เงินเฟ้อ ก.พ.เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.08

กรุงเทพฯ 7 มี.ค.-เงินเฟ้อ ก.พ.เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.08 ปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนทั้งปีนี้ ยังอยู่ในเป้าเดิม 0.3-1.3%


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับ 100.55 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเท่ากับ 99.48 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 1.08 (YoY) โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหารสำเร็จรูป ประกอบกับมีการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าโดยสารเครื่องบิน สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อเดือน มี.ค.2568 ใกล้เคียงเดือน ก.พ.2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 29.92 บาทต่อลิตร การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน และวัตถุดิบต้นน้ำของสินค้าเกษตรบางชนิดราคายังอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะพืชสวน เช่น กาแฟ ปาล์มน้ำมัน และมะพร้าว ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ขั้นกลางหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้น เช่น กาแฟ น้ำมันพืช และกะทิ เป็นต้น และเงินเฟ้อไตรมาสแรก คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1-1.2% เพราะฐานปีที่แล้วต่ำ ส่วนไตรมาส 2 คาดเพิ่ม 0.5% เพราะฐานปีที่แล้วเริ่มขยับสูงขึ้น ส่วนทั้งปี ยังอยู่ในเป้าเดิม 0.3-1.3% ค่ากลาง 0.8%


ทั้งนี้ มีปัจจัยที่จะทำให้เงินเฟ้อลดลง เช่น การลดลงของราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้า และคาดว่าจะส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลง ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

สำหรับรายละเอียด อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน ก.พ.ที่สูงขึ้นร้อยละ 1.08 (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 0.99 (YoY) เร่งตัวขึ้นจากเดือนมกราคม 2568 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.83 (YoY) ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2568 ลดลงร้อยละ 0.02 (MoM) โดยมีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้ หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 2.03 (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลไม้สด (กล้วยน้ำว้า ฝรั่ง แตงโม สับปะรด) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (ปลานิล กุ้งขาว เนื้อสุกร ปลาทูนึ่ง ปลาหมึกกล้วย ปลาทู) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง กะทิสำเร็จรูป) กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ) กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน น้ำตาลทราย) และกลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม (นมสด ไข่เป็ด) อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสดบางชนิด (มะนาว พริกสด ผักคะน้า มะเขือ ผักชี ผักกาดขาว) ผลไม้บางชนิด (องุ่น แก้วมังกร) ไก่ย่าง/ไก่ทอด และซีอิ๊ว เป็นต้น

หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.40 (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน (ต่างประเทศ) ขณะที่มีสินค้าสำคัญ หลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ แก๊สโซฮอล์ ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว น้ำยาระงับกลิ่นกาย แป้งผัดหน้า) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ) และเสื้อผ้า (กางเกงขายาวบุรุษ เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี) เป็นต้น -511 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]