กรุงเทพฯ 13 มี.ค. – วงการพลังงานคาด กฟผ.ลงนาม สหกลฯ ขุดเหมืองแม่เมาะเร็วๆ นี้ หลังคณะทำงานตรวจสอบฯ รมว.พลังงาน ไม่ชี้เรื่องการทุจริตประมูล และให้เดินหน้าตามอำนาจหน้าที่ ด้านสหกลฯ ส่งหนังสือทวงถามต่อผู้ว่าการ กฟผ. ให้เร่งลงนามในสัญญาภายใน 7 วัน ไม่เช่นนั้นจะขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดี
รายงานข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งว่า นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ.เตรียมทำหนังสือชี้แจงถึง กระทรวงพลังงาน หลังจากที่ นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทำหนังสือถึงผู้ว่าการ กฟผ. ลงวันที่ 7 มี.ค.2568 เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีงานจ้างเหมาชุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะของ กฟผ.พร้อมกับส่งสรุปรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ และให้ กฟผ.พิจารณาดำเนินการตามความถูกต้องเหมาะสมและตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งไม่ได้มีการชี้เรื่องการประมูลที่ทุจริตจนต้องยกเลิกประมูลแต่อย่างใด ดังนั้น ในเร็วๆ นี้ จึงเป็นที่คาดว่า ทาง กฟผ.จะมีการลงนามกับ ผู้ชนะประมูล คือ บริษัท สหกลอิควิปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และจะมีการชี้แจงข้อสงสัยตามหนังสือของ นางสาวอรพินทร์
ทั้งนี้ บริษัท สหกลอิควิปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ ชนะ ประมูลงานเหมา-ชุดดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 81/จำนวน 2 รายการ วงเงิน 7,250 ล้านบาท โดย กฟผ.ประกาศให้ชนะประมูล เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขการประมูลและเป็นผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุด ต่อมา บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) อุทธรณ์ผลการคัดเลือก ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การจัดซื้อจัดจ้างสายงานรองผู้ว่าการเชื้อเพลิงของ กฟผ. ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ได้พิจารณาและวินิจฉัยยกคำร้องของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และต่อมานายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2567 นั้น ซึ่งคณะกรรมการฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว
ล่าสุดทาง สหกลฯทำหนังสือทวงถาม จาก กฟผ. ให้เร่งลงนามในสัญญาภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ โดยลงวันที่ในหนังสือวันที่ 5 มีนาคม 2568 ไม่เช่นนั้น จะขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำให้โครงการล่าช้าทั้ง คดีทั้งทางปกครอง อาญาและแพ่ง นอกจากนี้บริษัทมีความกังวลว่า หากงานจ้างเหมาขุดขนดินและฐานที่เหมืองแม่เมาะสัญญาที่ 8/1 เกิดความล่าช้าออกไป ย่อมส่งผลกระทบต่อแผนงานที่บริษัทได้เสนอไว้ต่อ กฟผ. และกระทบต่อระยะเวลายืนราคาค่าจ้าง อันทำให้บริษัทต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับหนังสือที่นางสาวอรพินทร์ ทำถึงผู้ว่าการ กฟผ. ลงวันที่ 7 มี.ค.2568 นอกจากขอให้ผู้ว่า กฟผ.พิจารณาดำเนินการตามความถูกต้องเหมาะสมและตามอำนาจหน้าที่แล้ว ยังมีประเด็นที่เป็นข้อสังเกต เช่น กรณีความจำเป็นเร่งด่วนของการจัดจ้าง การว่าจ้างชุดขนถ่านหินแม่เมาะสามารถดำเนินการได้ โดยการเปิดประมูลตามปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ เพราะตามเงื่อนไขสัญญาที่ 4 จะสิ้นลงช่วงสิ้นปี 2568 โดยประเด็นเหล่านี้ ทาง ผู้ว่า กฟผ.เตรียมชี้แจง เช่น การใช้เชื้อเพลิงถ่านหินจากแม่เมาะ มีต้นทุนที่ต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการนำเข้าเชื้อเพลิงก๊าซแอลเอ็นจีเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชนและทุกภาคส่วนมีต้นทุนถูกลง.-511- สำนักข่าวไทย