“พิชัย” เร่งผลักดันลงทุนใหม่ หวังดันจีดีพีปี 68 โต 3.5%

กรุงเทพ 12 มี.ค. – “พิชัย” เร่งผลักดันลงทุนใหม่ หวังดันจีดีพีปี 68 โต 3.5% เชื่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เป็นโอกาสของไทยเพราะทำเลเชื่อมต่อจาก 2 มหาสมุทร คือมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งที่ตั้งของไทยล้อมรอบด้วยประชากรโลก 600-700 ล้านคน ขณะที่เลขาธิการบีโอไอ ชี้ ไทยต้องสร้างจุดแข็งในอุตสาหกรรม 5 สาขา


นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถา เรื่อง “ความพร้อมประเทศไทยเพื่อการเป็นจุดหมายการลงทุนระดับโลก” ในงาน Ignite Thailand: Invest in Endless Opportunities จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ว่า ในช่วงมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไทยเราอาจจะมีกิจกรรมด้านการลงทุนที่น้อยไปหน่อย โดยเฉพาะกับต่างประเทศ ฉะนั้นใน 3-6 เดือนแรกของรัฐบาลก็ใช้เวลาไปกับการทำความรู้จักกับตลาดไม่ว่าจะเป็นทางสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือ ในทวีปเอเชียซึ่งประเทศเหล่านี้มีความคุ้นเคยกับไทยมายาวนานกว่า 60 ปี

นายพิชัย กล่าวว่า โดยหลังจากนั้นก็จะเห็นว่านักลงทุนต่างประเทศเหล่านั้น ก็เข้ามาลงทุนในไทย แต่เป็นอุตสาหกรรมที่เฉพาะ อาทิ ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ภาคการเกษตร ไบโอเทคโนโลยี รวมไปถึงด้านการท่องเที่ยวและบริการ สะท้อนจากตัวเลขในปี 2567 ที่มียอดคำขอบีโอไอสูงเป็นประวัติการณ์ รวมมูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และรถยนต์ไฮบริด และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกัน จากเรื่องปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองโลกในตอนนี้เป็นจังหวะ ที่หลายคนบอกว่าเป็นวิกฤต แต่ตนมองว่าเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย


ทั้งนี้การที่จะประกาศว่าประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการจะเป็นศูนย์กลางของการลงทุนในภูมิภาคเหมือนที่เคยเป็นในอดีตนั้น สิ่งแรกที่นักลงทุนถามคือ เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ซึ่งในอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน ไทยเคยมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง แม้จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ขณะนั้นเป็นช่วงที่มีฐานต่ำ และจากนั้นก็รักษาอยู่ในระดับ 4-6% ต่อปี จนมาถึงช่วงโควิดก็ลงมาต่ำประมาณ 2% ดังนั้นวันนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่เศรษฐกิจไทย จะเจริญเติบโตในระดับ 3-3.5% ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลในปีนี้ แต่คงไม่ใช่เป้าหมายนระยะยาว

นายพิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นจุดหมายของการลงทุน โดยเรื่องแรกคือ ทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยประชากรโลก 600-700 ล้านคน เรื่องที่สอง คือ ไทยเราน่าจะเป็นประเทศเดียวที่สามารถเป็นจุดเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก กับมหาสมุทรอินเดีย ที่เป็นการเชื่อมคนขายและคนซื้อทรัพยากร เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงเร่งทำโครงการรถไฟรางคู่เพื่อเชื่อมต่อทุกจุดให้ลื่นไหล โดยรถไฟรางคู่จากกรุงเทพเชื่อมถึงประเทศลาวจะเสร็จสิ้นในอีก 4 ข้างหน้า นอกจากนี้ไทยยังมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าสูง ถึงแม้เศรษฐกิจจะโตต่ำแต่ไทยก็มีการลงทุนด้านการผลิตไฟฟ้า จนทำให้เกิดการผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการที่จะใช้ในประเทศแล้ว คาดว่ามากกว่า 1 หมื่นเมกะวัตต์ จึงเป็นโอกาสที่ดีในดึงดูดลงทุน เหลือแค่ว่าจะทำอย่างไรให้มีราคาไฟฟ้าที่เหมะสม และแข่งขันได้ รวมถึงการผลิตไฟฟ้าอย่างไรให้มีความเป็นสีเขียว และรัฐบาลก็เร่งสนับสนุนในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอินเตอร์เน็ต 5 จี ก็มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ส่วนด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยนั้น ยืนยันว่ามีเสถียรภาพทางการคลังยังคงเข้มแข็ง แม้ว่ามีจีดีพีจะเติบโตไม่สูง แต่พื้นฐานจากในอดีตทำให้ไทยมีความมั่นคงทางการคลัง และมีเม็ดเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐอยู่เสมอ ซึ่งสูงกว่าหนี้ระยะสั้นของไทยที่มีอยู่ในต่างประเทศมากถึง 3 เท่ารวมไปถึงประเทศไทยมีสภาพคล่องที่ยังเหลืออยู่จำนวนมากซึ่งคาดว่ามีเม็ดเงิน 4 ล้านล้านบาท ที่รอไปใช้เพื่อการลงทุน ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจธนาคารไทยมีความแข็งแรง ที่ผ่านมานักลงทุนอาจจะรู้สึกว่าการทำงานระบบราชการช้า วันนี้รัฐบาลก็ได้เริ่มปรับปรุงในเรื่องการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ โดยระยะแรกคือ การทำศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service และในระยะถัดไปก็จะต้องยกระดับไปสู่การอนุมัติอัตโนมัติ (automatic approval) บนดิจิทัลแพลตฟอร์ม

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวเสวนาในหัวข้อ “การขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมใหม่ ว่า ไทยต้องสร้างจุดแข็งใหม่ในอุตสาหกรรม 5 สาขา คือ 1.การส่งเสริมในอุตสาหกรรม BCG ซึ่งในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 2,523 โครงการ มูลค่าการลงทุน 5.4 แสนล้านบาท เช่น การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ SAF ในอุตสาหกรรมการบิน การผลิต Cellulosic Enzyme จากวัตถุดิบดิบธรรมชาติเป็นน้ำตาลกลูโคส การผลิตพลาสติกชีวภาพ 2.การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีวี และชิ้นส่วน ในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 644 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2.8 แสนล้านบาท เช่น MAZDA มีแผนขยายการลงทุนเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท NISSAN มีแผนผลิต HEV รุ่นใหม่ MITSUBISHI MOTOR มีแผนเปิดตัว HEV รุ่นใหม่ และ ISUZU จะเริ่มผลิตรถกระบะ BEV เพื่อส่งออกไปนอร์เวย์ในปีนี้ 3. การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิคส์ขั้นสูง ในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 406 โครงการ มูลค่าการลงทุน 6.1 แสนล้านบาท 4. การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 27 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2.9 แสนล้านบาท และ 5.การส่งเสริมการลงทุนใน International Business Center


ทั้งนี้ระหว่างปี 2565-2567 มีการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวม 7,352 โครงการ สร้างงานให้คนไทยมากกว่า 4 แสนตำแหน่ง ใช้วัตถุดิบในประเทศมูลค่ามากกว่า 2.8 ล้านล้านบาท และมีรายได้จากการส่งออกมากกว่า 5.5 ล้านล้านบาท

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อว.ได้เตรียมแผนพัฒนาบุคลากรรองรับการสร้างอุตสาหกรรมอนาคต โดยมีเป้าหมายใน 5 ปี จะผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงจำนวน 80,000 คน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 150,000 คน และ AI 50,000 คน ผ่านการ Upskill / Reskill การจัดหลักสูตรพิเศษ Sandbox และการให้ทุนวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง STEM One-Stop Service ที่ร่วมกับบีโอไอในการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนที่มีการลงทุนพัฒนาบุคคลในอุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังมีกลไกของกองทุนวิจัยที่สนับสนุนการพัฒนานักวิจัยเพื่อรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ของโลกการลงทุน โดยเฉพาะความผันผวนด้านพลังงานของโลก โดยแผน PDP ฉบับใหม่ ได้เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จากร้อยละ 22.6 ในปี 2567 เป็นร้อยละ 51 ในปี 2580 หรือเพิ่มขึ้น 63,867 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมสีเขียว โดยใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการยกระดับพลังงานไทย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ (Grid Modernization) รองรับการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าของไทยให้มีความมั่นคง มีราคาที่เหมาะสม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการจัดทำ Direct PPA ใน 2 รูปแบบ รูปแบบแรก คือ กลไกการจัดหาพลังงานสะอาด (Utility Green Tariff: UGT) สำหรับภาคอุตสาหกรรมผ่านการไฟฟ้า รูปแบบที่สอง เปิดให้เอกชนซื้อไฟฟ้าผ่านบุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) โดยมีโครงการนำร่องในการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จำนวน 2,000 เมกะวัตต์ให้กับธุรกิจ Data Center

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเติบโตบนพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัล โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2570 มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล จะมีสัดส่วนร้อยละ 30 ของจีดีพี และก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับ 30 ของประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของโลก ซึ่งในปี 2567 ไทยอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน โดยปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ จากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

กระทรวงดีอี พร้อมสนับสนุนความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายด้านการลงทุน โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในหลาย ๆ ด้าน เช่น นโยบาย “Cloud First” เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลและบริการคลาวด์ของภูมิภาค การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รวมทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อสนับสนุนการลงทุน เช่น การทำธุรกรรมออนไลน์ สิทธิพิเศษด้านภาษี และการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

“วันหงส์แดงแห่งชาติ” ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์สมัยที่ 20

25 พ.ค. – แฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย จัดงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 20 โดยมี ยอห์น อาร์เน่ รีเซ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล ร่วมขึ้นรถแห่ฉลอง.-สำนักข่าวไทย

งานวิ่งทิพย์ไร้ผู้จัด นักวิ่งกว่าพันคนโดนเท

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – นักวิ่งนับพันคนโดนเทในงานวิ่งทิพย์ “Run for destination” แห่แจ้งความวุ่น ขณะที่สาวชุดดำ หนึ่งในสตาฟฟ์ โผล่มาคนเดียว ประกาศคืนเงินคนละ 10 บาท เรื่องวุ่นๆ ของคนรักวิ่ง เช้านี้ (25 พ.ค.) นักวิ่งถึงกับมึนเมื่อโดนผู้จัดงานเท กลายเป็นงานวิ่งทิพย์ มีแค่ซุ้มประตู เต็นท์กิจกรรม และรถห้องน้ำ แต่ไม่มีผู้จัด หนึ่งในสตาฟฟ์โผล่มาคนเดียว บอกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม จึงไม่ทราบผู้จัดและทีมงานถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า (25 พ.ค. 68) เมื่อนักวิ่งต่างแห่แชร์ในโลกโซเชียล งานวิ่ง Run For Destination 2025 เป็นงานวิ่งทิพย์ ตามกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ และทุกอย่างพร้อม นักวิ่งพร้อม แต่ไม่มีผู้จัดงาน โดนเทกันครั้งใหญ่ สำหรับงานวิ่ง Run For Destination 2025 มีกำหนดวิ่งในวันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 […]

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจ ฮ.ตก

25 พ.ค. – พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้าน ผบ.ตร. สั่งเร่งสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาและให้กำลังใจครอบครัว ความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ 3 นายตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี, ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ค.) ขณะเฮลิคอปเตอร์กำลังบินจาก […]

นายกฯ จ่อถกนอกรอบเมียนมา แก้น้ำท่วมเชียงราย

บน.6 25 พ.ค. – นายกฯ เตรียมถกนอกรอบเมียนมา แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย บอกสถานการณ์คลี่คลายเร็ว เพราะเตรียมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ว่า เรื่องสารปนเปื้อนได้สั่งการแล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดต่อ ซึ่งได้มีการคุยกันนอกรอบแล้ว และมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้คลี่คลายลงแล้ว มีการจัดตั้งโรงครัวดูแลพี่น้องประชาชน และจากที่พื้นที่แจ้งมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้คลี่คลายได้เร็ว เพราะเรามีบทเรียนจากปีที่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เป้าหมายของเราจะทำอย่างไรไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ไม่ให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดิม อะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วต้องเบาลงทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม จะต้องเบาลง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ฤดูฝนนี้เรามีการขุดลอกคูคลอง ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว จึงทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ไม่หนัก ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะมาก ส่วนเส้นทางของน้ำที่เราตกลงกับเมียนมา ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ในส่วนของเราเริ่มแล้ว แต่บังเอิญทางเมียนมามีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหว เขาจึงเริ่มช้ากว่าเรา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพคุยหมดแล้ว และเขาเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มแล้ว การที่ตนไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน […]