ปตท.พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง สร้างความมั่นคง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – ซีอีโอ ปตท.พร้อมรับรับการเปลี่ยนแปลง สร้างความมั่นคง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน กำหนด 3 แผนหลัก เน้นลงทุนในสิ่งที่ถนัด พร้อมหาพันธมิตรเสริมแกร่ง ยอมรับปีนี้เสี่ยงทั้งนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ลดลง


ราคาหุ้น ปตท.ช่วงนี้ปรับตัวลงมาต่อเนื่องจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โบรกเกอร์ระบุสะท้อนผลประกอบการชองบริษัทลูกที่อ่อนแอ นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ซีอีโอ ปตท. ระบุราคาหุ้นที่ลดลง ก็เป็นไปตามทิศทางหุ้นไทยที่ลงทั้งตลาด และส่วนหนึ่งก็มาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงต่ำกว่า 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ในส่วนของพื้นฐาน ปตท.ยังเป็นไปได้ดี ทั้งแผนธุรกิจ กระแสเงินสด รวมถึงเงินปันผลยังมีผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตาม ปตท.พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง สร้างความมั่นคง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แม้ว่าวันนี้จะมีความท้าทายทั้งปัจจัยภายในองค์กรและปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็น นโยบายทรัมป์ 2.0 การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยมีก๊าซธรรมชาติเป็น Transition Fuel อุตสาหกรรมเคมีทั่วโลกอยู่ในวัฏจักรขาลง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ , Digital & AI Acceleration รวมถึงนโยบายพลังงานของภาครัฐ ทั้งแผนพลังงานชาติ Single Pool GAS, การเปิดเสรีก๊าซฯ ขณะที่ ปตท.เองก็ต้องดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล ดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล, ปรับตัว กลับมามุ่งการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ เพื่อให้พลังงานมีความมั่นคง ต้นทุนเหมาะสม และหาแหล่งพลังงานสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดสู่ก๊าซ – ปิโตรเคมี เพื่อให้สภาวะการแข่งขันของโลกมีผลต่อ ปตท.น้อยที่สุด

ดังนั้นที่ผ่านมาและปีต่อๆ ไป ปตท.จะลงทุนเฉพาะสิ่งที่สร้างความมั่นคงทางพลังงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2568 มุ่งสร้างความมั่นคงและการเติบโตด้วยการลงทุนที่สร้างผลกำไร ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และสร้างเสถียรภาพให้ธุรกิจเติบโตอย่างชาญฉลาด บูรณาการความยั่งยืนเข้าสู่การดำเนินธุรกิจ ลดต้นทุน ลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนเร็ว ลดความเสี่ยง ซึ่ง ปตท.และบริษัทในกลุ่มจะร่วมมือกัน เน้นสร้างความมั่นคงและเติบโต ไม่ใช่ว่า ปตท.จะไม่ลงทุนแต่การลงทุนจะดูความคุ้มทุนเพื่อสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดด


“ช่วงนี้หุ้นไทยลงทั้งตลาด ในส่วนของ กลุ่ม ปตท.มองว่าส่วนหนึ่งเพราะราคาน้ำมันลงเยอะ ช่วงหลังราคาน้ำมันลงต่ำกว่า 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ในส่วนของ fundamental ทั้ง business plan , clash flow รวมถึงการมีความมั่นคง ปันผลยีลด์สูง เป็นคอมมิทเมนต์ที่จะต้องจ่ายให้ต่อเนื่อง ด้านลงทุนต่างประเทศ นักวิเคราะห์ก็ชอบที่เราออกจากสิ่งที่ไม่ถนัด ไม่ทำอะไรในสิ่งที่เป็นความเสี่ยงในช่วงนี้” นายคงกระพัน กล่าว

สำหรับแผนธุรกิจของ กลุ่ม ปตท. ดำเนินการด้วยกลยุทธ์ 3 แผน ทั้งระยะสั้น,กลางและระยาวโดย ระยะสั้น ประกอบด้วย ปรับโครงสร้าง Non-Hydrocarbon ซึ่งธุรกิจไหนทำแล้วไม่มีอนาคตก็ออกให้เร็วเพิ่มความคล่องตัวแล้วนำเงิน และเวลาไปทำสิ่งที่ถนัด ,โครงการ D1- Domestic Products Mgmt ซึ่งมีการเพิ่มมูลค่าต่อยอดจากโครงการ P1 สามารถทำกำไรเพิ่มกว่า 3 พันล้านบาทต่อปีภายใน 3 ปี ,นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนผ่านแนวคิด MissionX-Operational Excellence มีเป้าหมายเพิ่ม EBITDA ของกลุ่ม ปตท. ประมาณ 30,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 และDigital Transformation เพิ่มรายได้กว่า 2 พันล้านบาทต่อปี ภายใน 2 ปี

ระยะกลาง จะทำการ Reshape P&R Portfolio ปรับพอร์ตของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น หาพาร์ทเนอร์ที่แข็งแรงมาเสริมแกร่ง และเดินหน้า LNG Hub เพราะปัจจุบันไทยนำเข้า LNG รวม 10 ล้านตัน ซึ่งมองว่ายังมีดีมานด์ จึงมองว่าธุรกิจเทรดดิ้งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างผลกำไรได้หลักแสนล้านบาท โดยจะสร้างคลังแอลเอ็นจีเพิ่มอีกหรือไม่ก็ต้องดูเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสนับสนุนให้อีก 30-40 ปีข้างหน้า


  1. ระยะยาว ปัจจัยด้านความยั่งยืนจะเข้ามาขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งกลุ่มปตท.จะลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี มุ่งไปที่ CCS และ Hydrogen เพื่อให้สามารถแข่งขันในโลกได้ในสภาวะที่มีการเปลี่ยนผ่านพลังงานลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่ง ปตท.และบริษัทในกลุ่มจะร่วมมือกัน โดยกลุ่ม ปตท.อยู่ระหว่างทบทวนแผนงานเป้าหมาย Carbon Neutrality 2040 และ Net Zero 2050 ใหม่อีกครั้ง ตามบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่เทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดเล็ก หรือ SMR อยู่ระหว่างศึกษาโดย บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PTT เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ต่ำสุดที่ 27 บาทจากราคาต่ำสุดเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 63 ที่ 26.50 บาท ทั้งนี้ PTT ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 67 อัตรา 2.10 บาท/หุ้น จ่ายปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.80 บาท/หุ้น คงเหลือจ่ายอีก 1.30 บาท/หุ้น โดยหุ้นขึ้น XD ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 29 เม.ย.68 ขณะที่ผลประกอบการปี 67 มีกำไรสุทธิ 90,072 ล้านบาท ลดลง 19.6% จากปี 66

บล.ฟิลลิป ระบุว่า กลยุทธ์การเติบโตของ PTT จะเน้นธุรกิจหลักหรือธุรกิจพลังงาน ซึ่งการขยายธุรกิจใหม่จะค่อนข้าง conservative มากขึ้น สำหรับประเด็นเรื่องการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น จะเน้นที่การหาพันธมิตรเข้ามาเสริมความสามารถของแต่ละบริษัทในกลุ่ม มุมมองการลงทุน ทางฝ่ายยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 40.00 บาท สำหรับเป็นหุ้นปันผลระยะยาว โดยคาด yield ปี 68 ที่ 4-6%

ด้าน บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ Neutral โดยภาพปี 68 ยังขาดปัจจัยสนับสนุน โดยการฟื้นของธุรกิจก๊าซฯ ถูกดึงลงจากกำไรที่ลดลงของบริษัท ลูก รวมถึงยังมี overhang ความเสี่ยงด้านกฏเกณฑ์ ซึ่งการเจรจากับภาครัฐยังมีความไม่แน่นอน

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ประเมินว่า PTT ได้รับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายราคาก๊าซแบบสองอัตรา (Two tier gas pricing) หรือการขอสนับสนุนเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อลดค่าไฟฟ้าในครัวเรือน ส่งผลให้ PTT อาจขายก๊าซฯ ในปริมาณที่ลดลง.-514, 511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]