PRTR นิวไฮปี 67 รายได้พุ่งแตะ 7,357 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – PRTR นิวไฮปี 67 รายได้พุ่งแตะ 7,357 ล้านบาท ธุรกิจ Outsource โตเด่น ชูเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 13 มี.ค.นี้


PRTR ผู้นำด้าน Total HR Solutions ในประเทศไทย สร้างสถิติใหม่! ประกาศผลประกอบการปี 67 ทำสถิติสูงสุด (New High) ด้วยรายได้ 7,357 ล้านบาท เติบโต 14.7% กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 227.3 ล้านบาท เติบโต 10.1% จากดีมานด์ธุรกิจ Outsource ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายของปี ทำนิวไฮรายไตรมาส รับกิจกรรมทางการตลาดและการขยายฐานลูกค้า และเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น สำหรับปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 10-15% มองโอกาสธุรกิจ Outsource เป็นเครื่องมือสำคัญขององค์กรยุคใหม่ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความยืดหยุ่นในยุคเศรษฐกิจผันผวน ในส่วนธุรกิจ Recruitment การจ้างงานเติบโต จากภาพการลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวจากภาคเอกชน และแรงส่งจากภาครัฐสนับสนุนเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ด้าน PINNO ธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์บริหารจัดการบุคลากร ขึ้นแท่นธุรกิจดาวรุ่ง คาด Break Even ปีนี้

นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR เปิดเผย ภาพรวมความสำเร็จของผลประกอบการบริษัทฯ งวดประจำปี 2567 (มกราคม – ธันวาคม 2567) ทำสถิติสูงสุดได้อีกครั้ง โดยมีรายได้รวม 7,357 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.7% ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 227.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.1% ขณะที่โค้งสุดท้ายของปีในไตรมาส 4/2567 เป็นช่วงไฮซีซั่น PRTR ทำสถิติ New High รายได้รวมอยู่ที่ 1,961 ล้านบาท


ความสำเร็จในปี 2567 จากการเติบโตของธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource) มีพนักงานพุ่งแตะ 19,022 ราย จากเป้าเดิมที่วางไว้ 18,500 ราย เป็นธุรกิจหลักที่สร้าง Recurring Income มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 95.9% จากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Consumer Electronics) กลุ่มสื่อสารและโทรคมนาคม กลุ่มธนาคารและประกัน (Banking & Insurance) รวมทั้ง อีคอมเมิร์ซและไอที (E-Commerce & IT) พร้อมตั้งเป้าขยายพนักงานในธุรกิจ Outsource เป็น 21,000 คน ในปี 2568 โดยจะขยายไปยังกลุ่มอาชีพใหม่ เช่น แม่บ้าน พนักงานขับรถ พนักงานขายผลิตภัณฑ์ยาและสุขภาพ ที่ปรึกษาด้านความงาม (Beauty Advisor – BA) รับทิศทางตลาด Outsource กลายเป็นทางเลือกสำคัญขององค์กรในยุคเศรษฐกิจผันผวน เพราะช่วยลดต้นทุนด้านทรัพยากรบุคคล และเพิ่มความยืดหยุ่น

สำหรับ ธุรกิจบริการสรรหาพนักงาน (Recruitment) มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 3.3% แม้ในปี 2567 จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อดีมานด์ในการสรรหาพนักงานระดับ C Level ลดลง แต่มองปีนี้เป็นโอกาสผลักดันธุรกิจ Recruitment ให้เติบโต มองการลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐบาลที่ส่งเสริมการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ช่วยสนับสนุนความต้องการตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ธุรกิจใหม่มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการบริหารจัดการบุคลากร (Human capital management software) ภายใต้ PINNO คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน สามารถ Break Even ได้ในปีนี้ ด้วยซอฟต์แวร์ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็กได้ดี และยังเตรียมแผนขยับเจาะกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ในปีนี้ สำหรับธุรกิจให้บริการฝึกอบรมแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มและออฟไลน์ (Integrated Learning Services) โดย BLACKSMITH มองว่าเติบโตในทิศทางที่เราคาดหวังไว้ สอดรับการเทรนด์องค์กรที่มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กร


“PRTR มุ่งมั่นขยายตลาดและพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการบริหาร แต่ยังเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รองรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568 มองว่ามีการขยายตัว ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และการลงทุนจากภาคเอกชน กระตุ้นความต้องการแรงงานในหลากหลายอุตสาหกรรม

ในด้านความต้องการตลาดแรงงาน องค์กรจะมองหาพนักงานที่มีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหา รวมถึงความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล แม้ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่แรงงานมนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อน และเป็นโอกาสสำคัญที่ PRTR จะขยายธุรกิจต่อไป โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องในระดับ 10-15% จากปีก่อน” นางสาวริศรา กล่าว

ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติกำหนดวันประชุมและระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เห็นควรให้นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 150 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 14 มีนาคม 2568 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 13 มีนาคม 2568 และวันที่จ่ายปันผลคือ 16 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]