กรุงเทพฯ 10 มี.ค.-หุ้นไทยช่วงบ่ายลดลงต่อเนื่องร่วง 18 จุด ผลกระทบจากเงินเฟ้อของจีนติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน และแรงกดดันจาก DELTA ที่ปรับตัวลงแรง
เมื่อเวลา 15.08 น.หุ้นไทยยังร่วงต่อเนื่อง 18 จุด ดัชนี SET อยู่ที่ประมาณ 1,183 จุด ร่วงแรงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาครองจากตลาดหุ้นฮ่องกง ถูกกดดันจาก Sentiment ต่างประเทศ ทั้งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอกว่าคาด รายงานตัวเลขดัชนีผู้บริโภค (CPI) หรือเงินเฟ้อของจีนติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ส่วนในประเทศ ตลาดได้รับแรงกดดันจาก DELTA ที่ปรับตัวลงแรง แม้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบหลักการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทเฟส 3 ให้กับประชาชนวัย 16-20 ปี ก็ตาม
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผอ.สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันนี้ อาจจะไม่ช่วงสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่การผลักดันมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเรื่องของการออมเงินในโมเดลของญี่ปุ่นที่เรียกว่า Nippon Individual Saving Account (NISA) ซึ่งอาจใช้ชื่อในไทย Thailand Individual Saving Account (TISA) ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย ก็คาดว่าจะมีความชัดเจนและเกิดขึ้นในปีนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดหุ้นไทยบางก็ตาม รวมทั้งการแก้เกณฑ์ในการซื้อหุ้นคืน ที่มีข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง หากมีการปลดล็อกปัญหาต่างๆ ได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยฟื้นความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ โครงการ Jump+ ที่เอื้อให้เกิดการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจ ก็เป็นมาตรการที่ดี ซึ่งต้องจับตาดูผลลัพธ์จากมาตรการเหล่านี้ว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักได้มากน้อยแค่ไหน โดยมองว่ามาตรการเหล่านี้ออกมาตรงจุดกับความต้องการของตลาดหุ้นไทย
“ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยเกิดจากการปรับลดคาดการณ์กำไร และผลกระทบจากสงครามการค้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้ประเมินเป็นตัวเลขหมดแล้ว มองว่าระดับดัชนีฯที่ 1,150- 1,100 จุด ถือได้ว่าเป็นจุดต่ำสุดของตลาดฯแล้ว หากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามาอีก ขณะนี้ถึงจุดกลับตัวในลักษณะของการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวที่เน้นผลตอบแทนในระยะสั้น โดยมองว่าควรเลือกซื้อหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 4/67 ออกมาดี และคาดว่าจะดีต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/68 เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, โรงแรม และสายการบิน” นายวิกิจ กล่าว.-511.-สำนักข่าวไทย