่อน คือ เกษตรกรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานจะต้องมีความตระหนักถึงผลกระทบ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มีทัศนคติเชิงบวก และพัฒนาทักษะสมัยใหม่อยู่เสมอ เพื่อบรรเทาผลกระทบและสามารถปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ระบบเศรษฐกิจที่มีการเชื่อมต่อกันของผู้บริโภคและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสให้ภาคการเกษตรของไทยในการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานสินค้าที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจพลังงานชีวมวล ธุรกิจวัสดุชีวภาพ ธุรกิจเวชสำอาง ธุรกิจเภสัชภัณฑ์ ฯลฯ

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนสู่ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เช่น เจลโปรตีนผำ ใช้นวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การเป็นอาหารแห่งอนาคต โดยการใช้คุณสมบัติของผำ พืชที่อุดมด้วยโปรตีน และคุณค่าทางโภชนาการสูง ถูกยกให้เป็นซูเปอร์ฟู้ด ที่มีกรดอะมิโนจำเป็น เช่น ไลซีน ที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย และระบบประสาท มาสกัดเป็นเจลโปรตีน ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคสายรักสุขภาพในปัจจุบันและอนาคต นี่จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทยในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบโจทย์เทรนด์อาหารแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง รวมถึง Fine Robusta กาแฟสำเร็จรูป พัฒนาในรูปแบบของ Biodegradable Capsule ใช้พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และ Immersion Bag สร้างโอกาสทางการตลาด ตอบโจทย์ทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นก้าวสำคัญในการทำให้กาแฟไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก ด้วยความยั่งยืนและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ยุคสมัย

โดยภายในงานมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชน รวม 15 ธุรกิจ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนสู่ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เช่น โมเดลธุรกิจน้ำกระชายกระป๋องอัดก๊าซ จากวิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ จังหวัดสระบุรี, โมเดลธุรกิจสแน็คบาร์กล้วย วิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา จังหวัดราชบุรี, โมเดลธุรกิจกาแฟแคปซูล จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสดสตรีคลองท่อมเหนือ จังหวัดกระบี่, โมเดลธุรกิจเจลลี่ผำ จาก Young Smart Farmer นายณัฐวุฒิ จันทร์เรือง จังหวัดจันทบุรี, โมเดลธุรกิจ ไซรัปวนิลา จาก Young Smart Farmer นางสาวพาพร โตอินทร์ จังหวัดนครราชสีมา และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ จำนวน 10 ธุรกิจ เช่น ลำไยฟรีซดรายสอดไส้สตรอเบอรี่ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบ กระเจี๊ยบกรอบ น้ำมะนาวพร้อมดื่ม เลม่อนมีฟาร์ม ข้าวเกรียบปูนา เครื่องดื่มกล้วยผงสำเร็จรูป ผงโรยข้าวสูตรผักเคลผสมปลา และน้ำผักโขมผสมฟักทอง. -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย